กฟผ. ร่วมฝ่าวิกฤติ COVID-19 จัดสรรงบฯ ระดมสารพัดช่างประดิษฐ์อุปกรณ์ปกป้องทีมแพทย์

กทม. 7 เม.ย.- กฟผ. ร่วมฝ่าวิกฤติ COVID-19 ระดมทุนทรัพย์ อุปกรณ์จำเป็น และช่างจากทุกหน่วยงานทั่วประเทศ ดูแลประชาชนที่อาศัยอยู่โดยรอบ พร้อมกำชับพนักงานรักษาตัวเพื่อรักษาหน้าที่


กฟผ. ร่วมฝ่าวิกฤติ COVID-19 ระดมทุนทรัพย์ อุปกรณ์จำเป็น และช่างจากทุกหน่วยงานทั่วประเทศ คิดสิ่งประดิษฐ์ปกป้องบุคลากรทางการแพทย์ ตลอดจนดูแลประชาชนที่อาศัยอยู่โดยรอบ พร้อมกำชับพนักงานรักษาตัวเพื่อรักษาหน้าที่ โดยเฉพาะการผลิตและจ่ายไฟตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ประเทศไทยก้าวผ่านวิกฤติ COVID-19 โดยเร็ว

เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2563 นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า ในภาวะที่ประเทศไทยต้องเผชิญกับวิกฤติ COVID-19 กฟผ. พร้อมดูแลความมั่นคงระบบไฟฟ้าของประเทศ เพื่อให้ประชาชนมีไฟฟ้าใช้อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งกำชับพนักงานให้รักษาตัวให้ปลอดภัยจากโรคเพื่อรักษาหน้าที่ให้ดีที่สุด โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่ควบคุมการผลิตและจ่ายกระแสไฟฟ้าซึ่งจะต้องประจำการตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ กฟผ. พร้อมร่วมเป็นกำลังสนับสนุนทุกภาคส่วนเพื่อบรรเทาผลกระทบและฝ่าวิกฤติ COVID-19 


มอบเงิน 30 ล้านบาทให้กับโรงพยาบาล

กฟผ. ได้สนับสนุนเงิน 30 ล้านบาทเพื่อนำไปจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์และเวชภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องในการรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อ COVID-19 ให้กับโรงพยาบาล ที่เป็นศูนย์หลักในการรักษาผู้ป่วย COVID-19 และโรงพยาบาลที่อยู่รอบพื้นที่ กฟผ. จำนวน 14 แห่ง ในกรุงเทพและปริมณฑล อาทิ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลรามาธิบดี สถาบันบำราศนราดูร และเตรียมจัดสรรงบประมาณสนับสนุนโรงพยาบาลในจังหวัดต่างๆ ต่อไป


ผลิตเจลอนามัย “น้ำใจ กฟผ.” แจกประชาชน 

กฟผ. ระดมพนักงานจิตอาสาตั้งหน่วยผลิต เจลอนามัย “น้ำใจ กฟผ.” ซึ่งมีเอทิลแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบถึง 70 เปอร์เซ็นต์ สามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้ มอบให้กับโรงพยาบาล ชุมชน ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง เช่น สถานีขนส่ง สถานีตำรวจ มัสยิด ทั้งแบบขวดขนาด 100 ซีซี จำนวน 15,910 ขวด และแบบถังแกลลอนขนาด 5 ลิตร จำนวน 897 แกลลอน รวมทั้งสิ้น 6,076 ลิตร เพื่อป้องกันการติดเชื้อ COVID-19 และได้ขยายการผลิตเพื่อแจกจ่ายให้ได้มากที่สุดตลอดสถานการณ์ดังกล่าว


จัดทำสิ่งประดิษฐ์เสริมทัพบุคลากรทางการแพทย์ 

ระดมทีมช่าง กฟผ. ทั่วประเทศจัดทำสิ่งประดิษฐ์ร่วมปกป้องบุคลากรทางการแพทย์ ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ COVID-19 อาทิ ตู้ความดันลบ กล่องป้องกันเชื้อฟุ้งกระจาย ซึ่งผลิตจากอะคริลิกใสทรงสี่เหลี่ยม เจาะช่องสำหรับสอดมือ โดยมีทั้งแบบชนิดตั้งโต๊ะ สำหรับติดตั้งบริเวณจุดคัดกรองและขณะตรวจรักษา ชนิดครอบศีรษะ สำหรับใช้งานขณะใส่ท่อช่วยหายใจ เครื่องกำเนิดแสงยูวี (Ultra Violet : UV) สำหรับฆ่าเชื้อโรค หน้ากากชนิดปกป้องทั้งใบหน้า (Face Shield) ตู้ครอบขณะเคลื่อนย้ายผู้ป่วย รวมถึงจัดหาหน้ากาก N95 จำนวน 5,500 ชิ้น  และชุดสวมใส่ป้องกัน (Cover All) จำนวน 1,700 ชุด นำไปมอบให้กับโรงพยาบาลและสาธารณสุขอำเภอโดยรอบพื้นที่โรงไฟฟ้าและเขตเขื่อนของ กฟผ. ซึ่งตั้งกระจายอยู่ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ โดยมีนโยบายจะจัดทำให้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้

มอบหน้ากากอนามัย 13,100 ชิ้น

กฟผ. ร่วมกับสี่อมวลชนทั้งภาครัฐและเอกชนมอบหน้ากากอนามัยจำนวน 13,100 ชิ้น ประกอบด้วย หน้ากากอนามัยที่ผลิตจากผ้าโพลีเอสเตอร์ไมโครไฟเบอร์มีคุณสมบัติช่วยป้องกันเชื้อไวรัสจากเลือดและน้ำเหลืองสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ จำนวน 11,500 ชิ้น และหน้ากากอนามัยที่ผลิตจากผ้าขาวม้าให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยง อาทิ แท็กซี่ ผู้ขับและผู้โดยสารรถสาธารณะ พนักงานเก็บขยะ จำนวน 1,600 ชิ้น 

มอบคอมพิวเตอร์สนับสนุนการสื่อสาร COVID-19 

กฟผ. มอบคอมพิวเตอร์ จำนวน 5 เครื่อง ให้แก่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อสนับสนุนงานด้านการสื่อสารให้ประชาชนรับทราบข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของ COVID-19

เตรียมศูนย์ฝึกอบรมบางปะกง กฟผ. เป็นสถานที่เฝ้าระวังโรคของทีมแพทย์

กฟผ. ได้เตรียมอาคารที่พักศูนย์ฝึกอบรมบางปะกง กฟผ. เป็นสถานที่แยกตัวและเฝ้าระวังโรคสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลพุทธโสธร จังหวัดฉะเชิงเทรา รวม 3 อาคาร รองรับได้ประมาณ 60 ยูนิต โดยเตรียมความพร้อมร่วมกับโรงพยาบาล ทั้งระบบด้านความปลอดภัยต่างๆ อาทิ การกั้นรั้วเพื่อให้แยกจากพื้นที่ข้างเคียง การจัดส่งอาหารด้วยภาชนะที่ใช้เพียงครั้งเดียว กำจัดเชื้อไวรัสในระบบบำบัดน้ำเสีย และการแยกบุคคลากรเป็นสัดส่วนตามอาคารต่างๆ รวมทั้งการจำกัดการเข้าออกของบุคคลภายนอก

ดูแลชุมชน

จิตอาสา กฟผ. ลงพื้นที่ให้ความรู้แก่ชุมชน สอนทำหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันตัวเอง พร้อมแจกเจลอนามัย นอกจากนี้ ตลอดเดือนเมษายน กฟผ. จะจัดส่งอาหารและน้ำดื่มสนับสนุนวัดและชุมชนโดยรอบหน่วยงานที่ประสบปัญหาด้านเศรษฐกิจ 

“กฟผ. มุ่งมั่นระดมกำลังและศักยภาพทุกด้านที่มีเพื่อร่วมมือกับทุกภาคส่วนสู้วิกฤต COVID-19 เพื่อให้ประเทศไทยกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว และพร้อมเคียงข้างคนไทยฝ่าฟันช่วงเวลาอันยากลำบากนี้ไปด้วยกัน”

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 163 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 20 ส.ค. – หนีไม่รอด รวบโจรสวมชุดไรเดอร์ บุกเดี่ยวชิงทองกลางห้างดัง จ.สมุทรปราการ กวาดทอง 163 บาท พบของกลางบางส่วนซุกตู้ลำโพงในบ้าน จากกรณีคนร้ายแต่งตัวคล้ายไรเดอร์ สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทอง พร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน ก่อนกระโดดข้ามตู้หน้าร้าน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวม 163 บาท เป็นทองคำรูปพรรณประเภทสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท ประมาณ 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท, น้ำหนัก 3 บาท ประมาณ 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท ประมาณ 24 เส้น น้ำหนักรวม 48 บาท (รวมสร้อยข้อมือ 79 เส้น) ก่อนวิ่งขึ้นรถ จยย.ที่จอดอยู่ด้านหน้า […]

หลักฐานชัด! ทหารกัมพูชาลอบวางทุ่น PMN-2 ภูมะเขือ

19 ส.ค.- กองทัพเรือพบหลักฐานสำคัญ ยืนยันทหารกัมพูชาลักลอบใช้ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณภูมะเขือ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ชุดเก็บกู้กวาดล้างที่ 1 หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมกองทัพเรือ (นปท.ทร.) ซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติงานเก็บกู้และกวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ ร้อย ร.132 พัน.13 (ฐานเหนือเมฆ) ตรวจพบโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในเครื่อง พบคลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทหารกัมพูชากำลังถือทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 พร้อมทั้งมีการบันทึกเสียงเป็นภาษาเขมร คาดว่าเป็นการสาธิตวิธีการใช้งาน ก่อนนำไปลักลอบฝังในพื้นที่ชายแดนไทย หลักฐานจากโทรศัพท์ยังระบุวันเวลาที่ถ่ายภาพและวิดีโอไว้อย่างชัดเจน จึงนับเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่ยืนยันพฤติกรรมการละเมิดข้อตกลง และการใช้ทุ่นระเบิด ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ นปท.ทร. ได้แสดงถึงความรอบคอบและไหวพริบในการตรวจสอบหลักฐานทันที ก่อนส่งมอบให้หน่วยกองทัพบกในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป. – สำนักข่าวไทย

“ทศพล” รุดมอบมาลัย “ภูมิธรรม” หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่

กองบินตำรวจ 20 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เตรียมแถลงจับยาเสพติดลอตใหญ่ “ทศพล” รุดมอบมาลัย หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 8.00 น. ที่กองบินตำรวจ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เดินทางมาขึ้นเครื่อง เพื่อไปแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดล็อตใหญ่ ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พลตํารวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ เลขานุการ รมว.มหาดไทย ร่วมเดินทางด้วย ทั้งนี้เมื่อนายภูมิธรรมเดินทางมาถึง นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ที่ ครม. มีมติเมื่อ 19 ส.ค. แต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำพวงมาลัยมามอบให้นายภูมิธรรมและปลัดกระทรวงมหาดไทย และร่วมเดินทางกับคณะด้วย โดยมีสีหน้ายิ้มแย้ม อย่างไรก็ตามก่อนเดินทางเลขาธิการ ป.ป.ส. ได้รายงานสถานการณ์ยาเสพติดให้นายภูมิธรรมรับทราบ.-319.-สำนักข่าวไทย

มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง

กทม.19ส.ค.-มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯ หนองบัวลำพู ผงาดขึ้นอธิบดี พช. โยก “สยาม” นั่งพ่อเมืองปากน้ำ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 25 ตำแหน่ง อาทิ นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นผู้ว่าฯ สมุทรปราการ นายจุมพฎ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าฯ บึงกาฬ เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าฯ ตาก เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสุรศักดิ์ อักษรกุล ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู เป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เป็นผู้ว่าฯ ชลบุรี นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

EOD เก็บกู้ทำลายระเบิด M33 กลางบ้าน

ตรัง 20 ส.ค.- คนร้ายลอบขว้างระเบิด M33 ใส่บ้านในพื้นที่ ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ระเบิดทำงาน 1 ลูก อีก 1 ลูกไม่ทำงาน เจ้าหน้าที่ EOD เข้าเก็บกู้ทำลายเสียงดังสนั่น เร่งสืบสวนหาตัวคนร้าย-สอบปมเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด EOD จังหวัดตรัง ได้ทำการเก็บกู้และทำลายระเบิด M33 ที่ยังไม่ทำงาน ระหว่างทำลายเกิดเสียงดังสนั่นสะเทือนไปทั่วบริเวณ ยางรถยนต์ที่ใช้เป็นอุปกรณ์ป้องกันแรงระเบิดปลิวลอยขึ้นฟ้า ควันฟุ้งกระจายไปทั่ว สร้างความแตกตื่นให้กับชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง  โดยเหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นในพื้นที่บ้านยูงงาม ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบขว้างระเบิดเข้าใส่บ้านหลังหนึ่ง ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ เจ้าของบ้านเล่าว่าช่วงเกิดเหตุคนในบ้านกำลังนอนหลับ ได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิด 1 ครั้ง แต่ไม่กล้าออกมาดู กระทั่งเช้าพบหลุมระเบิดขนาดกว้างราว 2 ฟุต ลึก 1 ฟุต อยู่ข้างบ้าน จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ จากการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ทราบว่าบ้านหลังนี้เคยถูกลอบยิงมาแล้วหลายครั้ง จนเจ้าของบ้านต้องสร้างกำแพงสูงเพื่อป้องกัน แต่ล่าสุดกลับถูกลอบขว้างระเบิดแบบลูกเกลี้ยง […]

ทำแผนโจรชิงทอง 123 บาท สารภาพเป็นหนี้นอกระบบ

สมุทรปราการ 20 ส.ค.- โจรชิงทองกลางห้างดังสมุทรปราการ 123 บาท ทำแผนรับสารภาพกู้เงินมาลงทุนร้านซ่อมรถ เสียดอกรายวันแต่หมุนเงินไม่ทัน จึงก่อเหตุ  กรณีนายวีรวัฒน์ อายุ 31 ปี บุกเดี่ยวควงปืนก่อเหตุชิงทองรูปพรรณน้ำหนัก 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้านบาท ที่ร้านทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ  ก่อนจะอาศัยความชำนาญในพื้นที่หลบหนีเส้นทางที่ไร้กล้องวงจรปิด โดยเหตุเกิดช่วงเย็นวันที่ 14 ส.ค. ที่ผ่านมา ต่อมา ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พบว่าผู้ต้องหานำรถจักรยานยนต์ที่ใช้หลบหนีไปทิ้งบ่อปลาแห่งหนึ่งในซอยวัดคอลาด แล้วหลบหนีต่อไป จึงไล่เรียงเบาะแสจนพบหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านพัก เมื่อวาน (19 ส.ค.) จึงนำหมายค้นบ้านนายวีรวัฒน์ พร้อมแสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมกับของกลางทองรูปพรรณซุกซ่อนไว้ในตู้ลำโพงหน้าบ้าน และใส่ในถุงพลาสติกฝังดินใต้ต้นไม้ข้างบ้าน รวมตรวจยึดทองคืนได้ประมาณ 90 บาท ยังเหลือทองคำอีก 33 บาท อยู่ระหว่างสอบขยายผล  ผู้ต้องหาสารภาพว่า ก่อเหตุเพราะเป็นหนี้นอกระบบจากการกู้ยืมมาลงทุนร้านซ่อมรถและต้องเสียดอกเบี้ยเดือนละไม่ต่ำกว่า 50,000 บาท จึงหมุนเงินไม่ทัน จากนั้นคิดวางแผนในการก่อเหตุ ประมาณ 1 […]

บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงงบฯ 2.6 หมื่นล้าน กลับงบกลางฉุกเฉิน

ทำเนียบฯ 20 ส.ค.-บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงงบค้างท่อ 2.6 หมื่นล้าน กลับงบกลางฉุกเฉิน เน้นเศรษฐกิจชายแดน รองรับผลกระทบภาษี “ทรัมป์” และเหตุจำเป็น นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ (บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ) หลังจากรัฐบาลจัดสรรงบกระตุ้นเศรษฐกิจรอบแรก 1.15 แสนล้านบาท รอบสอง 1.8 หมื่นล้านบาท เพื่อจัดสรรเงินให้กับกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย 10,000 ล้านบาท และกองทุนเงินให้กู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา (กยศ.) 8,488 ล้านบาท นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การจัดสรรให้กับหน่วยงานต่างๆ ในรอบแรกพบว่า มีหน่วยงานจัดซื้อจัดจ้างไม่ทัน จึงดึงงบกระตุ้นเศรษฐกิจที่เหลือค้างท่อ 2.6 หมื่นล้านบาท กลับเข้ามาอยู่ในงบกลางสำรองฉุกเฉิน เพื่อนำมาพิจารณาใช้ในเรื่องจำเป็น เช่น การฟื้นเศรษฐกิจแดนไทย-กัมพูชา การใช้งบรองรับผลกระทบจากภาษีนำเข้าสหรัฐร้อยละ 19 ในบางรายการ หากส่วนราชการใดต้องการใช้งบดังกล่าว ต้องจัดซื้อจัดจ้างให้แล้วเสร็จภายใน 30 ก.ย.นี้ โดยสำนักงบประมาณจะพิจารณาในการจัดสรรงบให้ สำหรับผลกระทบจากภาษีศุลกากรสหรัฐ ยอมรับว่า รายย่อยที่ได้รับผลกระทบ […]