กรุงเทพฯ 14 เม.ย.- รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งตรวจสอบกล้องวงจร ปิดย้อนหลังไป 7 วัน ในคดีคนร้ายบุกเดี่ยว ชิงทรัพย์ เงินสดกว่า 1 แสนบาท ภายใน ธ.ก.ส. สาขาย่อยเฉลิมพระเกียรติ ร.9 และเร่งจำแนก ที่มาของเครื่องแต่งกาย โดยอ้างอิงจากเหตุการณ์ ชิงทองที่จังหวัดลพบุรี
เวลา 15.30 น. พลตำรวจเอกสุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรียกประชุมชุดสืบสวน กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 พร้อมชุดสืบสวนสน.ประเวศ เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีคนร้าย บุกเดี่ยว จี้ชิงเงิน ภายในธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. กวาดเงินสดกว่า 1 แสนบาท หลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 เมษายน ที่ผ่านมา
พลตำรวจเอกสุชาติ ระบุว่า เบื้องต้นทราบรูปพรรณสัณฐานคนร้าย เเต่ยังไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ จึงไม่สามารถ ขอศาลออกหมายจับผู้ก่อเหตุได้ในขณะนี้ สำหรับยานพาหนะที่คนร้ายใช้ /ทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไป รวมถึงเส้นทางที่หลบหนีหลังก่อเหตุ ก็ยังไม่ชัดเจน เนื่องจากเส้นทางที่ใช้หลบหนีอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุค่อนข้างมาก พร้อมสั่งตรวจกล้องวงจรปิดในจุดเกิดเหตุที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ย้อนหลังไป 7 วัน ทั้งนี้ ตรวจสอบทะเบียน รถจักรยานยนต์ที่ คนร้ายก่อเหตุพบว่าเป็นทะเบียนจริง ทราบตัวเจ้าของเเล้ว แต่พบว่าป้ายดังกล่าวถูกขโมยจากเจ้าของตัวจริง ไปตั้งแต่เมื่อ 2-3 วันก่อน และเพิ่งมีการแจ้งความหลังเกิดเหตุแล้ว ยังไม่ได้ตัดประเด็นว่า เจ้าของทะเบียนอาจเกี่ยวข้องกับเหตุดังกล่าวหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตำรวจมีกล้องวงจรปิดจับภาพผู้ต้องสงสัย ขณะถอดป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์แล้ว เช่น เดียวกับลายนิ้วมือเเฝงในที่เกิดเหตุ ที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเก็บไปตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ อยู่ระหว่างเทียบเคียงหาตัวบุคคล แต่เป็นรายละเอียดในคดีไม่สามารถเปิดเผยได้ ทั้งนี้สั่งตรวจประวัติอาชญากรในพื้นที่แล้ว
ขณะเดียวกันวันนี้ได้ เรียกพนักงาน ธนาคารดังกล่าว มาสอบปากคำเพิ่ม โดยเฉพาะประเด็นบุคคลที่เคยทำงานในธนาคาร หรือ บุคคลที่อยู่ละแวกใกล้เคียงที่รู้ความเคลื่อนไหวธนาคาร ยอมรับว่าอาจจะเป็นไปได้ว่าคนร้ายจะเป็นบุคคลกลุ่มนี้ รวมทั้งมีการนำการเเต่งกายของคนร้ายที่ใส่ในวันก่อเหตุไปจำเเนกเเละหาที่มา โดยอิงจากเหตุการณ์ชิงทองที่จังหวัดลพบุรี ยืนยันว่าการชิงทรัพย์ครั้งนี้ไม่เหมือนกับเหตุที่จ.ลพบุรี และ มีรายงานว่า มีการเก็บลายนิ้วมือแฝงที่จุดเกิดเหตุไม่ว่าจะเป็นประตูทางเข้าธนาคาร ธ.ก.ส. ซึ่งคนร้ายใช้มือผลักประตู ลิ้นชักเก็บเงินหลังเคาท์เตอร์ ที่คนร้ายเปิดนำเงินไป -สำนักข่าวไทย
