เร่งสอบอ้างเป็นทหารชุดปราบปรามยาเสพติด บุกอุ้ม 2 พี่น้องซ้อมดับ 1 สาหัส 1

นครพนม 20 เม.ย. – รอง ผบ.กกล.สุรศักดิ์มนตรี ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีทหารอ้างเป็นชุดปราบปรามยาเสพติด บุกอุ้ม 2 พี่น้องไปทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิต


กรณีนายยุทธนา ซ้ายซา หรือ ด่อน อายุ 33 ปี และน้องชาย ชื่อนายนัตพงศ์ ซ้ายซา หรือ แดง อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 หมู่ 6 บ้านยางคำ ต.อุ่มเหม้า อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ถูกชายสวมชุดลายพรางจำนวนหนึ่ง อ้างตัวว่าเป็นชุดปราบปรามยาเสพติด บุกเถียงนาในสวนยางพารา อุ้มไปสอบสวนเค้นหาความจริง ในฐานปฏิบัติการชั่วคราว ภายในบริเวณวัดกัณตะศิลาวาส ต.ฝั่งแดง อ.ธาตุพนม เบื้องต้นกล่าวหาว่า พี่น้องคู่นี้มีพฤติกรรมลักลอบขายยาเสพติด (ยาบ้า) ซึ่งการทำร้ายครั้งนี้เป็นแบบรุมกินโต๊ะ เพื่อให้ยอมรับว่าเป็นผู้ค้า จนเป็นเหตุให้นายยุทธนา หรือ ด่อน ผู้เป็นพี่ เสียชีวิตที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม เหตุเกิดเมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 17 เมษายน 2563


ความคืบหน้าผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายนิวัฒน์ ซ้ายซา อายุ 59 ปี พ่อของผู้เสียชีวิต ว่า เย็นวันที่ 18 เมษายน ได้ไปเจอนายนัตพงศ์ ลูกชายคนเล็ก โดยมีสภาพสะบักสะบอม เนื่องจากถูกทำร้ายจนมีรอยเขียวช้ำตามร่างกายหลายแห่ง จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม แพทย์ทำการเอกซเรย์ พบว่ากระดูกชายโครงขวาหัก 2 ซี่ และเลือดจะแล่นไปท่วมปอด จึงรีบดูดเลือดที่คั่งออกมา เพื่อช่วยเหลือชีวิต หากช้าอาจเป็นอันตรายต่อผู้บาดเจ็บได้


นายนัตพงศ์ เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า หลังจากกินข้าวกับพี่ชายอิ่ม ก็นั่งเล่นอยู่ในเถียงนา ปรากฏว่ามีกลุ่มชายฉกรรจ์กว่า 10 คน กรูกันเข้ามา พร้อมล็อกตัวกดอยู่กับพื้น ถามว่าเอายาบ้าไปซ่อนไว้ที่ไหน ก็ตอบไปว่าไม่มียาบ้า แต่กลุ่มชายดังกล่าวไม่เชื่อ ใส่กุญแจมือไพล่หลัง นำตัวขึ้นรถยนต์ไปสอบสวนต่อที่ฐานปฏิบัติการภายในวัด โดยแยกตนกับพี่ชายออกไปซ้อมคนละจุด แต่สามารถมองเห็นภาพเหตุการณ์ทั้งหมดได้ ซึ่งชายชุดพรางรุมกระทืบตนกับพี่ กลุ่มละ 7-8 คน โดยบังคับให้ยอมรับว่าเป็นผู้ค้ายาเสพติด ตนตอบไปว่าเป็นแค่ผู้เสพ ซื้อมาจากคนในหมู่บ้าน และก็ถูกจับไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่กลุ่มชายฉกรรจ์ไม่เชื่อ ทรมานต่างๆ นานา เช่น ยกตัวขึ้นลอยสูง ก่อนจะทุ่มลงมากระแทกพื้น และรุมกระทืบที่หน้าอก ทั้งต่อยและเตะสารพัด เมื่อเป็นที่พอใจก็ปล่อยให้พักประมาณ 10 นาที และพากันกลับมากระทืบใหม่ ทำอยู่อย่างนี้ราว 1 ชั่วโมง จนตนและพี่ชายสลบเหมือด จึงลากมานอนกองรวมกันที่พื้น ตนรู้สึกตัวพบพี่ชายนอนแน่นิ่งไม่ไหวติง เรียกชื่อก็ไม่ขานตอบ กระทั่งมีชายชุดพรางเข้ามาดู เห็นพี่ชายนอนตาค้าง จึงออกไปบอกผู้บังคับบัญชา และพากันนำตัวส่งโรงพยาบาล

นายนัตพงศ์ เล่าต่อว่า ก่อนจะโดนกระทืบจนสลบ กลุ่มชายฉกรรจ์ได้นำน้ำมากรอกใส่ปาก จำได้ว่าเป็นแอลกอฮอล์สำหรับใช้ฆ่าเชื้อ จากนั้นก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลย กระทั่งรุ่งเช้าบ่นว่าเจ็บซี่โครง ก็เอายาพาราเซตามอลให้กิน แต่อาการไม่ดีขึ้น จนพ่อแม่มาเจอ ขณะนั้นมีอาการแน่นหน้าอก หายใจติดขัด ถึงโรงพยาบาลจึงรู้ว่ากระดูกซี่โครงหัก และเพิ่งรู้ว่าพี่ชายเสียชีวิตแล้ว

ขณะที่นางป่าน เล่าต่ออีกว่า วันที่ 18 เมษายน ทหารของหน่วยงานความมั่นคงแห่งหนึ่งได้ขอเจรจาเคลียร์เรื่องราวที่เกิดขึ้นใน สภ.ธาตุพนม ตนถามว่า ลูกคนเล็กอยู่ไหน ถ้ามีชีวิตอยู่จริงต้องพาไปดู แต่กลุ่มทหารก็บ่ายเบี่ยงตลอดเวลา ด้วยความร้อนใจ จึงชวนญาติพากันไปที่ฐานปฏิบัติการในวัด ทหารจึงยอมนำลูกชายออกมาให้เจอกัน ในสภาพที่ถูกซ้อมสะบักสะบอม 

ในส่วนของการดำเนินคดี ตำรวจ สภ.ธาตุพนม เร่งสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมนำศพนายยุทธนา ส่งไปชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตโดยละเอียด คาดว่าใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ จะสามารถสรุปพยานหลักฐาน เอาผิดกับกลุ่มบุคคลที่ก่อเหตุได้

ส่วนที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม จ.นครพนม พ.อ.บุญสิน พาดกลาง รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี เยี่ยมให้กำลังใจนายนัตพงศ์ พร้อมมอบกระเช้าของขวัญและเงินสดไว้เบื้องต้น ยืนยันจะให้ความเป็นธรรม ดำเนินตามขั้นตอนกฎหมาย ไม่เข้าข้างคนผิด พร้อมกล่าวขอโทษที่ผู้ใต้บังคับบัญชากระทำเกินกว่าเหตุ ขณะนี้ได้ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และมีคำสั่งให้ชุดปฏิบัติการที่ร่วมกันอุ้ม 2 พี่น้องไปทำร้ายจนบาดเจ็บและเสียชีวิต มีตั้งแต่นายทหารสัญญาบัตร ยศ ร.ท. เป็นหัวหน้าชุด และระดับประทวน จนถึงทหารเกณฑ์ จำนวน 11 นาย หยุดการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเป็นทหารของศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายเเดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ตอนบน) หรือ ศอ.ปส.ชอน.(บ) ที่ขึ้นตรงกับ กกล.สุรศักดิ์มนตรี จากนี้ฐานปฏิบัติการภายในวัด ต้องมีการแก้ไข หรืออาจจะต้องย้ายไปตั้งที่อื่น เพราะไม่ต้องการให้ประชาชนลำบากใจ. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทหารกัมพูชาขุด “คูเลต” ลากยาว 650 เมตร

อุบลราชธานี 28 พ.ค.- เปิดภาพ! “คูเลต” ทหารกัมพูชาขุดลากยาว 650 เมตร จากต้นสัตบรรณถึงสามแยกลาว จุดปะทะทหารไทย เมื่อวันที่ 28 พ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน ภายหลังเกิดเหตุปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี หลังพบขุดคูเลต จากจุดต้นสัตบรรณถึงสามแยกลาว ระยะทาง 650 เมตร ซึ่งเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยก่อนจะเกิดเหตุปะทะกัน ทหารไทยได้เข้าไปเจรจา เพราะเป็นการละเมิด MOU 2543 เป็นครั้งที่ 2 แต่ทางทหารกัมพูชากับยิงสวนออกมา จึงเกิดการปะทะกัน โดยช่วงนี้อยู่ระหว่างการเจรจาของผู้นำในพื้นที่ทั้งสองฝ่าย โดยฝ่ายทหารไทยยืนยันว่าให้ทหารกัมพูชา ออกจากพื้นที่อ้างสิทธิพร้อมกัน-313 .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ย้ำกัมพูชาต้องยึด MOU 43 หลังละเมิดขุดคูเลต 2 รอบ

