ศบค.แถลงพบผู้ป่วยใหม่ 3 ราย

ทำเนียบฯ 3 พ.ค.-  ศบค.แถลงพบผู้ป่วยใหม่ 3 ราย ไม่มีเสียชีวิตเพิ่ม เผยข่าวพบ 40 ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ยะลาผิดปกติ เร่งตรวจเชื้อซ้ำอีกรอบวันนี้ ขณะ ผบ.ทสส. ชี้พร้อมสั่งปิดร้านค้าที่ละเลยมาตรการสาธารณสุข ด้านมหาดไทย ย้ำรัฐบาลตรึงมาตรการห้ามเดินทางข้ามเขตจังหวัด ชี้จำเป็นต้องกักตัวที่ภูมิลำเนา ยันประชาชนจากภูเก็ตลงทะเบียนผ่านการคัดกรองแล้ว


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 ว่า วันนี้ (3 พ.ค.) ไทยมีรายงานผู้ป่วยใหม่ 3 ราย รวมผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 2,969 ราย รักษาหาย 2,739 ราย รักษาตัวอยู่ 176 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ทำให้มีผู้เสียชีวิตคงเดิม รวม 54 ราย

โฆษก ศบค. กล่าวว่า จากจำนวนตัวเลขผู้ป่วยใหม่ 3 ราย พบว่า มาจากการสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 2 ราย เป็นคนใน กทม.ทั้งคู่ และเป็นผู้ป่วยที่เดินทางมาจากประเทศมาเลเซีย และเข้ากักกันตัวในสถานที่ที่รัฐจัดให้ในจังหวัดนราธิวาส 1 ราย 


นพ.ทวีศิลป์ เปิดเผยอีกว่า ศบค.ได้สั่งการตรวจสอบข้อเท็จจริงการเผยแพร่ว่ามีผู้ติดเชื้อกว่า 40 คนที่จังหวัดยะลา พบว่า เป็นการค้นหาผู้ติดเชื้อแบบเชิงรุก 311 คน ทราบผลตรวจตรวจเบื้องต้น มี 271 คนที่เป็นลบ และมี 40 คนที่ยืนยันในเบื้องต้นว่ามีผลเป็นบวก ซึ่งบางอำเภอผลพบเชื้อ 30.77 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากกว่าปกติ จึงน่าสงสัยได้ว่า กระบวนการตรวจนั้นถูกต้องหรือไม่ ดังนั้น จึงขอเวลาการเก็บตัวอย่างใหม่อีกครั้งในวันนี้ (3 พ.ค.) โดยคนที่มีผลตรวจเบื้องต้นว่า ติดเชื้อจะถูกกักตัวและตรวจซ้ำในมาตรฐานที่เชื่อถือได้  และจะแจ้งให้ทราบใหม่อีกครั้ง ยืนยัน จะไม่มีการปกปิด จะเสนอความจริงให้มากที่สุด 

โฆษก ศบค. กล่าวว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ยังได้ออกมาเตือนทั่วโลก ว่า ต้องคลายล็อคอย่างช้า ๆ เตรียมรับโควิด-19 ที่จะพุ่งขึ้นอีกรอบ โดยเน้นดำเนินการป้องกันบุคคลที่มีความเสี่ยงในสถานที่ต่าง ๆ รวมถึงสถานดูแลระยะยาวอย่างที่พักแรงงานต่างชาติ รวมถึงต้องตรวจหาเชื้อในกลุ่มผู้ต้องสงสัยอย่างต่อเนื่อง แม้จะสามารถควบคุมการระบาดไว้ได้แล้วก็ตาม

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ส่วนกลุ่มคนไทยที่เดินทางผ่านช่องทางอากาศวันนี้ (3 พ.ค.) เป็นคนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศสเปน 45 คน เที่ยวบิน IB 2833 ลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 18.55 น. ประเทศสิงคโปร์ 176 คน เที่ยวบิน SQ 976 ลงที่สนามบินสุวรรณภูมิเวลา 17.25 น. ประเทศรัสเซีย 70 คน เที่ยวบิน SU 272 ลงที่สนามบินสุวรรณภูมิเวลา 10:30 น และในวันพรุ่งนี้ (4 พ.ค.) มีคนไทยเดินทางกลับจากมัลดีฟส์ จำนวน 125 คน เที่ยวบิน Q2 9350 ลงที่สนามบินสุวรรณภูมิเวลา 15.15 น เขตปกครองพิเศษฮ่องกง 165 คน เที่ยวบิน we631 ที่สนามบินสุวรรณภูมิเวลา 15.55 น รวมระหว่างวันที่ 4 เมษายนถึง 2 พฤษภาคม มีคนไทยเดินทางเข้าประเทศและทั้งสิ้น 3,981 คนใน 23 ประเทศ


โฆษก ศบค. กล่าวว่า สำหรับสถิติคนไทยเดินทางเข้าประเทศผ่านจุดแดนทางบก มีการลงทะเบียน 411 คน เดินทางเข้าประเทศรวม 590 คน เป็นเมียนมาร์ 15 คนมาเลเซีย 541 คน ลาว 10 คน กัมพูชา 24 คน รวมระหว่างวันที่ 18 เมษายน ถึง 3 พฤษภาคม 2563 มี มีการเดินทางกลับเข้าประเทศแล้ว 6,819 คน กลับบ้านแล้ว 636 คน และอยู่ระหว่างการป้องกันโรค 6,183 คน ส่วนการฝ่าฝืนการประกาศห้ามออกนอกเคหสถานเวลา 22.00 ถึง 04.00 น. พบผู้กระทำความผิดฝ่าฝืนออกนอกเคหสถาน 554 คน แบ่งเป็นตักเตือน 39 คนและดำเนินคดี 515 คน  มั่วสุมชุมนุม มีการฝ่าฝืน 107 คนโดยเป็นการดำเนินคดีทั้งหมด

พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) ชี้แจงถึงการผ่อนคลายมาตรการ เพื่อให้กิจการบางประเภทที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต และถูกสั่งปิดกลับมาเปิดกิจการได้ในวันนี้ (3 พ.ค.) เป็นวันแรกว่า ใน 2-3 วันที่ผ่านมา เกิดการเดินทางในประเทศจำนวนมาก ซึ่ง ศบค.และรัฐบาลไม่เคยแนะนำให้ประชาชนผ่อนคลายมาตรการในการเดินทางในเวลานี้ เพราะตามข้อห้ามในมาตรการตามสถานการณ์ฉุกเฉิน ยังขอให้ประชาชนงดการเดินทางโดยไม่จำเป็น

ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ยังชี้แจงถึงมาตรการมาตรฐาน ที่ผู้ประกอบการจะต้องปฏิบัติตาม เพื่อรักษาความสะอาด และป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ว่า ขอให้ผู้ประกอบการ เข้มงวดกับมาตรการที่รัฐบาล และ ศบค.กำหนด เพราะหลังจากนี้จะมีเจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจไปสุ่มตรวจ จึงขอความร่วมมือสถานประกอบการให้ความร่วมมือ และในแต่ละพื้นที่ รองรับประชาชนได้ 10 ตารางเมตร ต่อประชาชน 1 คน หากไม่ปฏิบัติตาม จะมีมาตรการจากเบาไปถึงหนัก ตั้งแต่การตักเตือน และสั่งปิด เพื่อให้ประชาชนมั่นใจได้ว่า จะได้รับความปลอดภัยจากการผ่อนคลายมาตรการต่อไป  ส่วนการตั้งจุดตรวจหลังผ่อนคลายมาตรการนั้น จะมีการตั้งจุดตรวจ ที่จะเพิ่มความเข้มงวดนับจากนี้ไปอีก 28 วัน แม้จะมีการปรับลดจำนวนจุดตรวจตามพื้นที่ต่าง ๆ และเพิ่มการสุ่มตรวจมากขึ้น

ด้าน นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า  ขณะนี้ยังมีมาตรการงดหรือชะลอการเดินทางข้ามเขต เว้นแต่มีความจำเป็นที่จะต้องแสดงหลักฐานต่อเจ้าหน้าที่ ให้เกิดความชัดเจน จึงขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายด้วย ซึ่งการกักตัว จะมีขึ้นเมื่อประชาชนกลับถึงปลายทางการเดินทางแล้ว แต่หากมีการพักค้างคืนระหว่างทาง หรือ พำนักเพียง 2-3 วันในระยะเวลาสั้น ๆ ก็จะมีการขอเก็บข้อมูล เพื่อเฝ้าระวังและติดตามโรคต่อไป

นายฉัตรชัย ยังกล่าวถึง กระแสข่าวที่จังหวัดภูเก็ตปล่อย ประชาชนออกมาจากพื้นที่เป็นจำนวนมากว่า มีการตรวจสอบไปแล้ว จังหวัดภูเก็ตมีทั้งสิ้น 17 ตำบล มีประชาชนที่เข้าไปทำงานกว่า 1 แสนคน และประสงค์ออกจากพื้นที่กว่าครึ่ง เนื่องจากไม่มีงานทำ ทางจังหวัดจึงคัดกรองตามมาตรฐานที่ให้ลงทะเบียนอย่างถูกต้อง ยืนยันแล้วว่า ไม่พบเชื้อ 14 ตำบล เหลืออีก 3 ตำบลที่ยังไม่ผ่านเกณฑ์ รวมสติถิเมื่อเช้านี้ (3 พ.ค) เวลา 09.00 น. มีประชาชนทยอยออกจากพื้นที่แล้วกว่า 3, 600 คน โดยมีหลักฐานยืนยันตัวตนอย่างชัดเจน  ดังนั้น ขอให้ประชาชนมั่นใจในมาตรฐานและ มาตรการของรัฐบาลด้วย นอกจากการร่วมมือกันทุกภาคส่วนแล้ว ยังขอให้ประชาชนคำนึงถึง ระเบียบของสังคม ป้องกันตนเองและผู้อื่น และยืนยันว่า รัฐบาลยังตรึงเวลาเคอร์ฟิว ห้ามออกจากเคหะสถานออกไปถึงสิ้นเดือนนี้เวลา 22.00น.-04.00 น. จึงขอให้ปฎิบัติอย่างเคร่งครัด

นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ขอความร่วมมือประชาชนชะลอการเดินทางข้ามจังหวัด เพราะเป้าหมายต้องการให้ทุกคนอยู่บ้าน แต่หากมีความจำเป็นก็ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด  ระบบขนส่งสาธารณะ ทั้งทางรถไฟ รถประจำทาง เครื่องบิน มีการคัดกรองตั่งแต่ต้นทางไปถึงปลายทาง วัดอุณหภูมิ หากมีอุณหภูมิร่างกายสูงกว่าที่กำหนดก็จะไม่ให้เดินทาง และยังคงเข้มเรื่องการเว้นระยะห่าง ขายตั๋วตามจำนวน รวมถึงต้องสวมหน้ากากอนามัย 

นายชัยวัฒน์ ยังขอให้ผู้ที่ใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ มั่นใจกับการเดินทาง เพราะมีการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อทุกสถานีและสนามบิน รวมถึงพาหนะที่ประชาชนใช้บริการก็มีการทำความสะอาดทุกรอบทุกวัน รวมถึงเช็คสุขภาพอนามัยของเจ้าหน้าที่ให้บริการด้วย.-สำนักข่าวไทย       

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้าน

กทม. 1 ก.ค.-ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้านตุ๋นแลกคริปโตฯ ชุดสืบปูพรมล่า จากกรณีกลุ่มคนร้าย 7 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ เงินสด 3.4 ล้านบาท โดยใช้อาวุธมีดจี้ ข่มขู่ผู้เสียหาย 3 คน ที่มาซื้อเงินคริปโตเคอร์เรนซี่ สกุลเวิน USDT จำนวน 100,000 ดอลล่า ภายในลานจอดรถศูนย์การค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. เมื่อช่วงเวลา 19.30 น. ของวานนี้ (30 มิ.ย.) ภายหลัง พล.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามตัว จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว อายุ 25 ปี […]

“ทักษิณ” พร้อมลูกสาว เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก

1 ก.ค. – บรรยากาศที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อเวลา 12.10 น. นายทักษิณ พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม ได้เดินทางกลับโดยใช้ประตูด้านข้างของศาลอาญา ก่อนขึ้นรถออกไป โดยเลี้ยวออกไปทางประตูของศาลแพ่ง และเลี้ยวออกถนนพหลโยธินโดยทันที โดยมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงยืนคอยให้กำลังใจอยู่บริเวณริมฟุตบาธบริเวณประตูทางออกอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้มีนางเพญ พินิจอักษร ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ถือรูปนายทักษิณ โดยมีการเขียนข้อความในภาพว่าขอส่งกำลังใจให้นายกฯในดวงใจ พร้อมถือพวงมาลัยดอกมะลิพวงใหญ่ และมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงกลุ่ม 50 เขตแดน กทม. มาให้กำลังใจด้วยเช่นเดียวกัน จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ได้เดินมาทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนหลังจากที่ศาลอาญาได้มีการพักการสืบพยาน ว่า ขอให้สื่อมวลชนใช้วิจารณญาณว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ เพราะศาลใช้การพิจารณาลับ ทั้งนี้ไม่สามารถพูดอะไรในกระบวนการได้ จะพูดได้แค่มีพยานกี่ปาก […]

ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 เพิ่ม “จ่าย ตัด ต้น” พร้อมขยายขอบเขต 2 มาตรการเดิม “จ่ายตรง คงทรัพย์” และ “จ่าย ปิด จบ” มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย ยอดนี้ประมาณ 3.1 แสนล้านบาท นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย ว่า ภายใต้เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง ยังมีลูกหนี้กลุ่มเปราะบางจำนวนมากที่มีปัญหาในการชำระหนี้ และพบว่าลูกหนี้ยังให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง แต่บางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด กระทรวงการคลัง สศช. ธปท. ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจ non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ เห็นควรขยายระยะเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคุณสู้เราช่วยเฟส 1 (เดิมสิ้นสุด 30 มิ.ย.68) และให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ภายใต้โครงการ […]

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

ข่าวแนะนำ

ต้อนรับอบอุ่น “ภูมิธรรม-เดชอิศม์” เข้ามหาดไทยวันแรก

กระทรวงมหาดไทย 4 ก.ค.- “ภูมิธรรม” พร้อม “เดชอิศม์” เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระสังฆราช ก่อนเข้า ก.มหาดไทย วันแรก สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และมอบนโยบาย โดยมีข้าราชการและเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางเข้าปฏิบัติหน้าที่เป็นวันแรก โดยมี น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย คณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย อธิบดี หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ร่วมให้การต้อนรับ โอกาสนี้ นายภูมิธรรม นำคณะเข้าถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว บริเวณหน้าพระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร และเข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ณ พระตำหนัก และเข้าสักการะสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ณ อาคารสัมฤทธิ์วิทยากร ภายในวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร จากนั้น นายภูมิธรรม และคณะ […]

วธ.คึกคัก! ต้อนรับ “แพทองธาร” เข้ากระทรวงวันแรก

กระทรวงวัฒนธรรม 4 ก.ค.- “แพทองธาร” เข้ากระทรวงวันแรก หลังนั่งควบเก้าอี้ รมว.วธ. สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ บอกตอนนี้แย่หน่อยต้องหยุดทำหน้าที่นายกฯ แต่ดีใจได้ทำหน้าที่รัฐมนตรีเต็มที่ ขอฝากตัว เตรียมดันเป็นกระทรวงหลัก สร้างโอกาสใหม่-รายได้ให้คนไทย ด้าน ปลัด วธ. นำข้าราชการต้อนรับ ลั่นประวัติศาสตร์ครั้งที่ 2 เกิดขึ้นแล้ว เชื่อสปอตไลต์ส่องมา มั่นใจ ซอฟต์พาวเวอร์แข็งแกร่งแน่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เดินทางเข้ากระทรวงวัฒนธรรมเป็นวันแรก โดยสวมชุดผ้าไทยสีม่วง ซึ่งเป็นสีประจำกระทรวงวัฒนธรรม โดยเดินทางมาถึงในเวลา 09.09 น. โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม, นางสาวลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม, นายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหารและข้าราชการกระทรวงวัฒนธรรม รวมถึงมี สส. พรรคเพื่อไทย มารอต้อนรับ ซึ่งทันทีที่มาถึงนายกรัฐมนตรี […]

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน-ตอ.ฝนตกหนัก กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 4 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน ภาคตะวันออก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ในขณะที่บริเวณประเทศไทยมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดต่างๆ ตามที่ระบุไว้ในรายภาค ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 […]

“โชต้า” แข้งลิเวอร์พูล ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต

สเปน 3 ก.ค. – “ดิโอโก้ โชต้า” กองหน้าสโมสรลิเวอร์พูล และทีมชาติโปรตุเกส เสียชีวิตแล้ว หลังประสบอุบัติเหตุระหว่างการพักผ่อนที่ประเทศสเปนกับน้องชาย “มาร์ก้า” สื่อชื่อดังของสเปน รายงานข่าวว่า ดิโอโก้ โชต้า กองหน้าสโมสรลิเวอร์พูล วัย 28 ปี เสียชีวิตแล้ว หลังประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ที่จังหวัดซาโมรา ทางตะวันตกของประเทศสเปน ระหว่างการเดินทางไปพักผ่อนกับ อังเดร น้องชาย เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นบริเวณกิโลเมตรที่ 65 ของทางหลวงสาย เอ-52 ใกล้เขตซานาเบรีย โดยโชต้าอยู่ในรถคันดังกล่าวพร้อมกับอังเดร น้องชายวัย 26 ปี ซึ่งเป็นนักฟุตบอลอาชีพเช่นกัน และเล่นให้กับสโมสรเปนาฟีแอล ในลีกโปรตุเกส รถยนต์ที่ทั้งสองโดยสาร ประสบเหตุหลุดออกจากถนนและเกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง มีพยานในที่เกิดเหตุโทรแจ้งหน่วยฉุกเฉินหมายเลข 112 ระบุว่า รถถูกไฟคลอกทั้งคัน ดิเอโก้ โชต้า ย้ายจากวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส มาร่วมทัพลิเวอร์พูลในปี 2020 ด้วยค่าตัวราว 44.7 ล้านยูโร ราว 1,700 […]