รองผบ.ตร.แจงการดำเนินคดีผู้แจกของบริจาค-ข่าวลือแจกเงิน

กรุงเทพฯ 20 เม.ย.- รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เชื่อ การดำเนินคดีผู้บริจาคสิ่งของให้ผู้ได้รับผลกระทบโควิด-19 ไม่มีโทษรุนแรง แต่ขอความร่วมมือ ประสานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จัดระเบียบ เพื่อลดการแพร่ระบาดของโรค ส่วนข่าวลือแจกเงิน มีหน่วยงานติดตามอยู่แล้ว หากเข้าข่ายความผิด จะมีการดำเนินคดีตามกฎหมาย


พลตำรวจเอก สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เชื่อว่า การออกมาแจกจ่ายสิ่งของบริจาคให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นความหวังดีที่ประชาชนมีต่อกัน แต่ขอความร่วมมือให้มีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานเขต ฝ่ายปกครอง หรือ ตำรวจในพื้นที่ เพื่อแจ้งถึงเจตนาของกิจกรรมการบริจาคสิ่งของให้ชัดเจน เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าไปจัดระเบียบ ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค และป้องกันการกระทบกระทั่งระหว่างผู้รับแจกสิ่งของ เช่น กรณีที่มีชาวบ้านทะเลาะวิวาท ย่านหัวลำโพง ในพื้นที่สถานีตำรวจนครบาลพลับพลาไชย 2 ส่วนการดำเนินคดีกับผู้บริจาคสิ่งของ ฐานฝ่าฝืนประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง เรื่อง ห้ามการจัดกิจกรรมมั่วสุมในลักษณะเสี่ยงต่อการติดเชื้อนั้น ได้ให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล พิจารณาความเห็นตามสมควร เชื่อ ไม่มีอะไรรุนแรงอย่างที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ 

 ส่วนกรณีการปล่อยข่าวว่า พรรคเพื่อไทย จะมีการแจกเงินบริจาคให้คนขับรถแท็กซี่ คนละ 2,000 บาท ขณะนี้ ได้ให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบ หากเข้าข่ายการปล่อยข่าวปลอม เพื่อสร้างความตื่นตระหนก หรือเข้าใจผิดในวงกว้าง ก็จะต้องมีการดำเนินคดี โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีหน่วยงานในการตรวจสอบการกระทำลักษณะนี้อยู่แล้ว จึงขอให้ผู้ที่ปล่อยข่าวปลอม ข่าวบิดเบือน รวมทั้ง แชร์ข่าว ระมัดระวัง และตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องก่อน


นอกจากนี้ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังกล่าวถึงการตั้งด่านคัดกรองโรคโควิด-19 ช่วงเคอร์ฟิว โดยพบว่า มีแนวโน้มผู้ฝ่าฝืนลดลง โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา(19 เม.ย.) มีการจับกุมประมาณ 600 รายทั่วประเทศ แสดงให้เห็นว่า ประชาชนเข้าใจมากขึ้น พร้อมย้ำว่า เจ้าหน้าที่จะดูเจตนาเป็นหลัก หากไม่ได้จงใจฝ่าฝืน ก็จะใช้วิธีประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจ ซึ่งตำรวจจะยังคงบังคับกฎหมาย ให้เป็นไปตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และประกาศคำสั่งที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มงวด .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” คดี “แบงค์ เลสเตอร์”

ผบช.ภ.2 เผยคดี “แบงค์ เลสเตอร์” แจ้งข้อหา “เอ็ม” กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มอบตัวรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา คุมฝากขังค้านประกันตัว

หยุดยาววันแรก การจราจรขาออก กทม. มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่น

เริ่มหยุดยาววันแรก การจราจรบนท้องถนนขาออกกรุงเทพฯ มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่นตั้งแต่เมื่อคืน เช้านี้ ถนนมิตรภาพ ช่วง ต.กลางดง อ.ปากช่อง ชะลอเคลื่อนตัวไปได้เรื่อยๆ ส่วนถนนพหลโยธิน ขาเข้าหนองแค รถเริ่มแน่น

วันแรก ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน

สถิติวันแรก 10 วันอันตราย ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน​ “เพิ่มพูน” เน้นทุกฝ่ายช่วยกันดูแลความปลอดภัย อำนวยความสะดวก เข้มเรื่องกฎหมาย