อุบลราชธานี 28 พ.ค.- มทภ.2 ย้ำกัมพูชาต้องยึด MOU 43 หลังละเมิดขุดคูเลต 2 รอบ ทหารไทยเข้าเจรจากลับยิงสวน ลั่นปกป้องอธิปไตยตามแผนที่ 1:50,000 เต็มที่ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึง เหตุปะทะระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ว่า ในช่วงเช้าที่ผ่านมา กำลังพลของกองกำลังสุรนารีได้ลาดตระเวนและพบว่า ทหารกัมพูชาขุดคูเลต เช่นเดียวกับเนิน 745 ช่องบก ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยก่อนจะเกิดเหตุปะทะกัน ทหารไทยได้เข้าไปเจรจา แต่ทางกัมพูชา ยิงสวนออกมา จึงเกิดการปะทะกัน อย่างที่เป็นข่าว สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาต่อจากนี้ ผู้บังคับบัญชาในระดับพื้นที่กำลังพูดคุยเจรจา “ยืนยันว่าทหารไทยทำหน้าที่รักษาอธิปไตยตามแผนที่ 1:50,000 ซึ่งในพื้นที่ทับซ้อนของทั้ง 2 ประเทศ จะมีการออกลาดตระเวนอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายล้ำเข้ามา ซึ่งทุกฝ่ายต้องยึดตาม MOU 2543”.-313.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารกัมพูชา

ทบ.แจงเหตุปะทะทหารกัมพูชาบริเวณช่องบก คลี่คลายแล้ว

กองทัพบก 28 พ.ค.-ทบ.แจงเหตุปะทะทหารกัมพูชาบริเวณชายแดนช่องบก จ.อุบลราชธานี ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว อยู่ระหว่างรอการเจรจา พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เผยถึงสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา โดยระบุว่าได้รับรายงานจาก กองกำลังสุรนารีเกี่ยวกับเหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 เวลา 05.30 น. โดย หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี ได้รับการรายงานว่ามีทหารกัมพูชาเข้ามาวางกำลังในพื้นที่อ้างสิทธิ์ ซึ่งไม่เป็นไปตามข้อตกลง ฝ่ายไทยจึงจัดชุดประสานงานเพื่อเข้าพูดคุยเจรจาตามแนวทางการปฏิบัติที่เคยกระทำมา เมื่อถึงบริเวณดังกล่าว กำลังส่วนระวังเหตุของทหารกัมพูชา ได้เข้าใจผิด และเริ่มใช้อาวุธ ฝ่ายไทยจึงใช้อาวุธตอบโต้กลับไป โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที ต่อมาเวลา 05.55 น. พลตรี ทล โซะวัน รองผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ฝ่ายกัมพูชา ได้โทรศัพท์ประสานงานกับ พันเอก บุญเสริม บุญบำรุง รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายยุติ โดยทั้งสองฝ่ายได้ตกลงหยุดยิงและตรึงกำลังบริเวณจุดปะทะ ปัจจุบันทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการเจรจาผ่านกลไกทวิภาคี เพื่อจัดการกรณีอ้างสิทธิในพื้นที่ และกำหนดแนวทางร่วมกันในการปฏิบัติอย่างสันติ ตามข้อตกลงที่มีอยู่ […]

มติเอกฉันท์ สภาอนุมัติ “พ.ร.ก.ไซเบอร์-สินทรัพย์ดิจิทัล”

รัฐสภา 28 พ.ค.- สภาเอกฉันท์อนุมัติ “พ.ร.ก.ไซเบอร์-สินทรัพย์ดิจิทัล” ให้ธนาคารร่วมชดใช้ค่าเสียหายจาก “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” เร่งคืนเงินผู้เสียหาย ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยวิสามัญ วาระการพิจารณาพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 และ พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ ซึ่งแบ่งเวลาในการอภิปรายฝ่ายละ 2 ชั่วโมง รวม 4 ชั่วโมง และจะเป็นการรวมพิจารณา และแยกลงมติทีละฉบับ โดยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เสนอหลักการว่า เนื่องจากปัจจุบัน มี พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญกรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ยังมีมาตรการบังคับทางกฎหมายที่ยังไม่เพียงพอ กับรูปแบบอาชญากรรม กลุ่มมิจฉาชีพ จึงต้องแก้ไขปรับปรุงให้ทันสมัย เช่น การเร่งคืนเงินให้ผู้เสียหาย, การอาญัติบัญชีม้า, การกำหนดหน้าที่และความรับผิดชอบของสถาบันการเงิน ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ และมาตรการการโอนเงินผิดกฎหมาย ผ่านสินทรัพย์ดิจิทัล จากนั้น ได้เปิดโอกาสให้ สส.อภิปรายอย่างกว้างขวาง โดยนายจุติ […]

ข่าวแนะนำ

ปิดเส้นทางงดให้ชาวบ้านขึ้น “ช่องบก” หลังเหตุปะทะไทย-กัมพูชา

อุบลราชธานี 29 พ.ค. – บรรยากาศภายในจุดเฝ้าระวัง ภจ12 (ฐานมรกต) อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย ในหมู่บ้านโนนสูง หมู่ 3 ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นทางขึ้นสู่ช่องบก ยังคงตึงเครียดต่อเนื่อง หลังเกิดเหตุปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.68) เช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ได้ปิดเส้นทางไม่ให้ชาวบ้านขึ้นไปยังพื้นที่ด้านบน พร้อมมีการตรึงกำลังทหารเพื่อดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ขณะเดียวกัน มีรถพยาบาลทยอยขึ้นไปยังพื้นที่เกิดเหตุอย่างต่อเนื่อง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้มีการบันทึกภาพบริเวณที่ตั้งกำลังของทหารไทย นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งจุดอำนวยการฉุกเฉิน โดยขนย้ายเต็นท์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ขึ้นไปเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ ชาวบ้านในพื้นที่แสดงความกังวลต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายสิทธิ์ อายุ 73 ปี กล่าวว่า ปกติจะขึ้นป่าเป็นประจำ แต่ตอนนี้เจ้าหน้าที่ห้ามเข้าพื้นที่ ทำให้ขาดรายได้ ขณะที่นางพวย อายุ 61 ปี เล่าว่า นี่เป็นครั้งที่ 3 ที่พบเหตุการณ์ในลักษณะนี้ ก่อนหน้านี้เคยมีกระสุนตกลงมาในหมู่บ้าน แม้รู้สึกกลัว แต่ก็พอทำใจได้ เพราะเคยผ่านเหตุการณ์คล้ายกันมาแล้ว ในช่วงบ่ายวันนี้ นายอำเภอน้ำยืนเตรียมเรียกประชุมหน่วยงานราชการในพื้นที่ เพื่อวางแนวทางรับมือและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ขณะที่เวลา […]

นายกฯ ยันศาลฯ เบรกภาษี “ทรัมป์” ไม่กระทบแผนเจรจาไทย

กรุงเทพฯ 29 พ.ค. – นายกฯ ยันศาลการค้ารัฐบาลกลางเบรกภาษี “ทรัมป์” ไม่ส่งผลกระทบแผนเจรจาไทย ทีมงานยังเดินหน้าต่อ จนถึงวันนี้ยังไม่ได้วันนัดชัดเจน รู้สึกสบายใจหลายประเทศอาเซียนก็อยู่ระดับเดียวกับไทย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ มีคำวินิจฉัยว่า ทรัมป์ ไม่สามารถใช้อำนาจฉุกเฉินในการกำหนดภาษีศุลกากรทั่วโลกได้ เรื่องนี้จะส่งผลกับประเทศไทยที่กำลังรอเจรจาเรื่องภาษีสหรัฐอเมริกาอยู่หรือไม่ ว่า ก็ให้เป็นไปตามกระบวนการไปตกลงจะมีผลอย่างไร ซึ่งตนเองก็ไม่แน่ใจแต่เราก็ต้องทำต่อ เตรียมความพร้อมต่อไป จะหยุดชะงักเลยก็คงไม่ได้และไม่แน่ใจว่ารับฟังหรือยัง เพราะระหว่างที่ไปประชุมที่มาเลเซียได้มีโอกาสได้คุยกับทุกประเทศ ได้คุยกันเรื่องของภาษีสหรัฐอเมริกา ทุกคนพูดเหมือนกันว่าหลายประเทศอยู่ในระดับเดียวกับประเทศไทย คือส่งรายงานเข้าไปและรอวันที่จะตอบกลับมาว่าจะได้ไปคุยวันไหน ยืนยันว่าเราไม่ได้ช้าและอยู่ในขั้นตอนของการรอวันที่จะไปคุยเช่นกันตามกรอบ 90 วัน จึงขอให้สบายใจได้ และจนถึงตอนนี้ยังไม่ได้วันชัดเจนว่าจะได้คุยวันไหนต้องรอให้ทางสหรัฐอเมริกานัดมา แต่ในทีมทำงานไม่เป็นทางการยังติดต่อกันได้ ยังได้คุยและอัพเดทสถานการณ์กันอยู่ และก็เป็นสัญญาณบวก และย้ำอีกครั้งว่า ตนเองไม่ได้ถูกแบนวีซ่าสหรัฐอเมริกาขอให้สบายใจได้. -420-สำนักข่าวไทย

หุ้นบวก-บาทอ่อน-ทองลง รับข่าวที่ศาลฯ ระงับมาตรการภาษีตอบโต้ของ “ทรัมป์”

กรุงเทพฯ 29 พ.ค. – หุ้นไทยบวก-บาทอ่อนค่า-ทองลง รับข่าวที่ศาลฯ ระงับมาตรการภาษีตอบโต้ของ “ทรัมป์” ขณะ บล.กรุงศรี คาด SET จะกลับเหนือ 1,200-1,210 จุด ใน 1-3 วัน เงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 32.84-32.86 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (เวลา 09.56 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 32.62 บาทต่อดอลลาร์ฯ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุเงินบาทอ่อนค่าลงสอดคล้องกับสกุลเงินเอเชียอื่นๆ เงินเยน และเงินฟรังก์ สวนทางเงินดอลลาร์ฯ ที่แข็งค่าขึ้น รับข่าวที่ศาลการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ ในนิวยอร์กระงับการใช้มาตรการภาษีศุลกากรของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่ออกมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขต ในการเก็บภาษีแบบครอบคลุมจากประเทศที่ส่งออกสินค้ามายังสหรัฐฯ มากกว่าที่นำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ด้านทำเนียบขาวได้ยื่นอุทธรณ์คำตัดสินดังกล่าว และอาจยื่นเรื่องต่อไปจนถึงศาลสูงหากจำเป็น แต่ในระหว่างนี้ ตลาดมองว่าเป็นสัญญาณบวกว่าทรัมป์อาจยอมถอยจากการกำหนดภาษีในระดับสูงสุดที่เคยขู่ไว้ นอกจากนี้ การอ่อนค่าของเงินบาทยังสอดคล้องกับการปรับตัวลงของราคาทองคำในตลาดโลก และสัญญาณสะท้อนสถานะ outflows ของนักลงทุนต่างชาติออกจากตลาดพันธบัตรไทยในวันนี้ด้วยเช่นกัน สมาคมค้าทองคำ […]

“วันนอร์” ชมการอภิปรายงบฯ 69 วันแรก ไม่น่าเบื่อ ประเด็นไม่ซ้ำ

รัฐสภา 29 พ.ค.-“วันนอร์” ชมการอภิปรายงบฯ 69 วันแรก ทุกคนเตรียมตัวมาดี ข้อมูลเป็นประโยชน์ ไม่น่าเบื่อ ประเด็นไม่ซ้ำ ระบุแม้ สส. – รมต. – นายกฯ ไม่อยู่ห้องประชุม แต่รับฟังจากทีวี – วิทยุ ด้านนอกได้ บอก “กุสุมาลวตี” ยื่นสอบจริยธรรม “อนุทิน” ทำได้ โยนฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงภาพรวมการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 วันแรก ว่า ตั้งแต่นายกรัฐมนตรีได้เสนอรายละเอียดในทุกแง่มุม ซึ่งสภา และประชาชนที่ได้รับฟัง น่าจะเข้าใจว่ารัฐบาลมีความตั้งใจในการใช้งบประมาณในปีนี้ ส่วนผู้นำฝ่ายค้าน ก็อยากให้รัฐบาล และผู้ใช้งบประมาณปรับปรุงแนวทางในการทำงาน เพื่อให้งบประมาณเกิดประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด ซึ่งทุกคนไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาล หรือฝ่ายค้าน อภิปรายอย่างมีคุณค่าสำหรับประชาชน และผู้ที่จะใช้งบประมาณทุกภาคส่วน ก็จะนำข้อคิดเห็นนี้ไปดูแลงบประมาณ โดยหลังจากวันที่ 31 พฤษภาคม 2568 จะมีการตั้งกรรมาธิการวิสามัญ 72 คน […]