กรุงเทพฯ 30 เม.ย.- ผบช.น. เชื่อ “ปลายฝน” หญิงโพสต์วาดภาพนายกฯ ก่อนผูกคอตาย สาเหตุจากความเครียดเรื่อง “เงิน-ครอบครัว” ไม่ใช่น้อยใจรัฐบาล ยันได้รับเงินเยียวยา 5 พันบาทแล้วตั้งแต่กลางเดือน เม.ย.
พลตำรวจโทภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึง กรณีปรากฏภาพข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ว่ามีหญิงสาวรายหนึ่ง ตัดสินใจฆ่าตัวตาย โดยโพสต์ภาพวาด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และตัดพ้อรัฐบาลใจร้าย ไม่ให้ความช่วยเหลือ จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องดังกล่าวในวงกว้างนั้นว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 เมษายน ที่ผ่านมา เวลา 01.55 น. ในพื้นที่ สน.เพชรเกษม ได้รับแจ้งเหตุมีผู้คอตาย ที่หอพักแห่งหนึ่งในซอยเพชรเกษม 47 เขตบางแค จากการตรวจพบว่าผู้ตาย ชื่อ นางสาวปลายฝน อ่ำสาริกา อายุ 19 ปี ชาวจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยเชื่อว่าสาเหตุการฆ่าตัวตายต่าจะมาจากเครียดเรื่องส่วนตัว ทั้งปัญหาสุขภาพ ปัญหาทางการเงิน และปัญหาครอบครัว ไม่ได้มาจากความน้อยเนื้อต่ำใจที่รัฐบาลไม่ใส่ใจดูแลคนจนตามกระแสในโลกโซเชียล
จากการสอบสวนแฟนหนุ่มของผู้ตาย ระบุว่า ได้พูดคุยโทรศัพท์กับผู้ตาย ก่อนเกิดเหตุ โดยผู้ตายบอกว่าจะผูกคอตาย จึงได้รีบเดินทางจากที่ทำงานย่านอ่อนนุช มายังห้องที่เกิดเหตุ เมื่อเปิดประตูเข้าไปพบแฟนสาวใช้เชือกสายนกหวีด รปภ. ผูกคอกับคานประตู จึงรีบนำตัวลงมาแต่พบว่าไม่มีการตอบสนอง จนเจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์มายังที่เกิดเหตุก็พบว่าแฟนสาวเสียชีวิตแล้ว ด้านแพทย์นิติเวช สันนิษฐานว่า ผู้ตายเสียชีวิตเนื่องจากการขาดอากาศ
ซึ่งหลังจากเสียชีวิตไม่นาน สื่อสังคมออนไลน์ได้มีการแชร์เรื่องราวของผู้ตาย ที่ได้โพสต์รูปวาดของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมตัดพ้อถึงความยากลำบากที่ได้รับ ในเฟซบุ๊กส่วนตัวของผู้ตาย ซึ่งผู้ตายได้โพสต์เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2563 ก่อนเกิดเหตุประมาณ 1 สัปดาห์
สำหรับประวัติผู้ตายนั้น ประกอบอาชีพ รปภ.ของบริษัทยูพีพี อินเตอร์กรุ๊ป โดยทางบริษัทฯ ได้ส่งไปทำงานประจำอยู่ที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค และป่วยเป็นโรคประจำตัวเกี่ยวกับอาการแพ้สารอาหารบางชนิด เคยพยายามทำร้ายตัวเองมาก่อนหน้าแล้ว และก่อนเกิดเหตุ อาการเครียดมีความรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากต้องหยุดงานเพราะมีอาการไข้ขึ้นสูงทำให้ต้องอยู่แต่ในบ้าน ขาดรายได้ อีกทั้งยังกลับไปหาลูกที่จังหวัดฉะเชิงเทราไม่ได้ ส่วนการลงทะเบียนรับเงินตามมาตรการเยียวยาจากรัฐบาลพบว่าได้มีการขอเงินเยียวยาจากทางรัฐบาล และได้รับเงินครั้งที่ 1 ไปแล้ว เมื่อวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา จำนวน 5,000 บาท.-สำนักข่าวไทย