ก.แรงงาน เสริมทักษะกิจการรายย่อย รองรับวิถีใหม่สู้โควิด-19

ก.แรงงาน 14 พ.ค.- ก.แรงงาน เสริมทักษะผู้ประกอบการกิจการรายย่อย เน้นพัฒนาทักษะสำคัญสำหรับการประกอบธุรกิจ รองรับสังคมไทยปรับตัวสู่วิถีชีวิตแบบใหม่ สู้วิกฤติโควิด – 19 


นายธวัช  เบญจาทิกุล  อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กพร.ได้ร่วมกับสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เร่งให้ความช่วยเหลือสถานประกอบกิจการรายย่อยด้านการฝึกอบรมเพิ่มทักษะการประกอบธุรกิจ โดยเบื้องต้นได้สำรวจความต้องการฝึกอบรมระยะสั้นของ ผู้ประกอบกิจการที่เข้าร่วมเป็นสมาชิกสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย และได้มอบหมายให้สถาบันและสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงาน (สพร.และ สนพ.) จำนวน 26 แห่ง ดำเนินการประสานสถานประกอบกิจการในพื้นที่เพื่อดำเนินการฝึกอบรมกว่า 30 หลักสูตร โดยแบ่งออกเป็น 33 รุ่นๆ ละ 30 คน รวม 780 คน 


นายธวัช  กล่าวต่อไปว่า สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน (สพร.) และสำนัก งานพัฒนาฝีมือแรงงาน (สนพ.) จำนวน 26 แห่งที่ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการ เป็นจังหวัดที่มีสถานประกอบกิจการที่เป็นสมาชิกสมาพันธ์เอสเอ็มไทย ซึ่งมีความพร้อมและต้องการเพิ่มทักษะให้แก่พนักงาน อีกทั้งยังเป็นกลุ่มสถานประกอบกิจการ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้แก่ นครปฐม นนทบุรี ราชบุรี กทม. พะเยา น่าน เชียงราย แพร่ อุตรดิตถ์ ปราจีนบุรี นครนายก ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ มหาสารคาม มุกดาหาร ขอนแก่น นครราชสีมา อุดรธานี หนองคาย นครพนม สกลนคร สตูล นครศรีธรรมราช สงขลา พัทลุง และ ยะลา

หลักสูตรที่จะดำเนินการฝึกอบรมเน้นพัฒนาทักษะสำคัญสำหรับการประกอบธุรกิจ รองรับสังคมไทยปรับตัวสู่วิถีชีวิตแบบใหม่ (New Normal) เช่น การพัฒนาทักษะการถ่ายทอดสดออนไลน์  Digital Marketing  การบริหารภาษีที่เกี่ยวข้องกับสิทธิประโยชน์ของพนักงาน ทรัพย์สินทางปัญญาพารวย และการสร้าง Contents ให้โดนใจผู้บริโภค เป็นต้น   ทั้งนี้ จะเริ่มการฝึกอบรมหลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลายแล้ว


“การฝึกอบรมเพิ่มทักษะ SMEs ครั้งนี้เป็นการดำเนินการตามนโยบายของ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่ต้องการให้ช่วยเพิ่มศักยภาพกำลังแรงงานในกลุ่มของ SME สร้างความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจฐานราก เน้นพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs ให้มีทักษะในการประกอบธุรกิจ สร้างงาน สร้างรายได้ที่มั่นคง และร่วมกันฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ สำหรับสถานประกอบกิจการอื่นที่สนใจ กพร.ยังมีการฝึกอบรมอีกหลากหลาย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 กด 4 หรือกองสื่อสารองค์กร 0 2245 4035” อธิบดีกพร.กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”