นักวิชาการสิ่งแวดล้อมทางทะเล ชี้พลิกวิกฤติโควิดเป็นโอกาสการท่องเที่ยว

กรุงเทพฯ 14 ..- นักวิชาการสิ่งแวดล้อมทางทะเล ชี้สถานการณ์โควิด-19 พลิกวิกฤติเป็นโอกาสดีเซตซีโร่การท่องเที่ยว ปรับเปลี่ยนเริ่มนับหนึ่งเป็นการท่องเที่ยววิถีใหม่อนุรักษ์ทะเลไทย


ผศ.ดร.ธรณ์ ธํารงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมทางทะเล กล่าวถึงแนวคิดการท่องเที่ยววิถีใหม่ทะเลไทย ว่ามาตรการปิดการท่องเที่ยวทางทะเลช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิดทำให้สัตว์ทะเลจำนวนมากที่หายากกลับคืนสู่ธรรมชาติอีกครั้ง ส่งผลให้คนไทยเกิดกระแสรักและหวงแหนทะเล อยากให้ธรรมชาติแบบนี้คงอยู่ต่อไป แม้จะเปิดให้การท่องเที่ยวกลับมาเป็นปกติ จึงเป็นโจทย์ให้เหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กลับมาทบทวนคิดหาแนวทางที่ชัดเจนว่าจะจัดการท่องเที่ยวอย่างไร โดยเฉพาะในอุทยานทั่วประเทศ 150 แห่ง ที่แบ่งเป็นอุทยานทางบก 124 แห่ง และอุทยานทางทะเลอีก 26 แห่ง จึงเป็นที่มาของการปิดอุทยานปีละอย่างน้อย 2 เดือน เพื่อให้ธรรมชาติกลับมาฟื้นตัว


สำหรับการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ทางทะเลที่เกิดขึ้นจะต้องมีการจำกัดคนเข้าพื้นที่ในแต่ละหาด มีระยะห่างบนเรือ มีการลงทะเบียนและสามารถควบคุมนักท่องเที่ยวได้ ให้สอดคล้องกับแนวทางป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด ควบคู่กับการอบรมผู้ประกอบการให้ความรู้และส่งเสริมให้มีความรับผิดชอบ ร่วมกันกับนักท่องเที่ยวในการรักษาสิ่งแวดล้อม เช่นการไม่ให้อาหารปลา ไม่จับสัตว์น้ำมาเลี้ยง มาถ่ายรูป ไม่ทิ้งขยะและไม่ทำลายความอุดมสมบูรณ์ของทะเล


ช่วงโควิดปิดการท่องเที่ยวถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่การท่องเที่ยวจะได้เริ่มเซตซีโร่ แล้วค่อยๆ เดินไปสู่การท่องเที่ยววิถีใหม่ ซึ่งหากมีการผ่อนปรนคลายล็อกเปิดให้ท่องเที่ยวได้ เริ่มต้นที่นักท่องเที่ยวชาวไทย เมื่อคนไทยมีความเข้าใจว่าจะเที่ยวอย่างไรโดยไม่ทำลายธรรมชาติแล้ว จากนั้นนักท่องเที่ยวมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้การท่องเที่ยวค่อยๆฟื้นตัว ในอนาคตเมื่อมีนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับเข้ามาก็จะได้มีแผนที่ใช้เป็นแนวทางปฏิบัติได้ และจังหวะนี้ถือเป็นโอกาสดีที่ในการพลิกฟื้นทะเลไทย ให้เกิดการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน เพราะที่ผ่านมาแม้จะมีความพยายามทำ แต่ก็ยาก เพราะทุกอย่างไม่หยุดนิ่ง เหมือนเรากำลังจะซ่อมเครื่องจักร แต่หากเครื่องจักรยังทำงานอยู่ ฟันเฟืองไม่หยุดนิ่ง การจะเข้าไปซ่อมแซมก็ทำได้ยาก แต่ตอนนี้การท่องเที่ยวหยุดนิ่งแล้ว และเมื่อรวมกับกระแสของคนในสังคมที่ต้องการอนุรักษ์ความสมบูรณ์ทางทะเล จึงเป็นช่วงที่เหมาะสมในการจัดการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพดร.ธรณ์กล่าว .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย