ครม.เห็นชอบโครงการส่งเสริมโรงเรียนคุณภาพประจำตำบล

ทำเนียบฯ 28 เม.ย.-ครม.เห็นชอบโครงการส่งเสริมพัฒนาศักยภาพเพิ่มขีดความสามารถให้กับนักเรียน โรงเรียนคุณภาพประจำตำบล วงเงิน 51,904.73 ล้านบาท สานต่อนโยบาย 1 ตำบล 1 โรงเรียนคุณภาพ


น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ (28 เม.ย.) เห็นชอบโครงการส่งเสริมพัฒนาศักยภาพเพิ่มขีดความสามารถให้กับนักเรียน โรงเรียนคุณภาพประจำตำบล วงเงิน 51,904.73 ล้านบาท ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ซึ่งเป็นการสานต่อนโยบาย 1 ตำบล 1 โรงเรียนคุณภาพ ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบไปเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2561 โดยในครั้งนี้ได้มุ่งเน้นพัฒนาใน 3 ด้าน คือ ด้านโครงสร้างพื้นฐาน โดยการพัฒนาให้โรงเรียนมีวัสดุอุปกรณ์ สื่อ สถานที่ที่เหมาะสมและส่งเสริมการเรียนรู้ เช่น ห้องเรียนอัจฉริยะ ห้องปฏิบัติแหล่งเรียนรู้ Coding STEM ห้องปฏิบัติการด้านภาษา (Sound Lab) แหล่งเรียนรู้ด้านศิลปวัฒนธรรม คุณธรรม จริยธรรม รวมถึงสระว่ายน้ำและสนามกีฬา เป็นต้น ,ด้านการส่งเสริมการศึกษา โดยการพัฒนาหลักสูตร เช่น เพิ่มทักษะด้านต่างๆให้กับผู้เรียน เน้นวิธีการ Active Learning มีแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้ เป็นต้น รวมถึงการจัดบุคลากรครูเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และพัฒนาครูด้านภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ให้มีความชำนาญในการสอน และด้านการสร้างเครือข่ายการมีส่วนร่วม โดยการส่งเสริมสนับสนุนให้คนในชุมชนทั้งเอกชน บ้าน วัด และศาสนสถานอื่น ๆ รัฐ โรงเรียน เข้ามามีส่วนร่วมในบริหารจัดการการศึกษา เช่น แหล่งเรียนรู้อาชีพในชุมชน การสนับสนุนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น วัด มหาวิทยาลัย เป็นต้น

น.ส.รัชดา กล่าวว่า เป้าหมายโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการฯ จากทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 8,224 โรง แบ่งเป็นโรงเรียนระดับประถมศึกษา จำนวน 7,079 โรง  โรงเรียนระดับมัธยมศึกษา จำนวน 1,145 โรง กระจายอยู่ในภาคเหนือ จำนวน 1,789 โรง ภาคใต้ จำนวน 1,238 โรง ภาคกลาง/ตะวันออก/ตะวันตก จำนวน 2,162 โรง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 3,035 โรง งบประมาณโครงการฯ รวมทั้งสิ้น 51,904.73 ล้านบาท แบ่งเป็น งบลงทุน เช่น สร้างห้องเรียน ห้องปฏิบัติการ แหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ จำนวน 19,766.02 ล้านบาท ,งบดำเนินการ  เช่น การเสริมสร้างความสามารถด้านภาษาอังกฤษ/ภาษาจีน และพัฒนาบุคลากร จำนวน 30,477.49 ล้านบาท และงบรายจ่ายอื่น 1,661.22 ล้านบาท โดยมีระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ.2563 -2565 จัดสรรในปีงบประมาณ 2563 จำนวน 10,120.34 ล้านบาท ปีงบประมาณ 2564 จำนวน 20,619.93 และปีงบประมาณ 2565 จำนวน 21,164.46 ล้านบาท


น.ส.รัชดา กล่าวอีกว่า ครม.ได้กำชับให้กระทรวงศึกษาธิการบูรณาการการดำเนินโครงการร่วมกับโครงการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และพิจารณาจัดกลุ่มโรงเรียนที่มีประเด็นปัญหาในด้านต่าง ๆ ที่มีลักษณะเดียวกันเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อให้สามารถดำเนินการตามแผนได้อย่างเป็นรูปธรรม และกำหนดกลไกการติดตามประเมินผลในการดำเนินโครงการของโรงเรียน ก่อนที่จะนำโครงการอื่นให้โรงเรียนดำเนินการ เพื่อเป็นการลดภาระแก่นักเรียน ครู และโรงเรียน และให้ชุมชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการวางแผนพัฒนาโรงเรียน รวมถึงเน้นการพัฒนาหลักสูตรออนไลน์และรองรับการเรียนการสอนด้วยดิจิทัลแพลตฟอร์มให้มีประสิทธิภาพในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

การประชุมเลือกพระสันตะปาปาองค์ใหม่เริ่มแล้ว

การประชุมลับเพื่อเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่ ที่จะเป็นพระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ที่นครรัฐวาติกัน ได้เริ่มขึ้นต้นแล้วในวันนี้

ระอุอีกครั้ง KNLA ร่วม KNDO โจมตีทหารเมียนมา

ชายแดนไทย-เมียนมา ด้านตรงข้าม จ.ตาก กลับมาระอุอีกครั้ง กองกำลัง KNLA ร่วมกองกำลัง KNDO โจมตีทหารเมียนมา ฐานเรปะนาดิ ผู้อพยพทะลักข้ามฝั่งเข้าไทยกว่า 100 คน

จุฬาราชมนตรี

“ภูมิธรรม” พบจุฬาราชมนตรี แก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้

“ภูมิธรรม” พบจุฬาราชมนตรี เห็นพ้องแนวทางแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้ ชี้การฆ่าไม่ใช่หลักศาสนาที่ถูกต้อง ในการเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ แนะหาทางออกร่วมกัน ยุติความรุนแรงในพื้นที่ พร้อมพูดคุยกับคนที่แก้ไขปัญหาได้