fbpx

ชลบุรีสแกนคนเร่ร่อนกลุ่มเสี่ยง ป้องกันโควิด-19

ภูมิภาค 15 เม.ย. – หลายหน่วยงานใน จ.ชลบุรี ลงพื้นที่เมืองพัทยา ตรวจสอบกลุ่มคนเร่ร่อน เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นกลุ่มเสี่ยงแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ 



เจ้าหน้าที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.ชลบุรี และอีกหลายหน่วยงาน ลงพื้นที่เมืองพัทยา ตรวจสอบบุคคลเร่ร่อนตามริมทาง หน้าร้านสะดวกซื้อ หน้าอาคารพาณิชย์ ซึ่งสร้างความหวั่นวิตกให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก เนื่องจากอาจจะเป็นกลุ่มเสี่ยงแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 พบว่า ถนนเลียบชายหาดพัทยา และถนนเส้นพัทยาสายสอง ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มีกลุ่มคนเร่ร่อนจำนวนมากอาศัยพื้นที่หน้าร้านสะดวกซื้อและริมทางหลับนอน บางจุดอาศัยนอนรวมกันเรียงรายอย่างเด่นชัด 


จากการตรวจสอบพบว่า ส่วนใหญ่ไม่ใช่บุคคลที่มีภูมิลำเนาอยู่ใน จ.ชลบุรี หลายคนอ้างว่าได้รับผลกระทบจากโรคระบาด ทำให้ตกงาน ต้องอาศัยนอนริมทาง เพราะไม่มีเงินเช่าที่พักอาศัย บางรายไม่มีแม้แต่บัตรประจำตัวมาแสดง นอกจากนี้ยังมีกลุ่มคนวิกลจริตอีกหลายราย เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปพูดคุยได้ ที่สำคัญพบว่าหลายรายไม่มีความรู้วิธีป้องกันตัวเองและบุคคลรอบข้าง บางรายไม่มีแม้แต่หน้ากากอนามัยสวมใส่ โดยคนเร่ร่อนบางส่วนบอกว่า อยากกลับบ้าน อยากให้ช่วยเงินสงเคราะห์ เจ้าหน้าที่จึงเตรียมส่งกลับภูมิลำเนา และเก็บข้อมูลกลุ่มบุคคลทั้งหมด เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาต่อไป


ขณะที่ความคืบหน้าล่าสุดการปรับแผนปิดเมืองสกัดโควิด-19 Lock Down Pattaya หลังศูนย์ข้อมูล Pattaya Covid-19 และเพจ สภ.เมืองพัทยา ประกาศเช้าวันนี้ (15 เม.ย.) เริ่มทดลองใช้ 8 ด่าน ตั้งแต่เวลา 06.00 น. เป็นต้นไป ทีมข่าวช่อง 9 MCOT HD หมายเลข 30 ลงพื้นที่ พบมีอุปกรณ์กั้นถนน จากการสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทราบว่า วันนี้เป็นการเตรียมจำลองเหตุการณ์ โดยช่วงบ่ายจะปฏิบัติเหมือนจริง เพื่อดูปัญหาและอุปสรรค ก่อนจะประชุมสรุปอีกครั้ง เวลา 19.00 น. เพื่อปรับใช้ในวันพรุ่งนี้ (16 เม.ย.)

ส่วนที่ จ.สงขลา หลายครอบครัวต้องพึ่งพาอาหารจากผู้ใจบุญนำมาแจกจ่ายเพื่อประทังชีวิตทั้ง 3 มื้อ เช่น ที่หน้าร้านแป๊ะอร่อย ย่านสี่แยกซากุระ มีการทำอาหารแจกจ่ายชาวบ้าน 100 ชุด ต่อเนื่องกัน 4 วัน ระหว่างวันที่ 13-16 เมษายนนี้ และเริ่มแจกเวลา 09.00 น. ปรากฏว่ามีชาวบ้านมารอตั้งแต่เช้า บางคนมาเป็นครอบครัวใหญ่ ทั้งลูกเล็กเด็กแดงและปู่ย่าตายาย เพื่อรอข้าวกิน และมีคุณยายอายุ 78 ปีคนหนึ่ง ยืนรอไม่ไหว ถึงกับเป็นลมบนรถสามล้อพ่วงข้าง ต้องช่วยกันอุ้มไปปฐมพยาบาลเบื้องต้น 

หญิงสาวคนหนึ่งบอกว่า ครอบครัวตนและเครือญาติอาศัยอยู่ในชุมชนแออัดริมทางรถไฟ ย่านถนนรัตนวิบูลย์ ในตัวเมืองหาดใหญ่ โดยมีอาชีพรับจ้างทั่วไป หาเช้ากินค่ำ แต่ตอนนี้ไม่มีงาน อดกันทั้งบ้าน และเงินเยียวยา 5,000 บาท ก็ไม่ได้รับสิทธิ จึงต้องพากันออกมาตระเวนหาข้าวกินตามร้านที่มีการแจกอาหารฟรีทั้ง 3 มื้อ ประทังชีวิตให้รอดไปวันๆ และต้องนำไปเผื่อคนอื่นด้วย โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ออกมาไม่ไหว ตอนนี้ลำบากมาก ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหา และหาทางช่วยเหลือชาวบ้านที่ยากจนด้วย. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลโรงงานย่านพระราม 2

เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลในโรงงานย่านพระราม 2 ควันสีขาวลอยโขมง เบื้องต้นพบเป็นสารไทโอยูเรีย

อุตุฯ เผยไทยตอนบนร้อนจัด แนะเลี่ยงทำงานในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง

คดีสะเทือนขวัญ ฆ่าหั่นศพ “ยากูซ่า” จ.นนทบุรี

คดีสะเทือนขวัญ พบชิ้นส่วนมือ ในพื้นที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ล่าสุดตำรวจจับกุมหนึ่งในผู้ต้องหาได้แล้ว และทราบว่าทั้งผู้ตายและผู้ลงมือฆ่าหั่นศพ เป็นแก๊งยากูซ่าชาวญี่ปุ่น

ชาวบ้านร้องโรงงานเก็บสารเคมีเร่งเยียวยาเหตุไฟไหม้

ชาวบ้านที่เดือดร้อนจากเหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมีอุตสาหกรรม จ.ระยอง เรียกร้องโรงงานช่วยเหลือ บอกน้ำสักขวดก็ไม่ได้