รอผลตรวจเพิ่มเอกซเรย์ปอด 18 ต่างด้าวติดโควิด-19

สงขลา 4 พ.ค.- สสจ.สงขลาเผยชาวต่างด้าวถูกกักตัวพบติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 18 ราย ยังไม่มีอาการป่วย พร้อมวางแผนการรักษาระหว่างรอผลตรวจเพิ่มจากการเอกซเรย์ปอด หากมีภาวะอักเสบส่งรักษาทันทีโรงพยาบาลหลัก ส่วนที่เหลืออีก 45 แม้ยังไม่เสี่ยง แต่เฝ้าระวังอาการใกล้ชิด ส่งผลยอดป่วยรวมของจังหวัดเป็น 123 ราย


กรณีพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มอีก 18 ราย เป็นชาวต่างด้าวที่ถูกควบคุมตัวอยู่ภายในศูนย์กักตัว ผู้ต้องกัก ตรวจคนเข้าเมืองสงขลา อ.สะเดา ซึ่งการตรวจพบเชื้อครั้งนี้เป็นการตรวจเชิงรุก ภายหลังจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการระบาดของโรคเมื่อสัปดาห์ก่อน พร้อมกำชับให้ปฏิบัติการตรวจหาเชื้อเชิงรุกในกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่ถูกควบคุมตัวอยู่บนชั้น 2 ของอาคารศูนย์กักตัวผู้ต้องกักตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสงขลา อำเภอสะเดา ซึ่งมีจำนวน 28 ราย


นพ.อุทิศศักดิ์ หริรัตนกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ได้เปิดโรงพยาบาลสนามภายในศูนย์กักฯ สำหรับรักษาตัวแรงงานต่างด้าวที่ติดเชื้ออยู่ก่อนแล้ว เมื่อพบแรงงานต่างด้าวติดเชื้อเพิ่มอีก 18 ราย แพทย์จะได้ตรวจเอกซเรย์ปอด แต่ขณะนี้ทั้งหมดไม่ได้มีอาการป่วยใด ๆ หากผลเอกซเรย์ปอดพบว่ารายใดเริ่มมีปอดอักเสบหรือปอดบวมก็จะส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลหลักทันที หากยังไม่มีอาการเสี่ยงจะรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสนาม ส่วนแรงงานต่างด้าวกลุ่มเดิมที่ติดเชื้อก่อนนี้ 42 ราย ทั้งหมดมีอาการดีขึ้นตามลำดับ ขณะนี้ได้แยกชาวต่างด้าว 10 ราย ที่ไม่ติดเชื้อออกจากห้องกักที่มีผู้ติดเชื้อแล้ว ส่วนผู้ติดเชื้อนั้นทางทีมแพทย์ได้เข้าตรวจอาการแล้ว นำโดย นพ.สุวัฒน์ วิริยะพงษ์สุกิจ รักษาการผู้อำนวยการโรงพยาบาลสะเดา

“ชาวต่างด้าวอีก 45 ราย ถูกกักตัว อยู่อาคารด้านหลัง ของศูนย์กักฯ (ที่พบผู้ป่วยเป็นอาคารด้านหน้า) ซึ่งแยกออกจากกันโดยสิ้นเชิง เจ้าหน้าที่ได้ประเมินร่วมกันแล้ว พบว่ายังไม่มีปัจจัยเสี่ยง เนื่องเจ้าหน้าที่ ตม.ที่ทำหน้าที่เข้าเวรดูแลความเรียบร้อยทั้ง 2 อาคารนั้นแยกออกจากกันทั้งหมด ทำให้ยังไม่ต้องมีการตรวจสารคัดหลั่งเพื่อหาเชื้อไวรัสโควิด 19 แต่อย่างใด”


อย่างไรก็ตาม การที่พบผู้ป่วยเพิ่มอีก 18 รายนั้น ทำให้จำนวนผู้ป่วยรวมในจังหวัดสงขลานั้นเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ทำให้ผู้ป่วยกลุ่มต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองเพิ่มเป็น 60 ราย ผู้ป่วยรวม 123 ราย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง