กรุงเทพฯ 14 พ.ค. – มาแจ๊สติกฯ ตัวแทนจำหน่ายตั๋วการบินไทย ยืนยันมีรายได้จากการขายตั๋วการบินไทยตลอด 25 ปีที่ผ่านมาไม่ถึง 50 ล้านบาท เตรียมฟ้องสื่อที่ออกข่าว ทำให้ถูกเกลียดชัง หากชนะคดีขอให้จ่ายรายละ 20 บาท พร้อมทำให้ภาพลักษณ์บริษัทกลับไปดีดังเดิม
นายชูติวุฒิ สุวานิชย์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาแจ๊สติก แทรเวล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หนึ่งในตัวแทนจำหน่ายบัตรโดยสารของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดแถลงข่าวช่วงบ่ายวันนี้ (14 พ.ค.) โดยระบุว่ากรณีที่มาแจ๊สติกฯ ถูกระบุว่า เป็น 1 ใน 5 เสือเอเย่นตัวแทนจำหน่ายตั๋วการบินไทยมีรายได้จากการจำหน่ายตั๋วจำนวนมากรวม ๆ กันถึง 18,000 ล้านบาทต่อปีนั้น เรื่องนี้ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เพราะตลอด 25 ปีที่เป็นตัวแทนจำหน่ายบัตรโดยสารให้การบินไทย คือ ตั้งแต่ปี 2533-2562 มีรายได้รวมทั้งสิ้นไม่ถึง 50 ล้านบาท และจากทุก ๆ สายการบินรวมกันมีรายได้รวมในส่วนนี้ไม่ถึง 100 ล้านบาท ทั้งนี้โดยภาพรวมการบินไทยมีตัวแทนจำหน่ายบัตรโดยสารการบินไทยทั้งหมดประมาณ 200 ราย
“บริษัทจะฟ้องสื่อที่ลงข่าวไม่เป็นความจริง ทำให้บริษัทถูกเกลียดชัง สูญเสียภาพลักษณ์ในตลาด เพราะมีการเขียนข่าวระบุถึงขั้นว่า เป็นอั้งยี่ ซ่องโจร หากบริษัทชนะคดีจะเรียกค่าเสียหายรายละ 20 บาท และที่เหลือต้องตามชดใช้ โดยจะต้องทำให้ภาพลักษณ์ของบริษัทฯ ที่เสียหายไปคืนกลับมาดี เท่ากับช่วงก่อนที่จะถูกตราหน้า และจะฟ้องตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 ด้วย และการฟ้องคดีครั้งนี้ไม่ได้หารือกับบริษัทที่เป็นตัวแทนจำหน่ายบัตรโดยสารการบินไทยรายอื่น ๆ มาก่อน การฟ้องไม่ฟ้องเป็นการตัดสินใจของแต่ละบริษัทเอง การเขียนข่าวจะต้องตรวจสอบความถูกต้องก่อน ไม่ใช่เขียนผิดแล้วมาขอโทษ” นายชูติวุฒิ กล่าว
ดังนั้น สิ่งที่สื่อมวลชนตีข่าวออกมาไม่ตรงกับความเป็นจริง การบินไทยเป็นที่รักของประชาชน ข่าวที่ออกมาทำให้บริษัทถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของการทำให้การบินไทยล่มสลายหรือขาดทุน ซึ่งวิธีการขั้นตอนต่าง ๆ อยู่ในระบบของตัวแทนจำหน่ายและการขายอยู่แล้ว ไม่ว่าจะขายตั๋วให้การบินไทยหรือสายการบินอื่น ๆ ดังนั้น หากระบุว่าการบินไทยให้คอมมิชชั่นตัวแทนจำหน่ายแล้วล้มละลายต้องไปดูสายการบินอื่น ว่า ให้คอมมิชชั่นเหมือนกันทำไมยังดำเนินกิจการต่อไปได้ ที่จริงแล้วตัวแทนจำหน่ายบัตรโดยสารการบินไทย ทำให้การบินไทยขาดทุนคงไม่เป็นความจริง เพราะตัวแทนจำหน่ายเป็นผู้ช่วยการบินไทยเสียด้วยซ้ำไป
“ขอยืนยันว่าตัวแทนจำหน่ายตั๋วการบินไทย คงไม่ใช่ตัวการสำคัญ หรือเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้การบินไทยขาดทุน น่าจะเป็นแพะมากกว่าในกรณีที่พูดกันมาอยู่ 2 เดือนที่ผ่านมา ทั้งฝ่ายการบินไทยและฝ่ายรัฐบาล อย่างไรก็ตาม จากวันนี้ไปบริษัทยังคงทำหน้าที่เป็นตัวแทนจำหน่ายบัตรโดยสารเครื่องบินให้การบินไทยต่อไป” นายชูติวุฒิ กล่าว
นายชูติวุฒิ กล่าวว่า บริษัท มาแจ๊สติกฯ เป็นตัวแทนจำหน่ายตั๋วเครื่องบินให้กับการบินไทยและเป็นตัวแทนให้กับหลายสายการบิน โดยมีรายได้จากค่าคอมมิชชั่นหรือการบวกค่าบริการจากผู้ซื้อตั๋วโดยสาร โดยในอดีตการบินไทยเคยให้ค่าคอมมิชชั่นแก่ตัวแทนจำหน่ายตั๋ว จนถึงปี 2543 อัตราร้อยละ 9 และหลังปี ค.ศ. 2551 ปรับลดลงเหลือร้อยละ 7 ทยอยลดลงเหลือ ร้อยละ 5 จนถึงต้นปี 2562 ลดลงเหลือร้อยละ 0 ทางบริษัท มาแจ๊สติกฯ จึงหารายได้จากการคิดค่าบริการจากลูกค้าที่จองซื้อตั๋วการบินไทยเป็นหลัก เช่น ราคาตั๋วการบินไทย 10,000 บาท ก็จะคิดค่าบริการร้อยละ 2-5 ตามแต่กรณีไป และที่จริงแล้วกำไรของจะอยู่ในระดับเพียงร้อยละ 0.5 เท่านั้น เพราะรับบัตรเครดิต จึงต้องจ่ายเงินกับทางธนาคารและให้ลูกค้าผ่อน 6 เดือนด้วย ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่การบินไทยให้ค่าตอบแทนร้อยละ 5 ในปี 2551
“มาแจ๊สติกฯ มีรายได้จากการเป็นตัวแทนจำหน่ายตั๋วโดยสารให้การบินไทย จากเดิมมีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 60 ขณะนี้ลดลงมาเหลือประมาณร้อยละ 36-38” นายชูติวุฒิ กล่าว.-สำนักข่าวไทย
