กรุงเทพฯ 6 เม.ย.–กระทรวงคมนาคม จี้หน่วยงานในสังกัด ทำแผน-มาตรการรองรับ ผลกระทบจากการประกาศเคอร์ฟิว
ทำโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่-รถไฟฟ้า ล่าช้ากว่าแผน ด้าน รฟม.ปรับแผนฯ เร่งรัดงานก่อสร้างในช่วงกลางวันมากขึ้น แล้ว
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่า กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า
ขณะนี้ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสังกัดกระทรวงคมนาคมทั้งหมด ที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
ห้ามบุคคลใดทั่วราชอาณาจักรออกนอกเคหสถาน หรือเคอร์ฟิว ระหว่างเวลา 22.00น.-04.00 น. โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่
โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า ที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศฯ
ทำให้ทำงานไม่ตรงตามเป้าหมาย ล่าช้ากว่าแผนนั้น ในส่วนนี้ให้ไปปรับแผนการก่อสร้างเพื่อไม่ให้ได้รับผลกระทบ
รวมทั้งให้แต่ละหน่วยงานไปรวบรวมปัญหา
อุปสรรค ที่จะทำให้เกิดความล่าช้า
และหากปัญหาที่จะเกิดขึ้นต้องมีการประสานระหว่างหน่วยงาน ระหว่างกระทรวงฯ
หน่วยงานนั้นๆจะต้องรีบแจ้งกระทรวงคมนาคม เพื่อให้ช่วยประสานงานไม่ให้เกิดปัญหาตามมา
“ที่มีหลายฝ่ายกังวลว่า ระยะเวลาการทำงานเหลือน้อย จากเดิมสามารถเข้าพื้นที่ก่อสร้างได้ทั้งกลางวัน
และกลางคืน พอมีประกาศทำให้เข้าพื้นที่ ก่อสร้างได้น้อยลง และส่งผลกระทบทำให้งานล่าช้านั้น
ในเรื่องนี้เอกชนไม่ต้องกังวลเพราะหน่วยงานที่รับผิดชอบจะต้องรวบรวบปัญหาอุปสรรคมาที่กระทรวงคมนาคม ซึ่งตามระเบียบข้อกฎหมาย โดยเฉพาะกรณีสาธารณภัย
ระเบียบราชการมีเรื่องการขยายระยะเวลาอยู่แล้ว
ซึ่งหน่วยงานจะต้องดูตามข้อเท็จจริงประกอบระเบียบข้อกฎหมายมาประกอบหากผู้รับจ้างได้รับผลกระทบที่เห็นชัดเจน”นายศักดิ์สยามกล่าว
นายศักดิ์สยาม
กล่าวด้วยว่า ล่าสุดทาง การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) ได้รายงานมาด้วยว่า
สำหรับโครงการการสร้างรถไฟฟ้า ของ รฟม. ที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศเคอร์ฟิว รฟม. ได้แก้ปัญหา โดยได้ให้คู่สัญญางานก่อสร้างจัดทำแผนเร่งรัดงานก่อสร้างในช่วงกลางวันให้มากขึ้น
นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ
ผู้ว่าการ รฟม. กล่าวยอมรับว่า
ขณะนี้ การก่อสร้าง รถไฟฟ้าทุกเส้นทาง ต่างได้รับผลกระทบ
จากการประกาศเคอร์ฟิว นื่องจาก เอกชนทุกรายพร้อมให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการป้องกันการระบาดของไวรัส
COVID -19 เพราะในสถานการณ์ปัจจุบัน ไม่ใช่เฉพาะเอกชน
ที่รับงานก่อสร้างเท่านั้น
แต่เอกชนทุกธุรกิจทุกกลุ่ม ต่างได้รับผลกระทบหมด ซึ่งประเด็นการก่อสร้างรถไฟฟ้า ก็เช่นเดียวกัน กรณีงานก่อสร้างล่าช้านั้น หากเป็นสถานการณ์ภัยพิบัติ หรือ โรคระบาด
ที่เป็นเหตุจำเป็น
เชื่อว่าเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย ภาครัฐก็จะมีมาตรการเยียวยา เช่นเดียวกัผู้ประกอบการในธุรกิจอื่นๆ
นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข รองผู้ว่าการ วิศวกรรมและก่อสร้าง รฟม. เปิดเผยว่า ขณะนี้ รฟม.
อยู่ระหว่างการประสานงานขอความร่วมมือกับฝ่ายการจราจร
และผู้รับเหมาก่อสร้างขอให้ปรับเวลาทำงานก่อสร้างมาอยู่ในช่วงเวลากลางวันมากขึ้นและจะลดกิจกรรมการก่อสร้างในช่วงกลางคืนลงให้เหลือไม่ถึง
20% เพื่อเป็นการให้ความร่วมมือกับรัฐในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19
โดยยอมรับว่าปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด19
กระทบการก่อสร้างจริง
เนื่องจากคนงานก่อสร้างไม่สามารถทำงานได้ตามใบอนุญาตที่กำหนดให้ทำการก่อสร้างตั้งแต่
22.00-04.00 น. แต่อย่างไรก็ตาม
ทางรฟม.และผู้รับเหมาจะพยายามลดผลกระทบให้ได้มากที่สุด รวมถึงจะเร่งรัดการก่อสร้างให้เร็วขึ้น
หลังจากสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติแล้ว โดยยังคงเป้าหมายการเปิดให้บริการตามเดิมอยู่
สำหรับความคืบหน้าก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าขณะนี้ สายสีเหลือง คืบหน้าแล้ว 53.76%
สายสีชมพู คืบหน้าแล้ว 53.81% สายสีส้ม
56.86% ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต)
งานก่อสร้าง(โยธา) แล้วเสร็จ 100% ส่วนรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ได้เปิดบริการ ครบลูป
แล้วเมื่อวันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา .- สำนักข่าวไทย