ยธ. 13 พ.ค.- รมว.ยุติธรรม ย้ำแนวทางปิดจุดอ่อนในคดีครูล่วงละเมิดทางเพศนักเรียนใน จ.มุกดาหาร ใช้ ม.237 ป.วิอาญา สืบพยานต่อหน้าศาล ลดเวลาไม่ให้จำเลยแอบล็อบบี้ขอยอมความซึ่งจะเป็นประโยชน์กับผู้เสียหาย
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณี ครู 5 คนและรุ่นพี่ 2 คน ล่วงละเมิดทางเพศนักเรียนใน จ.มุกดาหาร ว่า เวลานี้ประชาชนเกิดความกังวลว่าเมื่อถึงตอนจบจะเหมือนกับมวยล้มต้มคนดู โทษควรจะถูกดำเนินคดีพิพากษาออกมาสูงๆ แต่ว่าสุดท้ายแล้วเหลือนิดเดียว ตนคิดว่าเป็นปัญหาหนึ่งที่เห็นว่าเป็นจุดอ่อนเพราะกระบวนการฟ้องศาลล่าช้า จึงติดว่าทำอย่างไรจะให้เร็วขึ้น ซึ่งย้ำว่าอาจจะใช้แนวทางของกฎหมาย ป.วิ อาญา มาตรา 237 ทวิ ให้ศาลใช้วิธีการสืบพยานก่อนฟ้อง ทำการสืบพยานต่อหน้าศาลขั้นตอนอื่น เมื่อสืบพยานเสร็จ จำเลยต่างๆ ที่จะมาล็อบบี้เจรจากับเจ้าทุกข์หรือญาติจะทำได้ยาก เรื่องนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้ถูกกระทำ เมื่อฝ่ายจำเลยถ้าเห็นเรื่องดังกล่าวเหล่านี้แล้วอาจจะรับสารภาพหรือยอมให้ศาลปรับ เสียค่าชดเชยต่างๆ ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ใช่ไปแอบเจรจากัน ได้เงินเล็กๆ น้อยๆ แล้วก็ยอมความกัน
ซึ่งมาตรา 237 ทวิ เป็นอำนาจพิเศษของอัยการที่จะขอต่อศาลได้ โดยให้ผู้เสียหายร่วมกับยุติธรรมจังหวัดไปยื่นคำร้องกับพนักงานสอบสวน เพื่อให้พนักงานสอบสวนยื่นไปที่อัยการ แล้วอัยการเห็นชอบก็ไปขอยื่นคำร้องไปถึงศาล ถ้าศาลรับเรื่องก็ใช้เวลาที่ศาลก็อาทิตย์เดียวจบเลย แต่ว่าก่อนที่ไปถึงศาลถึงขั้นตอนของตำรวจ อัยการ ไม่รู้เท่าไร แต่เร็วกว่าแบบเดิมแน่นอน
เมื่อถามว่า คดีนี้ผู้ต้องหาได้รับการประกันตัวคนละ 3 แสนบาท ทำไมพนักงานสอบสวนไม่คัดค้านการประกันตัว ทั้งที่คดีนี้มีอัตราโทษค่อนข้างสูงถึงขั้นจำคุกตลอดชีวิต นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนเข้าใจว่าพนักงานสอบสวนค้านอยู่ แต่ว่าศาลคงเห็นว่าจำเลยไม่ได้หนี ไปมอบตัวเอง เป็นเรื่องเป็นดุลยพินิจของศาลไม่ไปก้าวก่าย ส่วนเรื่องที่ว่าผู้ต้องหากับคนทำคดีนามสกุลคล้ายกันจึงทำให้ประกันตัวง่ายขึ้น ในทางกฎหมายของตำรวจนั้น ก็คิดว่าเขาคงไม่ปล่อยให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ตรงนี้แน่นอน
เมื่อถามว่าทางกระทรวงยุติธรรมได้เน้นย้ำให้ยุติธรรมจังหวัดหรือผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีนี้อย่างไรบ้างเพื่อจะให้ความเป็นธรรมกับตัวเด็กผู้เสียหาย นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ยุติธรรมจังหวัดเป็นผู้ดำเนินการดูเรื่องค่าเสียหายชดเชย และทางกระทรวงยุติธรรมได้ประสานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าไปเยียวยาสภาพจิตใจตัวเด็กและครอบครัวด้วย มีทั้งมูลนิธิและเจ้าหน้าที่คุ้มครองพยาน ทุกคนเข้าไปทำหน้าที่อย่างเต็มที่.-สำนักข่าวไทย