ยังไม่พบหลักฐาน : ไทยพบคนติดเชื้อโควิด-19 จากศพ | ชัวร์ก่อนแชร์

สำนักข่าวไทย 15 เม.ย. 63 – >> FACTCHECK << ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย พีรพล อนุตรโสตถิ์ | 15 เม.ย. 63 02.41 น.
ยังไม่พบหลักฐานที่เชื่อถือได้ : กรณีสื่อนอกตีข่าว ไทยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากศพ
ตามที่สำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่ง รายงานข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ว่า มีนักวิทยาศาสตร์ชาวไทย รายงานการพบผู้ติดเชื้อรายแรกที่รับเชื้อโควิด-19 จากศพ นั้น
:: บทสรุป ::
ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ สำนักข่าวไทย อสมท ตรวจสอบแล้ว ยังไม่พบหลักฐานที่หนักแน่นเพียงพอจะเชื่อได้ว่าคำกล่าวอ้างดังกล่าวเป็นความจริง เนื่องจากมีหลายประเด็นน่าสงสัย ทั้งด้านความน่าเชื่อถือในแหล่งที่มาของข้อมูล และสภาพการณ์แห่งข้อเท็จจริง
ดังนั้น จึงยังไม่ควรเชื่อ และ ยังไม่ควรแชร์ต่อ

:: กระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริง ::
:: ส่วนที่ 1 :: สำรวจข้อมูล
เมื่อเวลาประมาณ 17.30 น. วันที่ 14 เมษายน 2563 ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ได้รับการแจ้งเตือนจากเครือข่ายตรวจสอบข้อเท็จจริง CoFact-CoForm เกี่ยวกับข่าวของสำนักข่าว Business Insider ระบุว่า “มีผู้เสียชีวิตรายแรก เพราะรับเชื้อโควิด-19 จากศพ บุคคลนั้นคือ เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพในประเทศไทย – จากคำกล่าวของนักวิทยาศาสตร์” (“The first case of someone dying after catching COVID-19 from a dead body was a forensic worker in Thailand, scientists say” https://www.businessinsider.com/first-death-coronavirus-healthcare-caught-from-dead-body-thailand-2020-4)


เนื้อหาข่าวระบุว่า นักวิทยาศาสตร์มากกว่า 1 คน ในประเทศไทย รายงานว่า พบผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 หลังรับเชื้อมาจากศพ โดยอ้างอิงจากจดหมายที่ส่งถึงบรรณาธิการวารสารวิชาการนิติเวชวิทยา “the Journal of Forensic and Legal Medicine” ซึ่งตีพิมพ์เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2563 (https://www.sciencedirect.com/science/article/pii/S1752928X20300718)

สำนักข่าว Business Insider ยังระบุด้วยว่า สื่อแรกที่รายงานข่าวเรื่องจดหมายฉบับดังกล่าว คือ BuzzFeed ซึ่งเมื่อตรวจสอบก็พบการนำเสนอข่าวจริง ภายใต้พาดหัวข่าวที่แตกต่างไป คือ “Scientists Have Reported The First Case Of The Coronavirus Spreading From A Dead Body” หรือ “นักวิทยาศาสตร์รายงานกรณีแรกที่มีการติดเชื้อไวรัสโคโรนาจากศพ” เขียนโดยผู้สื่อข่าว Dan Vergano เมื่อวันที่ 13 เม.ย. 2563 16.07 น.ตามเขตเวลาตะวันออก (ET) ซึ่งตรงกับเวลา 03.07 น.วันที่ 14 เม.ย.2563 ตามเวลาในประเทศไทย

นอกจากนั้น ในท่ามกลางความตื่นตัวของสื่อตะวันตกเกี่ยวกับข่าวการจัดการศพผู้เสียชีวิตนั้น เมื่อเราค้นหาเพิ่มเติมใน Google ยังพบการรายงานข่าวที่อ้างถึงประเทศไทยนี้ บนสื่อชื่อดังในต่างประเทศอีกหลายแห่ง ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา อาทิ
The Telegraph : Thai scientists warn of risk of coronavirus infection from dead bodies
(https://www.telegraph.co.uk/news/2020/04/14/thai-scientists-warn-risk-coronavirus-infection-dead-bodies/)
Fox News : Coronavirus may have spread from dead body: report
(https://www.foxnews.com/health/coronvirus-could-spread-dead-body-following-report)
The Sun : DEAD SPREAD Coronavirus scientists confirm first spread of the disease from a dead body
(https://www.the-sun.com/news/677949/coronavirus-scientists-confirm-spread-disease-dead-body/)
Newsweek : CORONAVIRUS SPREADS FROM DEAD BODY IN FIRST REPORTED CASE OF ITS KIND (https://www.newsweek.com/coronavirus-dead-body-spread-virus-1497674)
The Science Times : Scientists Confirm First Case of Coronavirus Spreading From Corpses (https://www.sciencetimes.com/articles/25287/20200413/scientists-confirm-first-case-coronavirus-spreading-corpses.htm)
LATIN TIMES : Thailand Reports Its First Case Of Coronavirus Spreading Through Dead Bodies (https://www.latintimes.com/thailand-reports-its-first-case-coronavirus-spreading-through-dead-bodies-457698)


ทั้งนี้ เนื้อหาข่าวทุกแห่ง อ้างอิงไปที่แหล่งข้อมูลเดียวกัน คือ จดหมายถึงบรรณาธิการ หรือ Letter to the Editor ในวารสารทางวิชาการ Journal of Forensic and Legal Medicine เผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ ScienceDirect (https://doi.org/10.1016/j.jflm.2020.101964) และ ข้อความที่ปรากฏในข่าวต่างประเทศ ล้วนนำมาจากบางส่วนบางตอนของเนื้อหาจดหมายที่ตีพิมพ์นี้ทั้งสิ้น
“Letter to the editor เป็นรูปแบบหนึ่งในการเขียนแสดงข้อมูลวิชาการ เพื่อสนับสนุนหรือโต้แย้งงานอื่น ๆ หรือจะแชร์ผลวิจัยของตนในรูปแบบย่อก็ได้ แต่ต้องเป็นเรื่องจริง ทำเอง หรือเป็นเจ้าของ” แหล่งข่าวซึ่งเป็นอาจารย์แพทย์ท่านหนึ่งอธิบาย

:: ส่วนที่ 2 :: เนื้อหาในจดหมาย Letter to the Editor ::

สำหรับจดหมายดังกล่าว มีหัวข้อว่า “COVID-19 in forensic medicine unit personnel: Observation from Thailand” ระบุชื่อผู้เขียน 2 ราย ได้แก่
Won Sriwijitalai จาก RVT Medical Center, Bangkok, Thailand
และ Viroj Wiwanitkit จาก Dr DY Patil University, Pune, India และ Hainan Medical University, Haikou, China

วารสารให้ข้อมูลว่า ได้รับต้นฉบับเมื่อ 6 เมษายน 2563 และมีการปรับแก้ เมื่อ 8 เมษายน 2563 ก่อนจะได้รับการยอมรับเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2563 และตีพิมพ์ฉบับออนไลน์เมื่อ 11 เมษายน 2563

เนื้อหาจดหมายฉบับนี้มี 2 ย่อหน้า ความยาวรวมทั้งสิ้น 298 คำ ย่อหน้าแรกกล่าวถึงสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 ว่าเป็นโรคอุบัติใหม่ที่มีความท้าทายต่อชุมชนในวงการแพทย์ที่มีโอกาสติดเชื้อได้ แต่ในหน่วยงานนิติเวชศาสตร์ ยังไม่เคยมีรายงานการติดเชื้อมาก่อน ในย่อหน้าที่สอง ผู้เขียนทั้งสองกล่าวถึงสิ่งที่สังเกตพบในประเทศไทย ว่า ในขณะที่เขียนจดหมาย (20 มีนาคม 2563) ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อ 272 คน โดยหนึ่งในผู้ติดเชื้อเป็น forensic practitoner หรือ นักนิติเวช ซึ่งทำงานในกรุงเทพฯ


“แม้ว่าผู้ป่วยอาจจะติดเชื้อได้จากทั้งสถานที่ทำงาน หรือ จากการแพร่เชื้อในชุมชนก็ได้ แต่ในช่วงเวลาที่มีการรายงานเคสนี้ ผู้ป่วยในประเทศไทย ส่วนใหญ่รับเชื้อมาจากต่างประเทศ และการระบาดภายในประเทศไทยยังอยู่แค่ในวงจำกัด” เนื้อหาในเอกสารระบุและชี้ว่า “มีโอกาสน้อยที่นักนิติเวชศาสตร์จะสัมผัสกับผู้ป่วยที่ติดเชื้อ แต่มีโอกาสที่เขาจะสัมผัสกับตัวอย่างชีวภาพ และ ศพ”

“ในปัจจุบัน ไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดว่ามีศพที่ปนเปื้อนเชื้อโควิด-19 จำนวนเท่าใด เพราะยังไม่ใช่แนวปฏิบัติพื้นฐานในประเทศไทย ที่จะตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในร่างผู้เสียชีวิต” เอกสารระบุ

ในตอนท้ายของจดหมาย ให้คำแนะนำว่า “ไม่ว่าอย่างไร การป้องกันการติดเชื้อ และการเฝ้าระวังอย่างครอบคลุม เป็นเรื่องจำเป็น นักนิติเวชศาสตร์ จะต้องใช้อุปกรณ์ป้องกัน รวมถึงชุดป้องกัน ถุงมือ แว่น หมวก และหน้ากาก” พร้อมทั้งแนะนำให้มีการฆ่าเชื้อในห้องชันสูตรพลิกศพเช่นเดียวกับห้องผ่าตัดด้วย

“According to our best knowledge, this is the first report on COVID-19 infection and death among medical personnel in a Forensic Medicine unit.” คือประโยคสุดท้ายของจดหมายฉบับนี้ ซึ่งทำให้เข้าใจได้ว่า มีการยืนยันการติดเชื้อและการเสียชีวิตในท่ามกลางบุคลากรในหน่วยงานนิติเวชวิทยา

:: ส่วนที่ 3 :: >> FACTCHECK : ผู้เขียนชาวไทยเป็นใคร ? <<

“The disinfection procedure used in operation rooms might be applied in pathology/forensic units too,” wrote the authors, Won Sriwijitalai of the RVT Medical Center in Bangkok and Viroj Wiwanitkit of China’s Hainan Medical University.

เมื่อนำชื่อบุคคลผู้เขียนทั้งสองไปค้นหาเพื่อยืนยันตัวบุคคล พบว่า ผู้เขียนร่วม คือ Viroj Wiwanitkit มีชื่อตรงกับแพทย์ในประเทศไทย ตามที่ปรากฏบนเว็บไซต์ภายในมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (http://anti-aging.mfu.ac.th//admin/uploadCMS/staff/7tSat34052.นพ.วิโรจน์%20ไววานิชกิจ.pdf) และตามประวัติที่ระบุก็มีตำแหน่งเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนรายแรก Won Sriwijitalai ไม่พบว่าตรงกับชื่อหรือนามสกุลภาษาไทยของนักวิชาการบุคคลใด ๆ และเมื่อนำหน่วยงาน RVT Medical Center ไปค้นหานั้น ก็ยังไม่พบว่ามีหน่วยงานนี้ตั้งอยู่ที่ใด

ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ส่งอีเมล์ไปยัง Won Sriwijitalai เพื่อ สอบถามเพิ่มเติมตามอีเมล์ที่ระบุไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้รับคำตอบแต่อย่างใด (หากมีคำตอบจะนำมารายงานเพิ่มเติม)

จากการสืบค้นเพิ่มเติม พบจดหมายถึงบรรณาธิการในวารสารทางวิชาการอีกหลายฉบับ ที่เขียนโดยผู้แต่งคู่เดียวกัน รวมทั้งจดหมายฉบับหนึ่งที่ส่งไปยังวารสาร German Journal of Sports Medicine
(https://www.germanjournalsportsmedicine.com/archiv/archive-2020/issue-4/letter-to-the-editor-covid-19-in-a-thai-boxing-area-in-thailand/)

