กทม. 7 เม.ย. – ชัดเจนแล้วว่าปัจจัยส่วนหนึ่งที่ทำให้ยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ลดลงมาจากการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และมาตรการเคอร์ฟิว ตัวเลขผู้ที่ติดเชื้อในวันนี้ถือว่าน้อยที่สุดในรอบ 19 วัน นับตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา
สำหรับสถิติยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ หากนับย้อนไปวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา พบว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันยังอยู่ในระดับสูง คือ 143 คน จากนั้นนับไปอีก 5 วันตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคมถึง 3 เมษายน พบว่าตัวเลขเกินร้อยทุกวัน ไล่ตั้งแต่ 136, 127, 120, 104 และ 103 ตามลำดับ ภาพรวมยังไม่เห็นผลมากนักจากการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เมื่อวันที่ 26 มีนาคม
จากนั้นรัฐบาลเพิ่มยาแรง ด้วยการประกาศเคอร์ฟิว 22.00-04.00 น. ห้ามบุคคลออกนอกเคหสถานในคืนวันที่ 3 เมษายน จึงพบว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลงอย่างต่อเนื่อง
วันที่ 4 เมษายน ตัวเลขลดลงเหลือ 89 คน
5 เมษายน ขยับขึ้นมาเล็กน้อยที่ 102
6 เมษายน ลดลงเท่าตัว คือ 51 คน
กระทั่งวันนี้เหลือ 38 คน
ถ้านับตั้งแต่วันที่ 3 เมษายนถึงปัจจุบัน ประมาณ 4-5 วัน ซึ่งเท่ากับระยะฟักตัวของเชื้อพอดี
สอดคล้องกับข้อมูลตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่ในวันนี้ พบว่ากลุ่มแรกเป็นกลุ่มที่สัมผัสผู้ป่วยก่อนหน้านี้ รวมทั้งสิ้น 17 คน ถือว่าสูงสุดของวันนี้ เป็นประชากรในกรุงเทพฯ 11 คน ติดจากบ้าน ที่ทำงาน และกลุ่มเพื่อน
ส่วนกลุ่มสนามมวยและสถานบันเทิงไม่พบแล้ว หลังจากที่ช่วงปลายเดือนก่อนมีผู้ติดเชื้อจากกลุ่มนี้จำนวนมาก
ขณะที่กลุ่ม 2 แบ่งเป็นผู้คนที่มาจากต่างประเทศ 3 คน ผู้ที่เข้าไปในที่ชุมชน 3 คน กลุ่มอาชีพเสี่ยงหรืออยู่ในพื้นที่แออัด 7 คน รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ 3 คน และสุดท้าย คือ กลุ่มที่ยืนยันการพบเชื้อระหว่างสอบสวนโรค 5 คน
แยกย่อยเป็นรายจังหวัด เฉพาะ 10 อันดับแรกจาก 66 จังหวัด ที่พบผู้ป่วยสะสมมากที่สุด ประกอบด้วย กรุงเทพฯ จำนวน 1,201 คน รองลงมาคือ ภูเก็ต 138 คน นนทบุรี 134 คน สมุทรปราการ 99 คน ชลบุรี 70 คน ตามมาด้วย ยะลา ปัตตานี เชียงใหม่ สงขลา และปทุมธานี
สำหรับตัวเลขผู้ติดเชื้อ 38 คนในวันนี้ ถือเป็นตัวเลขที่น้อยที่สุดในรอบ 19 วัน เพราะนับตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา ตัวเลขผู้ป่วยรายวันของไทยอยู่ที่ต่ำสุด 50 คน และมากสุดอยู่ที่ 188 คน หลังจากนี้ต้องติดตามสถานการณ์จาก ศบค. ในการเฝ้าระวังกลุ่มที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ เพราะถือเป็นปัจจัยล่าสุดที่ต้องเฝ้าระวัง เพื่อไม่ให้ตัวเลขเพิ่มขึ้น. – สำนักข่าวไทย