นอ.อนุดิษฐ์ ชี้มาตรการเยียวยาล้มเหลว มีปัญหาทุกกลุ่ม

กรุงเทพฯ 7 พ.ค. -เพื่อไทย จี้เยียวยาประชาชนทั่วถึง ชี้มาตรการรัฐล้มเหลวเยียวยาประชาชน หลังมีมาตรการช่วยเหลือพบปัญหาทุกกลุ่ม


น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ชี้แจงมติที่ประชุมของคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค ต่อมาตรการเยียวยาของรัฐบาลที่ต้องใช้เงิน 600,000 ล้านบาทจาก พ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ว่า หลังจากรัฐบาลกำหนดมาตรการต่าง ๆ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 และประกาศ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากต้องหยุดงาน หรือลดเวลาทำงานลง ทำให้ขาดรายได้ไม่พอเลี้ยงชีพ และต่อมารัฐบาลได้อนุมัติเงินเยียวยาเพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบทุกคน ซึ่งถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องรีบดำเนินการให้รวดเร็ว ทั่วถึงและทันเวลา แต่หลังจากรัฐบาลประกาศมาตรการเยียวยาและดำเนินการช่วยเหลือมาจนถึงวันนี้ พรรคเพื่อไทยยังได้รับการร้องเรียนอย่างต่อเนื่องจากประชาชนทั่วประเทศว่า ผู้ได้รับผลกระทบจำนวนมากยังไม่ได้รับความช่วยเหลือตามสิทธิ์ และได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสเพราะไม่มีรายได้มาจุนเจือครอบครัว ซึ่งพรรคเพื่อไทยตระหนักถึงความทุกข์ดังกล่าว จึงได้เรียกร้องและเสนอแนะรัฐบาลมาเป็นลำดับ แม้ผู้มีอำนาจจะพยายามแก้ไขและปรับปรุงข้อบกพร่องต่าง ๆ แต่การเยียวยาก็ยังไม่ทั่วถึงและทันเวลา 

น.อ. อนุดิษฐ์ กล่าวว่า  ดังนั้นเพื่อให้รัฐบาลดำเนินการช่วยเหลือผู้เดือดร้อนได้อย่างถ้วนหน้า พรรคเพื่อไทยจึงขอยืนยันจุดยืนในการใช้เงิน 600,000 ล้านบาท เพื่อเยียวยาประชาชน กลุ่มผู้ได้รับความเดือดร้อนตามมาตรการเยียวยา 5,000 บาท  3เดือน ได้แก่ ลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระ นอกระบบประกันสังคม ซึ่งจากข้อมูลของกระทรวงการคลังพบว่าขณะนี้มีผู้ลงทะเบียนผ่านเกณฑ์แล้ว 12.8 ล้านราย ซึ่งจะจ่ายให้ครบภายในกลางเดือนพฤษภาคมนี้ แต่ก็ยังมีผู้มีสิทธิ์ที่ตกหล่นยังไม่ได้รับความช่วยเหลือ และออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมอีกเป็นจำนวนมาก ดังจะเห็นได้จากกลุ่มผู้เดือดร้อนที่ยังไปประท้วงขออุทธรณ์สิทธิ์ที่กระทรวงการคลังอย่างต่อเนื่อง


เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ดังนั้นพรรคเพื่อไทยขอเรียกร้องให้รัฐบาลต้องดำเนินการชดเชยให้ครบถ้วนตามความเป็นจริงโดยด่วน และเชื่อว่ารัฐสามารถผ่อนปรนมาตรการและขยายความช่วยเหลือตามความเป็นจริงได้ถึง 20 ล้านคน นอกจากนี้ กลุ่มเกษตรกร ประมาณ 7 ล้านครอบครัว ขณะนี้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากปัญหาต่าง ๆ รอบด้าน เพราะการบริหารงานของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมายังไม่สามารถแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตร ราคาตกต่ำได้  ทำให้หนี้สินเกษตรกรเพิ่มพูนเป็นลำดับ ส่งผลให้คุณภาพชีวิตตกต่ำอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน นอกจากนี้ เกษตรกรยังประสบกับปัญหาภัยแล้ง สลับกับน้ำท่วม เป็นประจำทุกปี ซึ่งการเยียวยาผู้ประสบภัยปีล่าสุดพบว่า รัฐบาลยังค้างจ่ายค่าเยียวยาภัยแล้ง น้ำท่วมกับเกษตรกรเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเมื่อมาประสบปัญหาวิกฤตโควิต – 19 ซ้ำเติมจากปัญหาเดิมที่ค้างคาอยู่ จึงส่งผลให้เกษตรกรเดือดร้อนเป็นทวีคูณ พรรคเพื่อไทยจึงขอเรียกร้องให้ชดเชยเงินเกษตรกรเป็นเงิน 35,000 บาท ต่อครอบครัว 

น.อ.อนุดิษฐ์  กล่าวอีกว่า กลุ่มผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมตามมาตรา 33  ซึ่งมีอยู่ประมาณ 11 ล้านคน ขณะนี้ยังไม่ได้รับการชดเชยอีกเป็นจำนวนมาก ตัวเลขล่าสุดที่พรรคเพื่อไทยตรวจสอบพบว่าล่วงเลยมาเดือน พ.ค.แล้ว ยังมีผู้ประกันตนที่ยังไม่ได้รับเงินชดเชยมากกว่า 6 ล้านคน ซึ่งพรรคเพื่อไทยขอเรียกร้องให้ชดเชยผู้ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ให้ครบถ้วนโดยด่วนที่สุด ขณะที่กลุ่มเปราะบางทางสังคม ได้แก่ คนไร้สัญชาติ ผู้พิการ คนไร้ที่พึ่ง และผู้ที่ได้รับผลกระทบที่ยังตกสำรวจและไม่มีหน่วยงานใดเข้าไปดูแล คนกลุ่มนี้มีจำนวนไม่มากและยังต้องพึ่งพาตนเอง ดังนั้นพรรคเพื่อไทยจึงขอเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจสั่งการให้หน่วยงานที่รับผิดชอบสำรวจและดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบโดยด่วน อย่าปล่อยปละละเลยหรือทิ้งขว้าง เพราะทุกคนเป็นคนไทยเหมือนกัน

เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากการคำนวณงบประมาณที่ต้องใช้ในการเยียวยาประชาชนทั้งหมดตามที่พรรคเพื่อไทยเสนอนั้น ยังไม่เกินกว่ากรอบเงินกู้ 600,000 ล้านบาท และสามารถเยียวยาให้กับผู้เดือดร้อนได้ทุกกลุ่มโดยถ้วนหน้า แต่สิ่งที่รัฐบาลต้องรีบดำเนินการอย่างเร่งด่วนในขณะนี้ก็คือ ต้องรีบชดเชยให้กับผู้ที่ตกสำรวจ ผู้ขออุทธรณ์สิทธิ์ เกษตรกร รวมทั้งผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้รับเงินชดเชยอีกหลายล้านคน เพราะเวลาล่วงเลยมามากแล้ว แม้รัฐบาลจะมั่นใจว่าจ่ายครบอย่างแน่นอน แต่ต้องอย่าลืมว่าการจ่ายเงินต้องรวดเร็วและทันเวลาด้วยเพราะทุกคนต้องใช้เงินก้อนนี้ในการดำรงชีพ  


“รัฐบาลต้องใช้มาตรการเชิงรุก ด้วยการใช้กลไกรัฐที่มีอยู่ทั่วประเทศ ลงไปดูแลทุกข์สุขของประชาชน เพื่อค้นหาตัวเลขผู้เดือดร้อนที่แท้จริงมารับการเยียวยา ก่อนที่จะมีปัญหามากกว่านี้ ที่ผ่านมารัฐบาลพูดถึงแต่ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ลดลงซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่หลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงตัวเลขคนเดือดร้อนจากการบริหารงานที่ผิดพลาดของตัวเอง ตั้งแต่การล็อคดาวน์โดยไม่มีการวางแผนล่วงหน้า  หรือแม้กระทั่งการแจกเงินเยียวยาที่ไม่เท่าทันความเดือดร้อน จนเป็นที่มาของข่าวโศกนาฏกรรมรายวัน” น.อ.อนุดิษฐ์กล่าว

น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า สังคมไทยรู้สึกเสียใจต่อท่าทีของนายกรัฐมนตรีที่เมินเฉยต่อปัญหาการฆ่าตัวตายรายวัน ซึ่งนายกฯ ทำราวกับว่า เป็นเรื่องปรกติไปแล้วสำหรับคนในยุคนี้ ทั้งที่สาเหตุมาจากการเยียวยาที่ผิดพลาดและล่าช้า ซึ่งพรรคเพื่อไทยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้เดือดร้อนทั้งหมดที่ยังไม่ได้รับเงินชดเชยจะต้องได้รับสิทธิ์ของตนเองภายในวันที่ 10 พ.ค.นี้เป็นอย่างช้า.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ป.ป.ช.ตั้งองค์คณะไต่สวนจริยธรรมร้ายแรง “แพทองธาร” คลิปคุย “ฮุนเซน”

กทม. 14 ก.ค. – ป.ป.ช. มติเอกฉันท์ตั้งองค์คณะไต่สวนจริยธรรมร้ายแรงต่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปมคลิปเสียงคุยกับ “ฮุน เซน” ที่สำนักงาน ป.ป.ช. วันนี้มีรายงานว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ได้ประชุม และมีมติเป็นเอกฉันท์ให้แต่งตั้งองค์คณะไต่สวน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณีปรากฏคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งบริเวณแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา โดยนายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ประธานกรรมการ ป.ป.ช. และนายประภาศ คงเอียด กรรมการ ป.ป.ช. ร่วมเป็นองค์คณะไต่สวน การตั้งองค์คณะไต่สวนครั้งนี้ เป็นไปตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา51 ซึ่งเปิดช่องให้ ป.ป.ช. ตั้งกรรมการไม่น้อยกว่า 2 คนไต่สวนได้ในกรณีที่เกี่ยวข้องกับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับสูงมีผลกระทบต่อสาธารณะอย่างกว้างขวางหรือเกี่ยวพันกับองค์กรตุลาการ ก่อนหน้านี้ ป.ป.ช. มีมติรับเรื่องไว้พิจารณาเบื้องต้น และมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงภายใน 10 วัน โดยให้มีการถอดเทปคำสนทนาและจัดทำคำแปลจากภาษาต่างประเทศอย่างถูกต้อง ครอบคลุมการสอบพยาน และการศึกษา คดีเปรียบเทียบ เช่น […]

เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ลาสิกขา ปมโอน 13 ล้าน

พระนครศรีอยุธยา 14 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ สมัครใจลาสิกขา หลังโอนเงินกว่า 13 ล้าน ให้ “สีกากอล์ฟ” ยืนยันไม่มีสัมพันธ์เชิงชู้สาว แต่ยอมรับว่า “อ่อนต่อโลก” พระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทำพิธีลาสิกขาด้วยความสมัครใจในวันนี้ ภายหลังจากเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ลงพื้นที่ตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัด พร้อมสอบปากคำพระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสฯ นานเกือบ 3 ชั่วโมง พันตำรวจโท สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ท. เปิดเผยว่า อดีตเจ้าอาวาสฯ เต็มใจลาสิกขา เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย เพราะจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของสีกากอล์ฟ พบว่า เส้นเงินถูกโอนจากบัญชีส่วนตัวของอดีตเจ้าอาวาสฯ ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่า เป็นเงินที่ได้มาจากการรับกิจนิมนต์และสอนหนังสือ โดยโอนไปให้สีกากอล์ฟ รวม 12.8 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีเงินจากบัญชีวัดอีก 3.8 แสนบาท ซึ่งมีทั้งโอนผ่านโทรศัพพ์และให้เป็นเงินสด เริ่มโอนตั้งแต่เดือนมกราคมไปจนถึงเดือนกรกฎาคม 2567 ซึ่งในเดือนเดียวกันพบว่าโอนให้สีกากอล์ฟ […]

แก๊งจีนดำลวงเพื่อนร่วมชาติเรียกค่าไถ่ สังหารโหด

เชียงราย 14 ก.ค. – ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีแก๊งจีนดำฆ่าจีนเทา หลอกเพื่อนร่วมชาติมาเรียกค่าไถ่ที่เชียงใหม่ สังหารโหด และนำศพทิ้งกลางป่า ตำรวจพบศพนายหยาง อายุ 24 ปี สัญชาติจีน ถูกห่อด้วยถุงดำ และผ้าปูที่นอน แล้วใช้ผ้ายางพลาสติกห่อทับอีกชั้น ถูกนำมาทิ้งไว้ที่ป่าละเมาะข้างทางริมถนน ใกล้กับหมู่บ้านป่าเหว ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โดยก่อนหน้านี้ ได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจากพี่สาวของนายหยางให้ช่วยติดตามตัวน้องชาย หลังข้ามชายแดนมาจากเขตเศรษฐกิจพิเศษคิงส์โรมัน ในฝั่งลาว ผ่าน ตม.สบรวก อำเภอเชียงแสน ที่ จ.เชียงราย มาพร้อมกับนายฮูกัง เพื่อนชาวจีนอีกคนหนึ่ง โดยจ้างแท็กซี่เดินทางมายังเชียงใหม่ เมื่อ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมาและหายตัวไป ก่อนถูกเรียกค่าไถ่ 3 ล้านบาท เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พลตำรวจโทกฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า พบตัวนายฮูกัง เพื่อนชาวจีนที่เดินทางมากับนายหยาง และอ้างว่า ถูกนายซาง เบนซิน และนายหวังซวง นัดหมายให้พานายหยาง […]

“รมต.สุชาติ” เข้าพบสมเด็จฯ วัดไตรมิตร รับแนวทางแก้ปัญหาวงการสงฆ์

วัดไตรมิตร 14 ก.ค.- “รมต.สุชาติ” เข้าพบสมเด็จฯ วัดไตรมิตร รับแนวทางแก้ปัญหาวงการสงฆ์ ชี้ต้องร่วมมือกัน ทั้งตำรวจ-มส.-พศ. ย้ำต้องเร่งแก้ให้เร็วที่สุด ก่อนประชาชนหมดศรัทธา สั่งสำนักพุทธฯ ดูกฎหมายอาญา 206 เอาผิดสีกา ก. ได้หรือไม่ ย้อนถาม พศ. ทำไมไม่รู้ จี้ให้ทำงานเชิงรุก บอกหลัง 1 ต.ค.นี้ ทุกวัดต้องส่งรายงานการเงินทุกเดือนและทุกปี ตามกฎกระทรวงใหม่ นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางมายังวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เมื่อมาถึงได้เข้ากราบสักการะสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (สมเด็จธงชัย) เจ้าคณะใหญ่หนกลาง กรรมการมหาเถรสมาคม และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ก่อนเข้ากราบนมัสการสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก เพื่อรับแนวทางปฏิบัติ ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ภายหลังการเข้าพบสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) นานกว่า 30 นาที นายสุชาติ กล่าวว่า เรื่องสงฆ์ที่เกิดปัญหาอยู่ในขณะนี้ เป็นเรื่องที่มหาเถรสมาคม มีการประชุมตั้งแต่เมื่อวาน ซึ่งเป็นการประชุมเร่งด่วนฉุกเฉิน […]