ในเอกสารนี้ เราพบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Won Sriwijitalai โดยได้มีการให้ที่อยู่และอีเมล์ คือ “RVT Medical Center Rama 9 Road Bangkok 10140 Thailand wonsriwi@rvtmed.co.th “

ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ พบข้อเท็จจริงและข้อสังเกต ดังนี้

* ยังคงค้นไม่พบสถานที่ซึ่งมีชื่อว่า “RVT Medical Center” บนถนนพระราม 9
* รหัสไปรษณีย์ 10140 เป็นพื้นที่ของที่ทำการไปรษณีย์ราษฎร์บูรณะ ซึ่งอยู่ห่างจากถนนพระราม 9 ประมาณ 26 กิโลเมตร
* ไม่มีที่อยู่เว็บไซต์ rvtmed.co.th อยู่ในสารบบชื่อเว็บไซต์แต่อย่างใด เมื่อสืบค้นกับ ทีเอชนิค (THNIC) ผู้รับจดชื่อโดเมน .th พบว่าเว็บไซต์ดังกล่าวยังว่าง ไม่มีผู้ถือครอง
* เมื่อที่อยู่เว็บไซต์ไม่มีอยู่จริง อีเมล์ wonsriwi@rvtmed.co.th จึงใช้การไม่ได้โดยปริยาย

นอกจากนั้น ยังพบรายการของวารสารทางวิชาการอีกหลายฉบับที่มีการตีพิมพ์ผลงานเขียนในหลากหลายหัวข้อ ซึ่งมีผู้แต่งร่วมชื่อว่า Viroj Wiwanitkit กับบุคคลอื่น ๆ ที่สังกัดในหน่วยงานที่ก็ไม่สามารถค้นพบสถานที่ดังกล่าวว่ามีอยู่จริง เช่น
จดหมายเรื่อง “COVID-19 in medical personnel: observation from Thailand” ในวารสาร The Journal of Hospital Infection (https://doi.org/10.1016/j.jhin.2020.02.016) เขียนโดย B. Joob และ V. Wiwanitkit โดยระบุที่อยู่ Sanitation 1 Medical Academic Centre, Bangkok 10140, Thailand ซึ่งก็ไม่สามารถค้นพบข้อมูลใด ๆ เพิ่มเติมเกี่ยวกับบุคคลหรือสถานที่ดังกล่าว

จดหมายเรื่อง “Imported cases of 2019-novel coronavirus (2019-nCoV) infections in Thailand: mathematical modelling of the outbreak” ในวารสาร Asian Pacific Journal of Tropical Medicine
(http://www.apjtm.org/article.asp?issn=1995-7645;year=2020;volume=13;issue=3;spage=139;epage=140;aulast=Sookaromdee;type=0) เขียนโดย Pathum Sookaromdee และ Viroj Wiwanitkit พร้อมระบุสถานที่ติดต่อคือ TWS Medical Center, Bangkok Thailand ซึ่งก็ไม่สามารถค้นพบสถานที่ดังกล่าวเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ จากข้อมูลเท่าที่สามารถตรวจสอบได้ ยังไม่พบหลักฐานว่า ผู้แต่งหลักของจดหมายฉบับดังกล่าว และหน่วยงานต้นสังกัด นั้นมีตัวตนอยู่จริงหรือไม่

และเป็นที่น่าสังเกตว่า หากนำชื่อผู้แต่งหลัก และ ชื่อหน่วยงานทั้ง 3 แห่งข้างต้นไปค้นเพิ่มเติม ก็จะพบแต่เพียงชื่อหน่วยงานปรากฏอยู่ในวารสารวิชาการต่าง ๆ ในพฤติการณ์คล้าย ๆ กันนับสิบแห่ง

ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ฯ ได้สอบถามแพทย์ผู้ทรงคุณวุฒิ เกี่ยวกับผู้แต่งหลัก (Won Sriwijitalai) ไม่พบว่ามีบุคคลใดรู้จักหรือเคยได้ยินชื่อ ทั้งตัวบุคคลและหน่วยงานที่กล่าวอ้าง ส่วนผู้แต่งร่วมที่มีชื่อระบุไว้อีกท่านหนึ่ง ไม่มีข้อมูลปรากฏว่าเป็นบุคคลที่มีบทบาทในการปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการรับมือการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่อย่างใด

ขณะที่แพทยสภายืนยันว่าพร้อมจะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวต่อไป


:: ส่วนที่ 4 :: >> FACTCHECK : พบการติดเชื้อโควิด-19 จากศพ ? <<

จากข้อมูลที่ผู้เขียนระบุรายละเอียดไว้ในจดหมาย ย้อนไป ณ วันที่ 20 มีนาคม 2563 ซึ่งประเทศไทยมีผู้ป่วย 272 รายนั้น

จากการตรวจสอบพบว่า ประเทศไทยยืนยันผู้ติดเชื้อสะสม 272 ราย เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2563 โดยมีผู้เสียชีวิตสะสม 1 ราย (พนักงานขาย ชายไทย อายุ 35 ปี ซึ่งเสียชีวิตตั้งแต่ 29 กุมภาพันธ์ 2563)

โดยก่อนหน้านั้น 2 วัน เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2563 มีการรายงานข่าว พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 7 นาย (https://www.tnnthailand.com/content/32295) ข่าวรายงานว่า
“…กลุ่มที่ 3 ติดมาจากสนามมวย 2 คน เป็นข้าราชการตำรวจสน.พระราชวัง 1 นาย และงานนิติเวช 1 นาย โดยทั้ง 2 ราย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจุฬาฯ…”

กรณีดังกล่าว เป็นครั้งเดียวที่พบว่ามีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับสายงานนิติเวชศาสตร์ ปรากฏเป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย และข้อมูลที่เปิดเผยอย่างเป็นทางการ ระบุว่า บุคคลดังกล่าว ติดเชื้อจากสนามมวย ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มก้อนการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ที่สุด มีผู้ติดเชื้อรวมนับร้อยราย จากการเกี่ยวข้องกับการแข่งขันชกมวยเมื่อช่วงวันที่ 6 มีนาคม 2563

ทั้งนี้ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ไม่เคยมีการยืนยันข้อมูลจากการสอบสวนโรคว่า เจ้าหน้าที่รายดังกล่าว หรือผู้ป่วยรายอื่นใด มีการติดเชื้อจากศพแต่อย่างใด

:: ส่วนที่ 5 :: >> สรุป : ไม่มีหลักฐานที่น่าเชื่อถือเพียงพอ <<
1. ข้อมูลที่มีการระบุใน “จดหมายถึงบรรณาธิการ” ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลเดียวของข่าวที่รายงานในต่างประเทศว่า มีนักนิติเวชในประเทศไทย ติดเชื้อโควิด-19 จากศพ นั้น มิได้มีการยกหลักฐานที่หนักแน่นเพียงพอ ที่จะเชื่อมโยงหรือสรุปได้เช่นนั้น

2. ขณะที่ผู้ติดเชื้อจากหน่วยงานนิติเวชรายเดียวที่ปรากฏเป็นข่าวจากแหล่งข่าวทางการนั้น ก็มีการยืนยันว่า ติดเชื้อจากสนามมวย
3. ไม่สามารถติดตามยืนยันตัวบุคคลของผู้แต่งหลักของจดหมายฉบับนี้ได้ รวมทั้งหน่วยงานสังกัดที่กล่าวอ้าง ก็ไม่พบว่ามีอยู่จริง ทั้งสถานที่อยู่ทางกายภาพ และ ที่อยู่เว็บไซต์
ดังนั้น จึงยังไม่ควรเชื่อ และ ยังไม่ควรแชร์ต่อ


 >> เปิดรับคำชี้แจงและเบาะแสเพิ่มเติม <<

ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ สำนักข่าวไทย อสมท ยินดีเปิดรับเบาะแส หรือ คำชี้แจงจากผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว โดยเฉพาะข้อมูลที่จะหักล้างหรือเสริมเติมกับข้อเท็จจริงที่ค้นพบข้างต้น

ทางศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ พร้อมปรับปรุงแก้ไขข้อมูลให้เป็นปัจจุบันที่สุด เพื่อให้ประชาชนทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ได้รับความกระจ่างในประเด็นที่น่าหวั่นวิตกนี้โดยเร็ว
กรุณาส่งข้อมูลเข้ามาที่ comment หรือ inbox ของ Facebook ชัวร์ก่อนแชร์ (https://facebook.com/SureAndShare)
หรือทางอีเมล์ sureandshare@gmail.com
รวมทั้งช่องทางติดต่ออื่น ๆ ของเรา
Twitter.com/SureAndShare
LINE @SureAndShare
15 เมษายน 2563
ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์
สำนักข่าวไทย อสมท
#ชัวร์ก่อนแชร์ #CoronaVirusFacts


ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน ฝนตกหนักบางพื้นที่

กรุงเทพฯ 27 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนประชาชนโดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนภาคกลาง รวมทั้ง กทม.-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมกำลังค่อนข้างแรงบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน […]

“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยกหารือเวที UN พรุ่งนี้

สวีเดน 26 ส.ค.-“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา หลังกัมพูชาใช้โล่มนุษย์ยั่วยุในพื้นที่ต่อเนื่อง เตรียมยกเรื่องนี้หารือเวที UN ที่เจนีวา พรุ่งนี้ ยันยังไม่ส่งทูตกลับ จนกว่าเขมรแสดงให้เห็นว่าจริงใจ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวภายหลังการหารือทวิภาคีกับนางมารีอา มัลเมอร์ สเตเนอร์การ์ด (Maria Malmer Stenergard) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสวีเดน ถึงสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ที่มีการยั่วยุโดยใช้พลเรือนเป็นเครื่องมืออย่างต่อเนื่อง ว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นที่หน่วยงานในพื้นที่ต้องช่วยกันระมัดระวังไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน เพราะเมื่อมีพลเรือนเข้ามาเกี่ยวข้อง ในการทำงานของทางทหารก็จะยากลำบาก อาจจะนำไปสู่การสร้างความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหน่วยงานที่เป็นพลเรือนในพื้นที่ก็จำเป็นจะต้องเข้ามาดูแลและแก้ไขสถานการณ์ตรงนี้ นายมาริษ กล่าวว่า ในการพบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสวีเดน ตนได้อธิบายให้เข้าใจว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่กัมพูชาพยายามใช้ ซึ่งขัดต่อความตกลงในกฎบัตรสหประชาชาติเป็นอย่างมาก เหมือนกับใช้ประชาชนและพลเรือนเป็นโล่มนุษย์ เพื่อที่จะทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ซึ่งประเทศสวีเดนก็เข้าใจ และพรุ่งนี้ (27 ส.ค.) ตนจะมีโอกาสได้ชี้แจงกับที่ประชุม UN ที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ตนจะยกประเด็นนี้ขึ้นแสดงความห่วงกังวลว่า การใช้วิธีเอาพลเรือนมาเป็นตัวกดดัน หรือมาสร้างความตึงเครียด หรือขยายความตึงเครียดบริเวณชายแดนมากยิ่งขึ้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ […]

พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์ถล่มหลายจังหวัดภาคเหนือ น่านยกระดับรับมือ

26 ส.ค. – พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์แล้ว หลายจังหวัดทางภาคเหนือมีฝนตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก จนมีน้ำท่วมหลายพื้นที่ และต้องจับตาไปที่จังหวัดน่าน ซึ่งพายุคาจิกิเคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่และเริ่มส่งผลกระทบตั้งแต่ช่วงค่ำวันนี้ ทำให้จังหวัดน่านยกรระดับมาตรการป้องกันและเตรียมรับมือกับน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม.-สำนักข่าวไทย

Gripen ที่จัดซื้อใหม่ประสิทธิภาพดีกว่าลำเดิมที่มีอยู่

สวีเดน 26 ส.ค. – แม้รัฐบาลไทยและสวีเดนได้ลงนามความร่วมมือซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตีกริพเพน E และ F ไปแล้ว แต่กว่าจะได้รับเครื่อง จะต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 4 ปี ระหว่างนี้จะมีการวางกรอบพัฒนาร่วมกัน แน่นอนว่ารุ่นใหม่สเปกใหม่ดีกว่ารุ่นเก่าที่เรามี แตกต่างอย่างไร ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย