ชี้มาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบโควิด ทั้งระบบล่าช้า

กรุงเทพฯ 5 พ.ค.-“จาตุรนต์” ชี้มาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทั้งระบบล่าช้า เสนอให้รัฐบาลเชิญคนหาเช้ากินค่ำหรือตัวแทนองค์กรที่ทำงานกับคนยากจนมาให้คำปรึกษา เผยทุกธุรกิจอยากเปิดแต่เปิดไม่ได้ เพราะประสบปัญหาไม่มีผู้ซื้อหรือไม่มีวัตถุดิบมาส่ง ส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจมากขึ้น


นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้น่าเป็นห่วงคนหลายสิบล้านกำลังเดือดร้อนสาหัสและยังจะเดือดร้อนมากขึ้น มาตรการเยียวยาช้ามากทั้งระบบ การคลายล็อกขาดการเตรียมการล่วงหน้า ทำให้ธุรกิจและคนทำมาค้าขายจำนวนมากไม่พร้อม รัฐทำราวกับว่าเห็นการเปิดกิจการและการทำมาค้าขายเป็นพิษเป็นภัยมากกว่าจะเห็นว่าเป็นความจำเป็นและเป็นประโยชน์ แทนที่จะหาทางช่วยเหลือ สำรวจว่ามีปัญหาอะไร ต้องการให้ช่วยเหลืออย่างไร กลับเน้นแต่การขู่คาดโทษ ทำให้จังหวัดต่าง ๆ แข่งกันใช้มาตรการเข้มเกินจำเป็น ภาคเอกชน คนทำมาค้าขายอยู่ไม่ได้ คนยังกลับมาทำงานไม่ได้ และคนตกงาน หยุดงานยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หากยังเดินกันไปเช่นนี้อีก 4-5 เดือนรัฐบาลก็จะไม่มีงบประมาณพอที่จะเยียวยา

นายจาตุรนต์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้มาตรการเยียวยาทั้งระบบล่าช้ามาก ในสัปดาห์นี้จะมีการจ่ายเงินเพิ่มอีกประมาณ 3 ล้านคน รวมแล้วประมาณ 11 ล้านคน หมายความว่า ผู้ที่เข้าข่ายได้รับการเยียวยาอีกประมาณ 5 ล้านคนต้องอยู่กันโดยไม่มีรายได้อะไรเลย รวมทั้งสิ้นจะนานถึง 2 เดือน ส่วนอีกประมาณ 5-6 ล้านที่ไม่เดือดร้อนแต่ไม่เข้าข่าย ก็ไม่รู้ว่ารัฐบาลจะดูแลอย่างไรและเมื่อใด ผู้ประกันตนกว่าครึ่งยังไม่ได้รับเงิน และเกษตรกร 10 ล้านคนก็ยังไม่ได้รับเงิน


“ที่ล่าช้าทั้งหมดนี้ไม่ใช่เพราะรัฐบาลไม่มีเงิน หรือหาเงินไม่ได้แล้ว แต่เป็นเพราะการบริหารจัดการที่ล้มเหลว ไม่มีการวางแผนล่วงหน้า ขณะที่มีการวางระบบที่ผิด ทำให้มีปัญหาทางธุรการมากไปโดยไม่จำเป็น ผู้ที่รับผิดชอบตั้งแต่หัวหน้ารัฐบาลลงมา ไม่เข้าใจว่านี่เป็นการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติเหมือนไฟไหม้หรือน้ำท่วมที่ต้องการให้ความช่วยเหลือทันที ทางออกในเรื่องนี้มีอยู่ทางเดียว คือ อะไรที่จ่ายได้ ให้จ่ายไปก่อน รัฐบาลน่าจะนึกย้อนหลังไปถึงช่วงที่ทั้งแจกทั้งแถมให้คนมีเงินอยู่แล้วไปเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจยังทำได้ เวลานี้คนเดือดร้อนกัน ทำไมจึงจ่ายยากจ่ายเย็น ผมอยากเสนอให้รัฐบาลเชิญคนหาเช้ากินค่ำหรือตัวแทนองค์กรที่ทำงานกับคนยากจนมาให้คำปรึกษาจะได้ช่วยให้ผู้รับผิดชอบที่มีรายได้ประจำเข้าใจความรู้สึกของคนที่ไม่มีจะกินว่าเป็นอย่างไร” ” นายจาตุรนต์ กล่าว

