พรรคประชาธิปัตย์ 13 พ.ค.-“องอาจ” ปลื้มคนไทยมีน้ำใจตั้งตู้ปันสุข ฝากรัฐตั้งโรงทานช่วยเหลือคนเดือดร้อน จนกว่าสถานการณ์โควิด-19 จะคลี่คลาย
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคและประธาน ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีผู้มีจิตศรัทธาจัดตั้ง “ตู้ปันสุข” ตามจุดต่าง ๆ ทั่วไทย ว่า นับเป็นเรื่องดีที่แสดงออกถึงการมีน้ำใจของคนไทย ซึ่งช่วยทำให้คนที่พอมีมากกว่าคนอื่นช่วยเหลือเจือจานคนที่เดือดร้อนจากวิกฤติโควิด-19 เพราะเราต้องยอมรับความจริงว่าคนที่เดือดร้อน ไม่มีงานทำ ไม่มีรายได้ ยังมีอยู่อีกเป็นจำนวนมาก ทุกคนต่างพยายามดิ้นรน ช่วยเหลือตัวเองทุกวิถีทางเท่าที่จะทำได้ แต่ก็มีคนอีกไม่น้อยที่รอความช่วยเหลือจากภาคส่วนต่าง ๆ ซึ่งการตั้งตู้ปันสุขตามจุดต่าง ๆ ทั่วไทย นับเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่คนเดือดร้อนได้มีโอกาสใช้ชีวิตต่อไปได้ระยะเวลาหนึ่งจนกว่าสถานการณ์โควิด-19 จะคลี่คลายเข้าสู่สภาวะปกติมากกว่านี้
นายองอาจ กล่าวว่า ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ได้มี ส.ส. อดีต ส.ส. และผู้สมัคร ส.ส. หลายคนได้ร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่จัดตั้งตู้ปันสุขตามจุดต่าง ๆ ในพื้นที่ โดยมีชาวบ้านให้ความร่วมมือช่วยกันดูแล เราจะนำตู้ไปตั้งในจุดที่มีคนพลุกพล่าน พอมีคนช่วยกันดูแล ไม่ให้มีคนฉวยโอกาสกวาดนำของไปจนหมดตู้ ขอให้กำลังใจผู้มีจิตศรัทธา เจตนาดีที่พร้อมแบ่งปันความสุขให้ผู้อื่นเดินหน้าแบ่งปันกัน ด้วยใจที่มีความสุข เพื่อคนดี ๆ ที่เดือดร้อนต่อไป
“นับเป็นเรื่องน่ายินดีที่คนไทยผู้มีน้ำใจจำนวนมากช่วยกันบริจาคอาหาร ข้าวของต่าง ๆ หลากหลายช่องทาง รวมทั้งการตั้งตู้ปันสุขเพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกันในยามวิกฤติ ถือเป็นกำลังเสริมอันสำคัญของสังคมไทยที่จะทำให้เราเดินหน้าต่อไปได้” นายองอาจ กล่าว
นายองอาจ กล่าวอีกว่า ในสถานการณ์ที่ยังไม่สามารถคลายล็อกเข้าสู่สภาวะปกติได้ ย่อมมีคนที่ไม่มีงานทำ ไม่มีรายได้พอประทังชีวิต ยังต้องการความช่วยเหลือเรื่องอาหารการกินพอให้อิ่มทองได้ในแต่ละวัน จึงขอฝากให้รัฐบาลนำเงินกู้ 1 ล้านล้านบาทส่วนหนึ่งมาทำโรงทาน เลี้ยงดูคนที่ยังเดือดร้อนในพื้นที่ที่มีความจำเป็นจริง ๆ ซึ่งภาครัฐน่าจะพอสำรวจตรวจสอบได้อยู่แล้วว่าพื้นที่ไหนควรเข้าไปตั้งโรงทานบ้าง เพราะการตั้งโรงทานน่าจะช่วยคนเดือดร้อนได้มาก เพราะถ้าโควิด-19 ยังอยู่กับเราไปอีกนาน ไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ก็ย่อมมีคนเดือดร้อนจำนวนหนึ่งที่ภาครัฐต้องเข้าไปดูแล การตั้งโรงทานจึงช่วยได้ทั้งคนที่เดือดร้อนอย่างมากขณะนี้ และคนที่อาจจะเดือดร้อนเพิ่มขึ้นถ้าสถานการณ์ยังไม่ปกติ.-สำนักข่าวไทย