“น.อ.อนุดิษฐ์” ค้านต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

กรุงเทพฯ 20 เม.ย.-เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ชี้ไม่ควรต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะยิ่งทำให้เศรษฐกิจดิ่งลงเหว เร่งเปิดร้าน เปิดเมือง ฟื้นฟูเศรษฐกิจ


น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า จากตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่รัฐบาลรายงานให้ทราบดีขึ้นเป็นลำดับนั้น แสดงว่ามาตรการทางสาธารณสุขดำเนินการมาอย่างได้ผล ต้องขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความร่วมมือ โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์ที่ระดมกำลังช่วยกัน จนสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 อยู่ในระดับที่ควบคุมได้ อย่างไรก็ตาม ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการล็อคดาวน์ ถือว่าเป็นปัญหาสำคัญที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันแก้ไขเช่นเดียวกัน ดังนั้นเมื่อรัฐเห็นว่ามาตรการด้านสาธารณสุขอยู่ในระดับคงที่แล้ว คงต้องเร่งพิจารณามาตรการผ่อนปรนต่าง ๆ เพื่อนำไปสู่การเปิดร้าน เปิดเมืองกันต่อไป

“สถานการณ์โควิดกำลังจะคลี่คลาย แต่ยังไม่หายขาด เชื่อว่ารัฐบาลคงมีแผนป้องกันไม่ให้โรคร้ายกลับมาระบาดซ้ำอย่างแน่นอน แต่สิ่งสำคัญที่ต้องดำเนินการคู่ขนานไปกับการควบคุมโรค คือการกลับมาใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ ขณะนี้ประชาชนเดือดร้อนเพราะขาดรายได้จากมาตรการของรัฐเป็นจำนวนมาก ตัวเลขคนตกงานอาจสูงถึง 10 ล้านคน ดังนั้นการชดเชยเงิน 5,000 บาทเพียงอย่างเดียว จึงไม่เพียงพอ รัฐบาลคงต้องเร่งพิจารณาผ่อนปรนมาตรการต่าง ๆ ที่ไม่กระทบกับการควบคุมโรค โดยต้องเร่งเปิดร้าน เปิดเมือง เพื่อทำให้ประชาชนส่วนใหญ่สามารถกลับมาทำงานได้ใหม่โดยเร็วที่สุด” น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว


น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวอีกว่า หวังว่ารัฐบาลคงไม่มีความจำเป็นในการขยายเวลาบังคับใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ออกไปอีก เพราะสถานการณ์หลังจากนี้ เชื่อว่าหากรัฐบาลบังคับใช้ พ.ร.บ.โรคติดต่อ อย่างเคร่งครัด น่าจะเพียงพอ ส่วนการปลดล็อคธุรกิจบางสาขาอาชีพที่ทำได้ ต้องเร่งกำหนดมาตรการที่เป็นรูปธรรม เพื่อให้ผู้ประกอบการเตรียมพร้อม เมื่อรัฐไฟเขียวจะได้ลงมือกันได้ทันที ยิ่งปลดล็อคธุรกิจที่ไม่กระทบกับการควบคุมโรคได้มากเท่าไร ยิ่งเป็นการลดภาระรัฐบาล และช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวเร็วมากขึ้นเท่านั้น

“ส่วนตัวผมไม่เห็นด้วยกับการต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกไปอีก เพราะยิ่งนานไปแม้มั่นใจว่าสามารถควบคุมโรคได้ แต่เศรษฐกิจจะดิ่งเหวลงไปเรื่อย ๆ ดังนั้นควรบังคับใช้ พ.ร.บ.โรคติดต่อ อย่างเคร่งครัดจะดีกว่า จากนี้ไปรัฐบาลต้องเร่งทำการบ้านโดยด่วนว่าจะผ่อนคลายธุรกิจชนิดไหนบ้าง และต้องกำหนดมาตรการต่าง ๆ ออกมาให้ชัดเจน เพื่อให้ผู้ประกอบการทั้งหลายเตรียมตัว เมื่ออนุญาตให้เปิดจะได้เดินหน้าธุรกิจได้ทันที วันนี้คนตกงานส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับเงินชดเชย ถ้าเปิดกิจการให้คนกลับมาทำมาหากินได้บ้าง จะเป็นการเพิ่มทางรอดให้ประชาชน เพราะบางคนบ่นว่าหากรอเงินชดเชยเพียงอย่างเดียว ครอบครัวอาจต้องอดตายก็ได้” น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

voting ballot of Manchester, New Hampsher

เผยผลเอ็กซิตโพลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 2024                                               

รอยเตอร์เผยเอ็กซิตโพลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐว่า 2 ผู้สมัครที่เป็นคู่แข่งขันกันได้คะแนนเสียงจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งกลุ่มใดในสัดส่วนเท่าใด

รองเจ้าอาวาสวัดดัง เปย์สีกาไม่อั้น ลาสิกขาแล้ว

“รองเจ้าอาวาสวัดดัง” ลาสิกขาแล้วกลางดึก หลังปมฉาวเปย์สีกาไม่อั้น บอกไม่อยากให้เกิดความเสื่อมเสียต่อวัดและคณะสงฆ์

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

ข่าวแนะนำ

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

ประชุมลุ่มน้ำโขง

นายกฯ ยันไทยยึดหลัก 3Cs แชร์ผลสำเร็จ 30 บาทรักษาทุกที่

ไทยแลนด์โดดเด่นบนเวทีผู้นำลุ่มน้ำโขงครั้งที่ 8 เต็มคณะเช้าวันนี้ นายกฯ แพทองธาร ยืนยันไทยยึดหลัก 3Cs “สร้างความเชื่อมโยง เสริมขีดความสามารถ สร้างประชาคมที่ดีขึ้น”

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ-กลาง-ตอ.ลมแรง ไทยตอนบนอุณหภูมิลด 1-2 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาฯ กับมีลมแรงในภาคอีสาน ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ลมแรง และมีฝนฟ้าคะนอง 10%

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน