กรุงเทพฯ 13 เม.ย.-อัยการเตือน เล่นน้ำหน้าบ้าน ไลฟ์สด เข้าข่ายขัดคำสั่งประกาศของจังหวัด ผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เสี่ยงคุก ย้ำการเล่นน้ำแม้จะตั้งถังเล่นคนเดียว แต่เป็นกิจกรรมที่ทำให้คนมารวมตัวกันได้ สุ่มเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ ผิดกฎหมายชัดเจน
นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณีประชาชน ตั้งถังเล่นน้ำสงกรานต์หน้าบ้านของตัวเอง และมีการไลฟ์สดเผยแพร่ภาพ และเสียงว่า แม้จะอยู่ในหมู่บ้าน ในชุมชนของตัวเอง ก็ถือว่ามีความผิด ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะขณะนี้ มีประกาศของจังหวัด ลงนามโดยผู้ว่าราชการจังหวัด ให้งดเล่นน้ำสงกรานต์ เว้นระยะห่าง การเล่นน้ำแม้จะอ้างว่าเล่นกันในหมู่บ้าน แต่ในทางกฎหมายมการเล่นน้ำ ไม่ใช่กิจกรรมที่ทำคนเดียว เป็นกิจกรรมที่ทำให้คนมารวมกันในหมู่มาก ซึ่งผิดกฎหมายชัดเจน แม้ประชาชนจะอ้างว่าไม่ได้เล่นในช่วงเคอร์ฟิวก็ตาม โดยผู้ฝ่าฝืนต้องระวังโทษจำคุกไม่เกิน 2ปี จึงขอฝากความห่วงใย ไปยังประชาชนให้ระมัดระวังดูแลตัวเอง และป้องกันการกระทำที่สุ่มเสี่ยงต่อการถูกจับกุม โดยเฉพาะการฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉินฯ เพื่อตัวท่านเอง เพราะการออกไปเล่นน้ำ ยังเสี่ยงที่จะไปรับเชื้อโควิด-19 จากคนอื่นมาด้วย
ส่วนในช่วงนี้ที่พบหลายจังหวัด มีคนร้ายอาศัยช่วงเคอร์ฟิว ออกไปขโมยข้าวของตามหอพัก ตลาด บ้านเรือนประชาชนนั้น รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เตือน ผู้ที่อาศัยช่วงเคอร์ฟิวออกไปตระเวนขโมยของ นอกจากจะโดนข้อหาลักทรัพย์แล้ว ยังมีความผิดในข้อหาออกนอกเคหะสถาน ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินอีกด้วย และสถานที่ส่วนใหญ่จะมีกล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้ เมื่อหลักฐานครบ ก็ถูกดำเนินคดีอย่างแน่นอน ซึ่งอัยการสูงสุดมีหนังสือเวียนกำชับไปยังอัยการทั่วประเทศให้รักษากฎหมายอย่างเคร่งครัด หากพบผู้ที่ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ท้ายคำฟ้องก่อนส่งให้ศาลพิจารณา จะมีการเขียนให้ลงโทษสถานหนักแก่ผู้ กระทำผิดด้วย ซึ่งผู้รักษากฎหมายจำเป็นต้องใช้ยาแรงเพื่อให้หายเร็ว พร้อมฝากถึงประชาชนอย่ากังวล เพราะกฎหมายจะเอาผิดกับผู้ที่ฝ่าฝืนเท่านั้น .-สำนักข่าวไทย