ทำเนียบ 10พ.ค.-ศปม. ระบุสถิติ หลังผ่อนปรนมาตรการ กระทำผิดมากขึ้น โดยเฉพาะมั่วสุมดื่มสุรา ขอบคุณสถานประกอบการให้ความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการ หลังผ่อนคลายระยะแรก หากพบไม่ทำตามมาตรการ โทรแจ้งสายด่วน ลงไปตรวจได้
พลตำรวจโทปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยบัญชาการตำรวจแห่งชาติ และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า วันนี้ครบรอบ 7 วันพอดี หลังจากนายกรัฐมนตรีมีข้อกำหนดผ่อนคลายหลายมาตรการ โดยศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) ที่มีพลเอกพรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเป็นหัวหน้าศูนย์ หารือกับผู้บัญชาการเหล่าทัพต่างๆ เพื่อปรับแผนการปฏิบัติงาน โดยเพิ่มสายตรวจร่วมทั้งตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง กรุงเทพมหานคร และสาธารณสุข ลงพื้นที่ที่มีการผ่อนคลายมากขึ้น พบว่า 1 สัปดาห์ก่อนการผ่อนปรน มีการตักเตือนและดำเนินคดีผู้กระทำผิด 4,407 คน แต่หลังผ่อนปรนเพิ่มขึ้นเป็น 5,363 คน สูงขึ้นร้อยละ 21 ซึ่งประชาชนบางส่วนยังไม่ปรับการใช้ชีวิตประจำวัน ออกจากบ้านโดยไม่มีเหตุอันควร โดยเฉพาะการรวมกลุ่มชุมนุมมั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ มีความผิดการมั่วสุมดื่มสุราเพิ่มสูงขึ้น และการพนันยังมีอยู่เรื่อยๆ
พลตำรวจโทปิยะ กล่าวว่า ฝ่ายปกครองเองอยากตักเตือน แต่หากไม่ไหวจริงๆ เตือนแล้วไม่ทำตามก็ต้องดำเนินคดี โดยย้ำว่าขณะนี้ยังเป็นการบังคับใช้กฎหมายตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ และขอความร่วมมือประชาชนเพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาด โดยเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสถานประกอบการที่ได้รับการผ่อนคลาย พบว่าช่วงวันที่ 3 และ 4 พฤษภาคม มีผู้ฝ่าฝืนมาตรการค่อนข้างเยอะ แต่เมื่อคืนนี้สถานการณ์ดีขึ้นตัวเลขลดลงไปเยอะพอสมควร กิจการต่างๆ ให้ความร่วมมือตามมาตรการป้องกันโรค
ส่วนการเปิดตลาดนัดสวนจตุจักร พลตำรวจโทปิยะ กล่าวว่า ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ประชุมร่วมมือกันวางมาตรการต่างๆ ซึ่งการเปิดตลาดสวนจตุจักรเห็นภาพที่น่าชื่นใจ ทุกจุดมีเจ้าหน้าที่ทั้งของกรุงเทพมหานคร สำนักงานเขต ตำรวจ ทหาร และฝ่ายสาธารณสุขตรวจตามระบบ ภาพรวมน่าพอใจ แต่หากพบผู้ประกอบการ ไม่ทำตามมาตรการให้แจ้งได้ที่ 1380 ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง ,1599 และ 191 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ , 1356 ศูนย์ปลอดภัยคมนาคม กระทรวงคมนาคม , 1584 กรมการขนส่งทางบก
พลตำรวจโทปิยะ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีย้ำว่า เป้าหมายคือทำทุกวิถีทาง ให้ประชาชนกลับเข้าสู่วิถีชีวิตโดยปกติให้เร็วที่สุด โดย ศปม. ทำงานสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ ไม่ได้มีเป้าหมายเน้นการลงโทษหรือปรับ แต่เมื่อมุ่งหวังให้คนปฏิบัติตามกฎกติกา เชื่อว่าคนไทยจะให้ความร่วมมืออย่างดี.-สำนักข่าวไทย