นายจาตุรนต์ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของการคลายล็อกให้เปิดกิจการทำกิจกรรมได้มากขึ้นนั้น เนื่องจากขาดการวางแผนล่วงหน้า ผู้ประกอบการและคนทำมาค้าขายจำนวนมากไม่กล้าเตรียมการล่วงหน้า ทำให้ไม่มีความพร้อมเปิดกิจการ สั่งคลายล็อคแล้ว แต่เพิ่งมีคู่มือปฏิบัติการต่าง ๆ ออกมา การปิดหรือเปิดก็ลักลั่น กิจการหลายอย่างยังถูกห้ามอยู่ ทั้ง ๆ ที่สามารถเปิดได้โดยมีมาตรการทางสาธารณสุขที่เหมาะสม รัฐทำราวกับว่าเห็นการเปิดกิจการและการทำมาค้าขายเป็นพิษเป็นภัยมากกว่าจะเห็นว่าเป็นความจำเป็นและเป็นประโยชน์  แทนที่จะหาทางช่วยเหลือ สำรวจว่าเขามีปัญหาอะไร ต้องการให้ช่วยเหลืออย่างไร กลับเน้นแต่การขู่คาดโทษ ทำให้จังหวัดต่าง ๆ แข่งกันใช้มาตรการเข้มเกินจำเป็น ภาคเอกชนและคนทำมาค้าขายไม่กล้าวางแผนลงทุน กิจการที่เปิดจำนวนมากก็กำลังประสบปัญหาไม่มีผู้ซื้อหรือไม่มีวัตถุดิบมาส่ง เพราะกิจการหลายประเภทถูกปิดหรืออยู่ไม่ได้มานาน รัฐบาลและกลไกราชการทั้งหลายไม่มีการถามว่าภาคเอกชนต้องการให้ช่วยเหลืออะไรอย่างไร มีแต่ขู่ตลอดว่าถ้าอย่างนั้นจะสั่งปิดอย่างนี้ จะให้หยุด หารู้ไม่ว่าต่อไปจะพบว่าธุรกิจจำนวนมากนั้น ถึงเวลาอยากให้เขาเปิด เขาก็เปิดกันไม่ได้

“ขณะนี้คนจำนวนมากยังกลับมาทำงานไม่ได้ และคนตกงานหยุดงานยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องถึงสิ้นเดือนมิถุนายน รัฐบาลจะต้องจ่ายเงินเยียวยาทั้งหมดประมาณ 4 แสนล้าน ซึ่งพอบรรเทาความเดือดร้อนของคนหลายสิบล้านคนได้บ้างเท่านั้น เพราะเงิน 5,000 บาทต่อเดือนนั้นมากว่าค่าแรงขั้นต่ำเพียงเล็กน้อยเท่านั้น อย่าลืมว่าวงเงินที่ใช้สำหรับการเยียวยาตาม พ.ร.ก.มีไม่ถึง 6 แสนล้าน หากยังเดินกันไปอย่างนี้ กิจการต่าง ๆ จะล้มอีกมาก และคนจะตกงานเดือดร้อนมากขึ้น ไม่ถึงเดือนกันยายน รัฐบาลก็จะไม่มีงบประมาณที่จะใช้สำหรับการเยียวยา จะกลายเป็นวิกฤติทางเศรษฐกิจ สังคมที่ใหญ่มาก การเน้นแต่ตัวเลขผู้ติดเชื้อเพียงอย่างเดียว ไม่ให้ความสนใจกับประชาชนที่กำลังไม่มีจะกิน ทำให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับแก้ปัญหาเศรษฐกิจน้อยเกินไป รัฐบาลจึงควรหาความสมดุลที่เหมาะสมระหว่างการรับมือการแพร่ระบาดกับการดูแลเศรษฐกิจและคนส่วนใหญ่ที่เดือดร้อนให้ได้” นายจาตุรนต์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

ตำรวจแจ้ง 4 ข้อหา “ทนายตั้ม-ภรรยา” เจ้าตัวปฏิเสธ

ตำรวจแยกสอบ ”ทนายตั้ม” และภรรยา แจ้ง 4 ข้อหาหนัก ฉ้อโกง และ พ.ร.บ.ฟอกเงิน โดยทั้งคู่ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา เตรียมคุมฝากขังพรุ่งนี้ พร้อมค้านประกันตัว

“ชูวิทย์” เข้าขอโทษ “สนธิ” เคลียร์ใจ มอบพวงมาลัยอวยพรวันเกิด

“ชูวิทย์” เข้าขอโทษ “สนธิ” เคลียร์ใจ มอบพวงมาลัยอวยพรวันเกิด ขณะ “สนธิ” โผกอด ลั่นลืมไปหมดแล้ว อวยพรกลับให้หายป่วยไว ๆ เดินหน้าขับไล่คนชั่วไม่ให้มีที่ยืนในสังคม

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน