กรุงเทพ 18เม.ย.-โฆษกศบค.แถลงสถานการณ์โควิดไทย มีแนวโน้มดีขึ้นอยู่อันดับ 53 ข่าวดีวันหยุดไม่พบผู้เสียชีวิต ติดเชื้อเพิ่ม 33 ราย ติดเชื้อสะสม 2,733 ราย เตือนให้คนมารวมตัวจำนวนมากรับของบริจาคมีโอกาสเสี่ยงติดโควิดและผิดกฎหมาย
นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.แถลงข่าว ว่าอันดับสถานการณ์โควิดของไทยขณะนี้อยู่อันดับที่ 53 ของโลก มีผู้ป่วยรายใหม่ 33 คน ติดเชื้อสะสม 2,733 ราย รักษาหาย 1,787 คน และรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 899 คน ซึ่งวันนี้(18 เม.ย.)ไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม ยอดผู้เสียชีวิตจึงคงเดิมที่ 47 คน โดยช่วงอายุที่พบติดเชื้อมากที่สุด คือ 20-39 ปี จึงขอให้ช่วยดูแลคนกลุ่มนี้และคนกลุ่มนี้ก็ต้องดูแลตัวเองให้ดีด้วย ต้องใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา หรือหากไปสถานที่แออัด มีคนเป็นจำนวนมาก อย่างการไปรับของบริจาคต้องระมัดระวังตัวเอง
นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวว่าขณะที่ตัวเลขผู้ฝ่าฝืนมาตรการการประกาศห้ามออกนอกเคหะสถานหรือเคอร์ฟิว ในเวลา 22.00-04.00 น. มีการตักเตือน 169 คน และดำเนินคดี 527 คน และมั่วสุมยาเสพติด ดำเนินคดี 113 คน ซึ่งยังพบการชุมนุมมั่วสุม ที่มีจำนวนมากอยู่ จึงขอให้ทุกคนช่วยชาติด้วยการอยู่บ้าน อย่าฝ่าฝืนด่านเคอร์ฟิว โดยในจังหวัดนนทบุรี กรุงเทพ ปทุมธานี สงขลา ยังมีตัวเลขผู้ที่ฝ่าฝืนอยู่จำนวนมาก
ส่วนที่ทุกคนมีความเป็นห่วงคนไทยในต่างประเทศ นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวว่าขณะนี้มีการเปิดลงทะเบียน ตั้งแต่วันที่ 15-18 เมษายน 63 มีตัวเลขประชาชนที่ทยอยเดินทางเข้าประเทศตามด่านชายแดนต่างๆรอบประเทศ พบว่ามีจำนวนทั้งสิ้น 1,984 คน โดยจะเดินทางเข้ามาในวันที่ 18 เมษายน 387 คน และในวันที่ 19 เมษายน มี 422 คน และในวันที่ 20 เมษายน มี 420 คน ส่วนด่าน 3จังหวัดชายแดนใต้ มีที่ขอเดินทางกลับมาทั้งสิ้น 1,604 คน ซึ่งจะทยอยเดินทางกลับเฉลี่ยวันละ 200-300 คน และทราบว่าวันนี้จะมีคนไทยที่เป็นนักเรียนจำนวน 132 คน กลับมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิประเทศไทยในเวลา21.00-22.00 น.ด้วย
นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวว่าสำหรับพื้นที่กักตัว ยังมีความเพียงพอกับคนที่จะเดินทางเข้ามา แต่หากเต็มก็จะมีการขยับขยายไปในพื้นที่ใกล้เคียง พร้อมฝากประชาชนที่อยู่รอบโรงแรมหรือสถานที่ที่ถูกกำหนดให้เป็นสถานที่ควบคุมแห่งรัฐ หรือ state quarantine ไม่ต้องวิตกกังวล เพราะจะมีเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างเป็นขั้นเป็นตอนถูกสุขลักษณะที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด จึงขอให้มั่นใจได้ว่าทุกที่ที่ป็นสถานที่ควบคุมแห่งรัฐ จะมีมาตรฐานความปลอดภัยเป็นอย่างดี
เมื่อถามถึงการที่คนออกมารับของบริจาคที่วัดดอนเมืองจนมีความแออัดกันนั้นจะตักเตือนอย่างไร นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวว่าส่วนตัวมีความตกใจมากๆ ที่เห็นคนไปแออัดกันแบบนั้น เพราะศบค.สื่อสารทุกวันว่าการใกล้ชิดกันมีความเสี่ยงมาก ต้องขอผู้ที่มีความศรัทธาจะแจกสิ่งของให้ประชาชน จะต้องมีการจัดระเบียบให้ดี เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19
“หากว่ากันในเรื่องกฎหมายก็ถือว่ามีความผิดที่ทำให้คนมารวมตัวชุมนุมกันจนเสี่ยงต่อสุขภาพ จึงขอให้ระมัดระวังไม่ให้เกิดเรื่องลักษณะนี้อีก และประชาชนที่ไปเบียดเสียดเมื่อวานนี้ ต้องสังเกตอาการตัวเองด้วยหากพบมีไข้ ไอแห้งๆ เจ็บคอ ใน 7 วัน หรืออาการอื่น ให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วน เนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยง และต้องใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาเพื่อป้องกันไม่ให้เป็น Super Speader ผู้ที่จะบริจาคจะต้องมีระบบจัดระยะห่างมากกว่านี้เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเพราะถือว่าการกระทำเช่นนี้ ไม่ได้ทำตามกำหนดกฎหมาย เนื่องจากมีการชุมนุมเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ตนไม่อยากขู่ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วเราแก้ไขไม่ได้ แต่หลังจากนี้จะต้องระวังตัวเองเป็นอย่างมาก และเราดีใจที่เห็นภาพคนไทยหลายคนที่อยากจะช่วยกันเอง ในวัดต่างๆก็เป็นที่พึ่งให้ประชาชน มีโรงทานมากมาย มีการแจกจ่ายอาหารให้ประชาชน เป็นภาพที่น่ารักมากๆ” นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าว.