ศบค.เผยตัวเลขผู้ป่วยใหม่ 27 ราย ไม่มีเสียชีวิตเพิ่ม

ทำเนียบฯ 20 เม.ย.- ศบค. เผยตัวเลขผู้ป่วยใหม่ 27 ราย ไม่มีเสียชีวิตเพิ่ม  นายกฯ ระบุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยังจำเป็นต่อสถานการณ์ โดย ครม. เตรียมหารือผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ เสนอการดูแลควบคุมและศึกษาตัวอย่างจากต่างประเทศนำมาปรับใช้ เผยมีคนไทยแจ้งความประสงค์จะเดินทางกลับจากต่างประเทศ หลังวันที่ 30 เมษายน จำนวน 8,998 คน


นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 ว่าวันนี้ (20 เม.ย.)ไทยมีรายงานผู้ป่วยใหม่ 27 ราย รวมผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 2,792 ราย รักษาหาย 1,999 ราย รักษาตัวอยู่ 746 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม จึงทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตคงเดิมรวม 47 ราย

ทั้งนี้จากจำนวนตัวเลขผู้ป่วยใหม่ 27 ราย พบว่ามาจากการสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 16 ราย ไปสถานที่ชุมนุมชน 2 ราย ไม่มีบุคลากรทางการแพทย์ อยู่ระหว่างสอบสวนโรค 8 ราย  และเป็นผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศ คือประเทศอังกฤษและอยู่ในสถานที่กักกัน 1 ราย ส่วนผู้ป่วยสะสม 2,792 ราย พบใน 5 จังหวัดที่สูงที่สุดได้แก่ กรุงเทพมหานคร 1,440 ราย ภูเก็ต 192 ราย นนทบุรี 151 ราย สมุทรปราการ 108 ราย ยะลา 101 ราย และเมื่อจำแนกอัตราป่วยต่อประชากรหนึ่งแสนคน พบว่า จังหวัดภูเก็ต มีผู้ป่วยมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 46.44 กรุงเทพมหานคร ร้อยละ 25.39 ยะลา ร้อยละ 18.90 ปัตตานี ร้อยละ 12.47 และนนทบุรี ร้อยละ 12.02  และขณะที่ 9 จังหวัดคงเดิม ที่ยังไม่มีรายงานการรักษาผู้ป่วย ได้แก่ กำแพงเพชร ชัยนาท ตราด น่าน บึงกาฬ พิจิตร ระนอง สิงห์บุรี และอ่างทอง


นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวว่า มี 35 จังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ป่วยใหม่ ในช่วง 14 วันที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 5-18 เมษายน ได้แก่ เชียงราย เพชรบุรี เพชรบูรณ์ แพร่ แม่ฮ่องสอน กาญจนบุรี จันทบุรี  นครนายก บุรีรัมย์ มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด ราชบุรี ลพบุรี ลำพูน ศรีสะเกษ สมุทรสงคราม สระบุรี สุโขทัย หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ อุดรธานี อุตรดิตถ์  อุทัยธานี หนองคาย กาฬสินธุ์ ระยอง ตาก ประจวบคีรีขันธ์ อยุธยา สกลนคร สุรินทร์ สระแก้วและอุบลราชธานี 

ขณะที่แนวโน้มตัวเลขผู้ป่วยในกรุงเทพมหานครและนนทบุรี แนวโน้มลดลงเล็กน้อย แต่ก็ยังสูงอยู่ เมื่อเปรียบเทียบในพื้นที่ต่างจังหวัด ดังนั้นยังมีความน่ากังวลอยู่ โดยกลุ่มผู้ป่วยที่พบมากที่สุดอยู่ในช่วงอายุ 20- 29 ปี และจำนวนผู้ป่วยยืนยันตามปัจจัยเสี่ยง ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคมถึง 25 เมษายน พบว่ากลุ่มที่สัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ มีมากที่สุด 843 ราย คนไทยเดินทางกลับจากต่างประเทศ 221 ราย อาชีพเสี่ยง 186 ราย ผู้ป่วยเดินทางกลับจากต่างประเทศ 67 รายและไปสถานที่ชุมนุมชน 57 ราย

ทั้งนี้ มีรายงานว่า มีคนไทยที่แจ้งความประสงค์จะเดินทางกลับจากต่างประเทศ หลังวันที่ 30 เมษายน จำนวน 8,998 คน และ เมื่อมีการเปิดให้ลงทะเบียนล่วงหน้าในวันที่ 25 เมษายน คาดว่าจะมีคนมาลงทะเบียนเพิ่มขึ้น โดยขณะนี้มีผู้แจ้งความประสงค์จะเดินทางกลับจาก 14 ประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา 1,950 คนออสเตรเลีย 786 คน นิวซีแลนด์กว่า 600 คนอินเดียกว่า 600 คน ญี่ปุ่น 280 คนซาอุดิอาระเบีย 290 คน เมียนมาร์กว่า 600 คน โดยยืนยันทุกอย่างจะต้องมีการดำเนินการตามขั้นตอนและมาตรการให้ถูกต้อง


นอกจากนี้ มีผู้ฝ่าฝืนการประกาศเคอร์ฟิว โดยมีประชาชนออกนอกเคหสถาน 660 ราย รวมกลุ่มชุมนุมและมั่วสุมจำนวน 86 ราย โดยจังหวัดที่มีการฝ่าฝืนกฎหมายมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่ปทุมธานี ภูเก็ต สมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร และนครราชสีมา อยากขอทุกคนให้ความร่วมมืออย่าฝ่าฝืนกฎหมาย เพราะตัวเลขเหล่านี้จะบอกได้ว่า หากมีการชุมนุมมั่วสุมกัน ก็จะมีความเชื่อมโยงในการ พบผู้ป่วยยืนยันรายใหม่เพิ่มมากขึ้น 

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวว่า วันนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. ได้ประชุมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้ชื่นชมประชาชนและเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ช่วยกัน ทำให้ตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่ลดลงและขอให้ หัวหน้าส่วนราชการดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายและเบี้ยเลี้ยงกับผู้ปฏิบัติงานทุกคนอย่างเต็มที่ 

ส่วนประเด็นเรื่องของพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน(พ.ร.ก.ฉุกเฉิน)นั้น นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวว่า  นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ยังมีความจำเป็นในสถานการณ์นี้  ซึ่งรัฐบาลจะหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวาระถัดไป ในส่วนของการมีมาตรการผ่อนคลายนั้น จะต้องมีมาตรการออกมาก่อน จึงมอบหมายให้ส่วนราชการและผู้ประกอบการต่าง ๆ ไปปรึกษาหารือและเสนอมาว่าจะมีมาตรการอย่างไร โดยการจัดระบบต้องปลอดภัยและจะต้องดูแลเฉพาะกลุ่มอาชีพต่าง ๆ และสถานที่ให้ครอบคลุมด้วย เช่น สนามกีฬา ตลาดสด ขณะเดียวกันต้องศึกษาเรียนรู้จากต่างประเทศ ที่ได้ผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ แล้วว่ามีการดำเนินการอย่างไร แล้วนำมาปรับใช้ให้เกิดความสมดุลเหมาะสม ทั้งปัญหาด้านการติดเชื้อโควิด-19 กับปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นกับประชาชน 

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวว่า ปลัดกระทรวงสาธารณสุข  ได้รายงานการคาดการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ตามหลักการการคำนวณทางระบาดวิทยา พบว่า จากสถานการณ์ในปัจจุบันการติดเชื้ออยู่ในอัตรา  1 ต่อ 1.2 คน คือประมาณ 200 คนต่อสัปดาห์ และคาดว่าในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ หากควบคุมได้ดี ตัวเลขจะค่อย ๆ ลดลงเหลือ 22 คนต่อสัปดาห์ แต่หากควบคุมไม่ดี การติดเชื้ออาจจะเพิ่มเป็น 1 ต่อ 1.8  คน ทำให้ช่วงระหว่างวันที่ 20-26 เมษายน คาดว่าจะมีผู้ติดเชื้อประมาณ  336 คน แต่หากควบคุมไม่ดี จะทำให้ช่วง 22-28 มิถุนายน ตัวเลขอาจเพิ่มสูงขึ้นถึง 2,419 รายต่อสัปดาห์ ดังนั้น จึงจะเพิ่มมาตรการค้นหาเชิงรุกในกลุ่มเสี่ยงคือผู้ใช้แรงงานและชุมชนต่าง ๆ เพื่อลดจำนวนการแพร่เชื้อ  การติดตามหาผู้สัมผัสให้พบ การค้นหาผู้ป่วยในพื้นที่ที่มีการระบาดต่อเนื่อง และการป้องกันการแพร่เชื้อในโรงพยาบาล 

โฆษก ศบค. กล่าวว่า ปลัดกระทรวงมาไทยได้รายงานว่า ได้จัดเตรียมสถานที่กักกันที่ภาครัฐจัดหาให้ทั่วประเทศ  796 แห่ง รองรับคนได้ 2,0941 คน โดยขณะนี้มีผู้เข้าพัก 2,339 คน ยังรองรับได้อีก นอกจากนี้ยังมีในส่วนของกระทรวงกลาโหมที่จัดหาสถานที่รองรับไว้.-สำนักข่าวไทย          

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน ฝนตกหนักบางพื้นที่

กรุงเทพฯ 27 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนประชาชนโดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนภาคกลาง รวมทั้ง กทม.-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมกำลังค่อนข้างแรงบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน […]

“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยกหารือเวที UN พรุ่งนี้

สวีเดน 26 ส.ค.-“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา หลังกัมพูชาใช้โล่มนุษย์ยั่วยุในพื้นที่ต่อเนื่อง เตรียมยกเรื่องนี้หารือเวที UN ที่เจนีวา พรุ่งนี้ ยันยังไม่ส่งทูตกลับ จนกว่าเขมรแสดงให้เห็นว่าจริงใจ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวภายหลังการหารือทวิภาคีกับนางมารีอา มัลเมอร์ สเตเนอร์การ์ด (Maria Malmer Stenergard) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสวีเดน ถึงสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ที่มีการยั่วยุโดยใช้พลเรือนเป็นเครื่องมืออย่างต่อเนื่อง ว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นที่หน่วยงานในพื้นที่ต้องช่วยกันระมัดระวังไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน เพราะเมื่อมีพลเรือนเข้ามาเกี่ยวข้อง ในการทำงานของทางทหารก็จะยากลำบาก อาจจะนำไปสู่การสร้างความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหน่วยงานที่เป็นพลเรือนในพื้นที่ก็จำเป็นจะต้องเข้ามาดูแลและแก้ไขสถานการณ์ตรงนี้ นายมาริษ กล่าวว่า ในการพบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสวีเดน ตนได้อธิบายให้เข้าใจว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่กัมพูชาพยายามใช้ ซึ่งขัดต่อความตกลงในกฎบัตรสหประชาชาติเป็นอย่างมาก เหมือนกับใช้ประชาชนและพลเรือนเป็นโล่มนุษย์ เพื่อที่จะทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ซึ่งประเทศสวีเดนก็เข้าใจ และพรุ่งนี้ (27 ส.ค.) ตนจะมีโอกาสได้ชี้แจงกับที่ประชุม UN ที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ตนจะยกประเด็นนี้ขึ้นแสดงความห่วงกังวลว่า การใช้วิธีเอาพลเรือนมาเป็นตัวกดดัน หรือมาสร้างความตึงเครียด หรือขยายความตึงเครียดบริเวณชายแดนมากยิ่งขึ้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ […]

พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์ถล่มหลายจังหวัดภาคเหนือ น่านยกระดับรับมือ

26 ส.ค. – พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์แล้ว หลายจังหวัดทางภาคเหนือมีฝนตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก จนมีน้ำท่วมหลายพื้นที่ และต้องจับตาไปที่จังหวัดน่าน ซึ่งพายุคาจิกิเคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่และเริ่มส่งผลกระทบตั้งแต่ช่วงค่ำวันนี้ ทำให้จังหวัดน่านยกรระดับมาตรการป้องกันและเตรียมรับมือกับน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม.-สำนักข่าวไทย

Gripen ที่จัดซื้อใหม่ประสิทธิภาพดีกว่าลำเดิมที่มีอยู่

สวีเดน 26 ส.ค. – แม้รัฐบาลไทยและสวีเดนได้ลงนามความร่วมมือซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตีกริพเพน E และ F ไปแล้ว แต่กว่าจะได้รับเครื่อง จะต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 4 ปี ระหว่างนี้จะมีการวางกรอบพัฒนาร่วมกัน แน่นอนว่ารุ่นใหม่สเปกใหม่ดีกว่ารุ่นเก่าที่เรามี แตกต่างอย่างไร ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย