เชียงใหม่ 13 เม.ย. – ผลพวงจากการประกาศงดจัดกิจกรรมสงกรานต์ ทำให้เมืองท่องเที่ยวอย่างเชียงใหม่ ที่เคยคึกคักและมีสีสันกลิ่นอายทางวัฒนธรรมเงียบเหงาลงไป ขณะที่วัดและบุคลากรทางการแพทย์ได้เปลี่ยนบทบาทมาเป็นการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19
รอบคูเมืองเชียงใหม่ที่เคยเนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวในวันสงกรานต์ วันนี้เงียบเหงาไร้ผู้คนเดินเล่นสาดน้ำ แม้คูเมืองจะมีน้ำเติมเต็มทั้งสี่ด้าน ตามท้องถนนไร้รถราที่เคยนำพาผู้คนออกมาเล่นน้ำสงกรานต์กันอย่างชุ่มฉ่ำ ลานประตูท่าแพที่เคยคับคั่งไปด้วยผู้คนที่มาร่วมทำบุญในวันขึ้นปีใหม่เมือง บรรยากาศปีนี้เงียบเหงา ร้างผู้คน เป็นสภาพที่เกิดขึ้นครั้งแรกนับตั้งแต่มีการจัดงานประเพณีสงกรานต์ล้านนาต่อเนื่องมาหลายยุคหลายสมัย วิกฤติโควิด-19 ครั้งนี้ส่งผลให้เชียงใหม่ต้องยกเลิกงานประเพณี 13 เมษายน ปีนี้ เมืองท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยสีสันและกลิ่นอายทางวัฒนธรรมอย่างเชียงใหม่ จึงกลายเป็นเมืองแห่งความเงียบสงบ
เช่นเดียวกับวัดที่เคยเนืองแน่นไปด้วยศรัทธาผู้คนที่ออกมาทำบุญสรงน้ำพระตามประเพณีความเชื่อของชาวล้านนา ปีนี้งดจัดกิจกรรมตามประกาศของกระทรวงวัฒนธรรม หลายแห่งเปลี่ยนลานวัดที่เคยจัดเป็นลานพระเจดีย์ทราย เป็นโรงทานช่วยเหลือคนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด
สงกรานต์เชียงใหม่ปีนี้แม้จะมีการยกเลิกกิจกรรมตามประกาศ แต่ยังคงตั้งจุดตรวจเฝ้าระวังเหตุ ย้ำเตือนห้ามเล่นน้ำ ห้ามจำหน่ายและห้ามดื่มแอลกอฮอล์ ตลอดเทศกาลต่อเนื่องถึงวันที่ 20 เมษายน ช่วยลดภาระบุคลากรในโรงพยาบาล จากเดิมที่เตรียมพร้อมรับมืออุบัติเหตุโดยเฉพาะเมาแล้วขับ มาเป็นการดูแลผู้ป่วยโรคโควิด
หากเป็นช่วงสงกรานต์ของทุกปี จะมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาเยือนเชียงใหม่ เพื่อสัมผัสบรรยากาศงานประเพณีของชาวล้านนานับแสนคน สร้างรายได้กว่าพันล้านบาท แต่ในภาวะวิกฤติโควิด ที่ภาครัฐขอความร่วมมือให้ทุกคนงดการเดินทาง อยู่บ้าน หยุดเชื้อเพื่อชาติ จะเป็นหนทางที่ช่วยให้สถานการณ์การระบาดของโรคคลี่คลายโดยเร็ว สงกรานต์ปีหน้าเมืองเชียงใหม่จะกลับมาคึกคักและมีสีสันเช่นเดิม. – สำนักข่าวไทย