กรุงเทพฯ 30 เม.ย.-“คุณหญิงสุดารัตน์” มอบดอกกล้วยไม้ให้ประชาชน ภายใต้กิจกรรม “ช่วยกันหน่อย” ยันจัดกิจกรรมต่อเนื่อง เป็นช่องทางช่วยผู้เดือดร้อนจากโควิด-19 ย้ำรัฐต้องเร่งเยียวยาคนเดือดร้อนให้ทั่วถึงรวดเร็ว จี้คลายล็อกเปิดกิจกรรมอย่างปลอดภัย
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย มอบดอกกล้วยไม้ให้ประชาชน ภายใต้กิจกรรม “ช่วยกันหน่อย” ซึ่งมีประชาชนที่ลงทะเบียนมารอรับดอกกล้วยไม้เป็นจำนวนมาก ซึ่งมีประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และประชาชนที่ต้องการนำดอกกล้วยไม้ไปให้บุคคลที่เดือดร้อน และนำไปมอบให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์
คุณหญิงสุดารัตน์ ได้สอบถามถึงปัญหาความทุกข์ยาก การประกอบอาชีพ รวมถึงรายได้และภาระที่หนักขึ้นจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) และยืนยันว่ากิจกรรมในลักษณะนี้จะทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นช่องทางช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนและขาดรายได้จากโควิด-19
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลต้องเร่งเยียวยาประชาชนให้เร็วที่สุด เพราะประชาชนยากลำบาก โดยเฉพาะคนที่มีรายได้น้อย ซึ่งเป็นคนกลุ่มใหญ่ของประเทศ คนหาเช้ากินค่ำ ซึ่งปัจจุบันพบว่ากลุ่มคนเหล่านี้เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก และใช้ชีวิตกินอยู่แบบมื้อต่อมื้อ ซึ่งถือเป็นความยากลำบากของคน เมื่อไม่ได้ทำงานเพราะคำสั่งปิดกิจการต่าง ๆ ของภาครัฐ เมื่อให้คนเหล่านี้เสียสละแล้วจำเป็นต้องเร่งเยียวยา ดูแลให้ทั่วถึง ทั้งร้านอาหาร ร้านตัดผม ตลาดนัด และกิจกรรมที่ทำได้อย่างปลอดภัยต่างๆต้องกลับมาเปิดได้
คุณหญิงสุดารัตน์ ยืนยันด้วยว่า สำหรับวงเงิน 6 แสนล้านบาทที่รัฐเตรียมจะเยียวยานั้น สามารถดูแลประชาชนได้เกือบ 40 ล้านคน จึงต้องเร่งดำเนินการ เพราะความหิวรอไม่ได้ เช่น เหตุสลดใจหรือฆ่าตัวตายรายวัน เพราะแรงกดดันที่ต้องดูแลลูกหลานอีกหลายชีวิต ดังนั้นการเยียวยาจึงต้องทั่วถึงรวดเร็ว
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวด้วยว่า ตัวเลขการระบาดมีแนวโน้มดีขึ้น จำเป็นต้องเร่งมาตรการคลายล็อก ภายใต้ข้อบังคับสาธารณสุข เพื่อรองรับไม่ให้เกิดการกระจายของเชื้อ และเห็นว่ารัฐไม่สามารถบริหารจัดการและเยียวยาในระยะยาวให้ประชาชนได้ โดยเฉพาะตัวเงินที่จะนำมาจ่ายชดเชย รัฐไม่สามารถทำได้ทั่วถึงครบถ้วน รวมถึงเงินประกันสังคมที่ต้องจ่ายคืนเมื่อประชาชนได้รับความเดือดร้อน
“โควิดจะอยู่กับประเทศไทยไปอีกระยะหนึ่ง จึงไม่สามารถปิดเมืองระยะยาวได้ รัฐจำเป็นต้องทุ่มเททำให้เกิดการเปิดเมืองอย่างปลอดภัย” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย