กรุงเทพฯ 7 เม.ย.- รัฐบาลสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คุมเข้มการลักลอบเข้าเมือง ผ่านช่องทางเรือประมง เพื่อป้องกัน และยับยั้ง การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19
เวลา 10.30 น. ณ ห้องประชุม ศปก.ตร. ชั้น 20 อาคาร 1 ตร พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะ ผู้อำนวยการ ศพดส.ตร และประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อตรวจสอบและติดตามการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย และแรงงานในภาคประมง เป็นประธานการประชุม มอบนโยบายการป้องกันการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายผ่านช่องทางเรือประมง มี ศปก.ภ.จว. 22 จังหวัดชายทะเล ร่วมกับ หัวหน้าศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้าออกประจำ22จังหวัดชายทะเล,สมาคมประมงแห่งประเทศไทย, สมาคมสมาพันธ์ประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทย, สมาคมประมงนอกน่านน้ำ, สมาคมอวนล้อมจับแห่งประเทศ เฝ้าฟังทางระบบประชุมทางไกล
พล.ต.ท จารุวัฒน์ เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ขณะนี้อาจส่งผลให้มีการลักลอบขนคนขึ้นเรือประมงเข้าราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีสั่งการให้เข้วมงวดกวดขัน ป้องกันการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายผ่านช่องทางเรือประมง ให้เป็นไปตาม พ.ร.ก ฉุกเฉิน เพื่อเป็นการป้องกันผลกระทบต่อการระบาดของเชื้อโควิด-19 ดังนั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงได้กำชับให้มีการเข้มงวดกวดขัน การลักลอบเดินทาง ขนคน กลับเข้ามาทางเรือประมง โดยไม่ผ่านช่องทางเข้าเมือง ตามกฎหมาย อันจะมีความผิดตาม พ.ร.ก.การประมง พ.ศ.2558 พ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมือง พ.ศ.2522รวมทั้งกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นการขัดต่อ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548
อย่างไรก็ตามวันนี้ ที่ประชุมมีมติสั่งการ และ กำชับ ให้เจ้าหน้าที่ ศพดส.ในพื้นที่ เพิ่มการกวดขันป้องกันการลักลอบเข้าเมือง และ ขนคนเข้าเมือง ทั้งทางบกและทางน้ำ ให้ศูนย์ PIPO ดำเนินการเฝ้าระวัง ควบคุมและตรวจสอบเรือประมง เรือสนับสนุนการประมง ทุกประเภท และท่าเทียบเรือประมง อย่าให้มีการลักลอบใช้เรือประมง ขนคนผ่านท่าเทียบเรือ โดยเด็ดขาด ขอความร่วมมือ สมาคมประมงทุกจังหวัดช่วยประชาสัมพันธ์สมาชิก ไม่ให้รับคนประจำเรือของเรือลำอื่นมาทำงาน ระหว่างออกไปทำการประมง และอย่าให้มีการลักลอบนำเรือประมงไปขนคนเข้าเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรือประมงพื้นบ้าน ที่ไม่ผ่านการตรวจของ PIPO ซึ่งหากมีการกระทำผิด ในช่วงเวลานี้ นอกจากจะได้รับโทษตามกฎหมายปกติแล้ว ยังต้องรับโทษตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ด้วย หากพบการกระทำผิดและมีการจับกุมผู้ที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ให้ประสานการปฏิบัติกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เพื่อดำเนินการตามมาตรการคัดกรองและกักกันโรคและให้เจ้าหน้าที่ปฎิบัติงานโดยใช้ความระมัดระวัง ใช้อุปกรณ์ป้องกัน อย่าให้อยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 -สำนักข่าวไทย