คปภ.เร่งออกกติกาขายแบบ Digital Face to Face

กรุงเทพฯ 5 เม.ย. – เลขาฯ คปภ. ถกนายกสมาคมตัวแทนฯ และนายกสมาคมนายหน้าประกันภัยไทย เร่งออกกติกาการเสนอขายประกันฉบับเฉพาะกิจ เปิดช่องการขายแบบ Digital Face to Face ช่วงโควิด-19 ระบาด



นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (บอร์ด คปภ.) เห็นชอบประกาศ คปภ. เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการออก การเสนอขาย กรมธรรม์ประกันภัยของบริษัทประกันชีวิต/ประกันวินาศภัย และการปฏิบัติหน้าที่ของตัวแทนประกันชีวิต/ประกันวินาศภัย นายหน้าประกันชีวิต/ประกันวินาศภัย และธนาคาร ระหว่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) พ.ศ. 2563 โดยให้อำนาจสำนักงานกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการออก การเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยฯ ให้แตกต่างจากประกาศ คปภ. เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการออก การเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยฯ พ.ศ. 2561 ซึ่งขณะนี้ปลัดกระทรวงการคลังได้ลงนามแล้ว


นายสุทธิพล กล่าวว่า เพื่อเป็นการรับฟังความคิดเห็นจากผู้ปฏิบัติประกอบการดำเนินงานในส่วนที่เกี่ยวข้อง เมื่อเร็ว ๆ นี้   คปภ.จึงได้หารือร่วมกับภาคธุรกิจประกันภัยผ่านระบบการประชุมทางจอภาพ โดยมีนายกสมาคมนายหน้าประกันภัยไทย เลขาธิการสมาคมนายหน้าประกันภัยไทย และนายกสมาคมตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงินเข้าร่วมประชุม เพื่อเตรียมความพร้อมในการออกประกาศลูกเป็นการเฉพาะกิจในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของคนกลางประกันภัย เพื่ออำนวยความสะดวกผู้ใช้บริการด้านการประกันภัย ในการหารือดังกล่าว คปภ.ได้รับทราบสภาพปัญหา ข้อเสนอแนะต่าง ๆ และร่วมกับภาคธุรกิจประกันภัยหาแนวทางการดำเนินงานในสถานการณ์ฉุกเฉินจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 

เลขาฯ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ประชาชนสนใจทำประกันภัยมาก แต่ผู้ขายและผู้ซื้อไม่สามารถเจอกันได้โดยตรง ทำให้ประชาชนไม่ได้รับความสะดวก จึงจำเป็นต้องปรับกติกาที่ใช้ในปัจจุบันให้มีความยืดหยุ่น และนำมาใช้เป็นการชั่วคราวระหว่างการแพร่ระบาด โดยนำเทคโนโลยีมาช่วยดำเนินการ แต่เพื่อให้การแก้ปัญหาตรงจุด จึงขอความร่วมมือสมาคมนายหน้าประกันภัยไทย และสมาคมตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงินศึกษากรอบแนวทางตามร่างกติกาชั่วคราวนี้ พร้อมรวบรวมสภาพปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ เพื่อจะได้นำมาปรับปรุงกติกาใหม่ให้มีความเหมาะสมและเกิดประสิทธิภาพ 

ด้านนางบงกช บวรฤกษ์ นายกสมาคมตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน กล่าวว่า ได้มีการหารือร่วมกับสมาชิกแล้ว เห็นด้วยว่าขณะนี้ต้องการให้มีการอนุโลมเรื่องของการเสนอขายผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยให้ประชาชนผู้ซื้อประกันภัยสามารถนำส่งเอกสารการทำประกันชีวิตทางออนไลน์ ได้แก่ Line หรือ E-mail หรือใช้ platform โดยแนบลายมือชื่อในการยืนยันการทำประกันชีวิตและนำส่งเอกสาร เช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้ซื้อประกันภัย เพื่อเป็นการยืนยันตัวตน โดยบริษัทนำส่งหลักฐานการรับเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ให้กับผู้เอาประกันภัยเก็บไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งจะช่วยให้มีช่องทางการเสนอขายและประชาชนผู้ซื้อก็สามารถที่จะยืนยันตัวตนได้


ส่วนนายชนะพันธุ์ พิริยะพันธุ์ นายกสมาคมนายหน้าประกันภัยไทย กล่าวว่า ขอขอบคุณ คปภ.ที่ออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือเยียวยาปัญหาแก่ประชาชนและคนกลางประกันภัย สมาคมนายหน้าประกันภัยไทย ประกอบด้วย สมาชิกที่เป็นตัวแทนนิติบุคคลและบุคคลธรรมดา ซึ่งใช้การเสนอขายหลายช่องทาง เช่น ช่องทางโทรศัพท์ ช่องทางออนไลน์ ช่องทางธนาคาร ไปรษณีย์ หรือ Face to Face จึงอาจมีความแตกต่างและหลากหลาย ประเด็นปัญหาจะมีรายละเอียดแตกต่างกันไป ดังนั้น เพื่อรวบรวมสภาพปัญหาในการปฏิบัติงานจริงให้ครบถ้วน ทางสมาคมฯ จะขอหารือร่วมกับสมาชิก เพื่อนำเสนอ คปภ.และร่วมกันหาแนวทางปฏิบัติตามประกาศ คปภ.ฯ โดยเร่งด่วนต่อไป

นางนภัสนันท์ พรรณนิภา เลขาธิการสมาคมนายหน้าประกันภัยไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีการเสนอขายผ่านช่องทางต่าง ๆ สำหรับผู้เอาประกันภัยรายใหญ่อาจไม่มีปัญหา แต่ในส่วนผู้เอาประกันภัยรายย่อยที่ไม่มีอุปกรณ์ เช่น เครื่องพิมพ์ ก็จะเป็นปัญหา อย่างไรก็ตาม อาจเลือกใช้ช่องทางการยืนยันการทำประกันผ่านทาง Line หรือ E-mail ทั้งนี้ เพื่อให้การรวบรวมสภาพปัญหาและข้อเสนอแนะเป็นไปโดยครบถ้วน ทางสมาคมฯ จะขอหารือร่วมกับสมาชิกอีกรอบ เพื่อนำเสนอ คปภ. ต่อไป 

“มีความจำเป็นจะต้องปรับปรุงกติกาการกำกับดูแลในส่วนของการเสนอขายผลิตภัณฑ์ประกันภัย เพื่อไม่ให้เกิดข้อขัดข้องในทางปฏิบัติ และเพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการให้บริการประชาชน โดยประกาศที่จะใช้ปรับปรุงนี้จะปรับปรุงแนวปฏิบัติที่ใช้ในประกาศปัจจุบันเรื่องการขายแบบ Face to Face โดยขยายความการขายแบบนี้เพื่อให้การขายโดยอาศัยเทคโนโลยี ถือว่าเป็นการขายโดยช่องทาง Face to Face ได้ด้วยหรืออาจเรียกว่า “ประกาศการขายประกันฉบับ “Digital Face to Face” โดยประกาศการขายฉบับใหม่นี้จะใช้เป็นการเฉพาะกิจในช่วงที่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคนี้เท่านั้น หลังจากรับฟังความคิดเห็นแล้วก็จะประชุมร่วมกับสมาคมประกันชีวิตไทยและสมาคมประกันวินาศภัยไทย เพื่อประมวลข้อมูลต่าง ๆ ให้ครบถ้วนก่อนที่จะออกประกาศเฉพาะกิจนี้โดยเร็ว เพื่อรองรับความต้องการของประชาชนที่นำระบบประกันภัยเข้ามาใช้ในการบริหารความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ” เลขาธิการ คปภ. กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยกหารือเวที UN พรุ่งนี้

สวีเดน 26 ส.ค.-“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา หลังกัมพูชาใช้โล่มนุษย์ยั่วยุในพื้นที่ต่อเนื่อง เตรียมยกเรื่องนี้หารือเวที UN ที่เจนีวา พรุ่งนี้ ยันยังไม่ส่งทูตกลับ จนกว่าเขมรแสดงให้เห็นว่าจริงใจ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวภายหลังการหารือทวิภาคีกับนางมารีอา มัลเมอร์ สเตเนอร์การ์ด (Maria Malmer Stenergard) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสวีเดน ถึงสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ที่มีการยั่วยุโดยใช้พลเรือนเป็นเครื่องมืออย่างต่อเนื่อง ว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นที่หน่วยงานในพื้นที่ต้องช่วยกันระมัดระวังไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน เพราะเมื่อมีพลเรือนเข้ามาเกี่ยวข้อง ในการทำงานของทางทหารก็จะยากลำบาก อาจจะนำไปสู่การสร้างความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหน่วยงานที่เป็นพลเรือนในพื้นที่ก็จำเป็นจะต้องเข้ามาดูแลและแก้ไขสถานการณ์ตรงนี้ นายมาริษ กล่าวว่า ในการพบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสวีเดน ตนได้อธิบายให้เข้าใจว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่กัมพูชาพยายามใช้ ซึ่งขัดต่อความตกลงในกฎบัตรสหประชาชาติเป็นอย่างมาก เหมือนกับใช้ประชาชนและพลเรือนเป็นโล่มนุษย์ เพื่อที่จะทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ซึ่งประเทศสวีเดนก็เข้าใจ และพรุ่งนี้ (27 ส.ค.) ตนจะมีโอกาสได้ชี้แจงกับที่ประชุม UN ที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ตนจะยกประเด็นนี้ขึ้นแสดงความห่วงกังวลว่า การใช้วิธีเอาพลเรือนมาเป็นตัวกดดัน หรือมาสร้างความตึงเครียด หรือขยายความตึงเครียดบริเวณชายแดนมากยิ่งขึ้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ […]

พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์ถล่มหลายจังหวัดภาคเหนือ น่านยกระดับรับมือ

26 ส.ค. – พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์แล้ว หลายจังหวัดทางภาคเหนือมีฝนตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก จนมีน้ำท่วมหลายพื้นที่ และต้องจับตาไปที่จังหวัดน่าน ซึ่งพายุคาจิกิเคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่และเริ่มส่งผลกระทบตั้งแต่ช่วงค่ำวันนี้ ทำให้จังหวัดน่านยกรระดับมาตรการป้องกันและเตรียมรับมือกับน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม.-สำนักข่าวไทย

Gripen ที่จัดซื้อใหม่ประสิทธิภาพดีกว่าลำเดิมที่มีอยู่

สวีเดน 26 ส.ค. – แม้รัฐบาลไทยและสวีเดนได้ลงนามความร่วมมือซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตีกริพเพน E และ F ไปแล้ว แต่กว่าจะได้รับเครื่อง จะต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 4 ปี ระหว่างนี้จะมีการวางกรอบพัฒนาร่วมกัน แน่นอนว่ารุ่นใหม่สเปกใหม่ดีกว่ารุ่นเก่าที่เรามี แตกต่างอย่างไร ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

คนไทยรวมพลังร้องเพลงชาติกึกก้องบ้านหนองจาน

26 ส.ค. – ชาวไทยกว่า 500 คน รวมตัวร้องเพลงชาติ ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ บริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว แสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (26 ส.ค.68) ประชาชนไทยกว่า 500 คน มารวมตัวกันบริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ และร่วมกันร้องเพลงชาติไทย จนเสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย และพร้อมยืนหยัดเคียงข้างกองทัพในการปกป้องอธิปไตย ชาวบ้านยังจัดเตรียมอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็น ไปมอบให้ทหาร เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เข้าควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอความร่วมมือประชาชนที่มาร่วมชุมนุมให้อยู่ในแนวพื้นที่ที่กำหนดไว้เพื่อป้องกันการเผชิญหน้า “เจ๊เอ๋” ณัฐฐารินทร์ เกษมสารพิพัฒน์ เจ้าหนี้คนดัง บอกว่า วันนี้ประชาชนคนไทยต้องมาเผชิญหน้ากับชาวกัมพูชาด้วยตัวเอง เพราะผู้มีหน้าที่โดยตรงนิ่งเฉย ส่วนที่บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และพลโทวันชนะ สวัสดี นำคณะลงพื้นที่ พบมีชาวกัมพูชาสร้างบ้านเรือนรุกล้ำเขตไทย 18 หลัง […]