นนทบุรี 22 เม.ย. – หลังจากที่ครอบครัวของ 6 ชีวิต ซึ่งอาศัยอยู่ท้ายสวนในเกาะเกร็ด จ.นนทบุรี โพสต์ขอความช่วยเหลือ เนื่องจากใช้ชีวิตลำบาก โควิด-19 ทำตกงาน ไม่มีน้ำประปาใช้ ต้องใช้น้ำท้องร่องแกว่งสารส้มให้ตกตะกอน ก็มีผู้ใจบุญรวมถึงหน่วยงานภาครัฐเข้าให้ความช่วยเหลือ
บ้านไม้ใต้ถุนสูงท้ายสวน ต.เกาะเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี หลังนี้ อาศัยอยู่ด้วยกัน 6 คน กลางคืนนอนบนบ้านที่เป็นห้องโล่ง ไม่มีกั้นห้อง เพียงแยกมุ้งหมอนนอนคนละมุม ส่วนกลางวันสมาชิกในบ้านจะอยู่ใต้ถุนเป็นหลัก
ป้าภา อายุ 52 ปี ภรรยาเจ้าของบ้าน เล่าว่า ตนและสามีมีอาชีพรับจ้างทั่วไป ปลูกบ้านหลังนี้บนที่ดินของพ่อแม่สามีมากว่า 10 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้อาศัยอยู่กับหลานชายและหลานสาว และเมื่อปีที่แล้วลูกสาวคนเล็กตั้งท้องจึงกลับมาอยู่ด้วยกัน โดยตั้งใจว่าจะกลับไปหางานทำหลังลูกสาวอายุครบ 1 ขวบ แต่ทว่าพิษโควิด-19 ทำให้ร้านอาหารที่เคยทำอยู่หยุดกิจการชั่วคราว จึงต้องเลี้ยงลูกรอให้สถานการณ์ดีขึ้น ภาระหนักจึงตกอยู่ที่หัวหน้าครอบครัวคนเดียว ตนก็เป็นโรคเบาหวานจึงไม่สามารถทำงานหนักได้ ขณะที่การจ้างงานก็ไม่ได้มีทุกวัน
ป้าภาเล่าว่า ที่ผ่านมาไม่เคยขอความช่วยเหลือจากใคร เพราะเกรงใจ อีกทั้งคิดว่ายังมีคนอื่นที่ลำบากกว่า กระทั่งหลายวันก่อน ก้มตักน้ำในท้องร่องมาใส่ตุ่ม แล้วมีอาการหน้ามืด ลูกสาวคนเล็กเห็นแล้วสงสารจึงโพสต์ขอความช่วยเหลือในเฟซบุ๊ก
หลังจากนั้นก็เริ่มมีความช่วยเหลือหลั่งไหลเข้ามา ทั้งบริจาคเงินผ่านบัญชี เอาข้าวสารอาหารและนมมามอบให้ ส่วน อบต.เกาะเกร็ดก็ต่อท่อน้ำบาดาลมาให้ใช้ ไม่ต้องตักน้ำจากท้องร่อง ส่วนห้องน้ำ พม.ก็เข้ามาสำรวจเพื่อสร้างให้ใหม่ซึ่งจะอยู่ใกล้บ้าน ไม่ต้องเดินออกไปไกลอย่างทุกวันนี้
นอกจากความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญและหน่วยงานภาครัฐที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือแล้ว สิ่งที่ต้องการมากที่สุดในตอนนี้คือ อยากให้ลูกสาวคนเล็กมีงานทำ จะได้มีรายได้จุนเจือครอบครัว เพื่อที่ผู้ใจบุญจะได้ไปช่วยเหลือคนอื่น ๆ ที่มีความลำบากต่อไป. – สำนักข่าวไทย