สธ.23 เม.ย.-สปคม.เผยผลสำรวจ Active case finding ค้นหาเชิงลึกในพื้นที่บางเขน เนื่องจากเป็นพื้นที่สนามมวย ตรวจในกลุ่มเสี่ยง คนเก็บขยะ แม่ค้าตลาดสด คนขับรถรับจ้าง วินมอเตอร์ไซค์ พบป่วยแค่ 1 คน ชี้สรุปการปูพรมค้นหาอาจไม่คุ้มค่า เตรียมปูพรมตรวจในพื้นที่คลองเตย และทองหล่อ จากนั้นสรุปผลปลดล็อกมาตรการในกทม.
นพ.เอนก มุ่งอ้อมกลาง ผอ.สถาบันป้องกันและควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.) กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ศูนย์ดูแลฟื้นฟู State Quarantine ที่รัฐจัดหาไว้ดูแลผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศถือเป็นหัวใจสำคัญในการป้องกันและควบคุมโรค ปัจจุบันมีรวม 14 แห่ง แบ่งเป็นใน กทม.10 แห่ง ต่างจังหวัด 4 แห่ง และยังมี Local Quarantine ในต่างหวัดอีก 1,192 แห่ง ซึ่งมาตรการรับตัวผู้เดินทางมาดูอาการนั้น ถือว่ามีประสิทธิภาพ สามารถปฎิบัติมาตรการต่าง ๆ ได้ครบ ทั้งระยะห่างทางสังคมและระยะห่างระหว่างบุคคล ไม่คลุกคลีกับผู้ป่วยคนอื่นๆ ทำให้พบผู้ป่วยแค่เพียง 1 คน ดังนั้น State Quarantine จึงเป็นเครื่องมือลดการแพร่เชื้อ
นพ.เอนก กล่าวว่า การติดเชื้อโรคนี้เกิดจากละอองฝอย การไอ จาม สัมผัสใกล้ชิด และจากการทำ Active case finding หรือการปูพรมค้นหาผู้ป่วยเชิงลึกในพื้นที่ กทม.ในเขตบางเขต ซึ่งเป็นที่ตั้งของสนามมวยลุมพินี ที่เป็นต้นตอของการแพร่ระบาดไปทั่วประเทศ พบว่า จากการตรวจ 1,876 คน พบผู้ป่วยเพียง 1 คน การค้นหานอกจากค้นหาในกลุ่มผู้ป่วยเฝ้าระวัง หรือ PUI แล้วยังค้นหาไปในกลุ่มผู้ป่วยเสี่ยงสูงด้วย เน้นในกลุ่ม 1.คนเก็บขยะ 2.แม่ค้าตลาดที่มีคนพลุกพล่าน 3.พนักงานขับรถ ขสมก.และวินมอเตอร์ไซค์ และ4.คนมีอาการในชุมชน ซึ่งการตรวจนี้ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการปลดล็อกมาตรการต่างๆ ต่อไป ซึ่งต่อไปทางสถาบันป้องกันโรคเขตเมือง เตรียมปูพรมค้นหาตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในคลองเตย เน้นในกลุ่มเปราะ บาง และต่อไปจะปูพรมตรวจในพื้นที่ทองหล่อ ซึ่งมีความหนาแน่น โดยทุกมาตรการที่ทำไป จะใช้เป็นชุดข้อมูลประเมินสถานการณ์ในพื้นที่ กทม.
นพ.เอนก กล่าวด้วยว่า เบื้องต้นสำหรับการจัดทำ Active case finding ในพื้นที่บางเขน สะท้อนการทำตรวจแบบปูพรมค้นหา อาจไม่ได้ประโยชน์ เพราะยอดตรวจเกือบ 2,000 คน พบผู้ป่วยแค่รายเดียว โดยการตรวจแบบปูพรมค้นหา ใช้การตรวจแบบ PCR .-สำนักข่าวไทย