ปฏิบัติการรวมพลังพลเมืองตื่นรู้ ช่วยชาติสู้ภัยโควิด-19

สช.3 เม.ย..-สช.จัดเสวนา”ปฏิบัติการรวมพลังพลเมืองตื่นรู้ ช่วยชาติสู้ภัยโควิด19” เป้าหมายลดการระบาดของโควิด-19 ด้วยการขับเคลื่อนของพลังประชาชน ให้มีข้อตกลงของชุมชน หรือมีธรรมนูญตำบลเกิดขึ้น  ให้ทั่วถึงทุกพื้นที่ทั่วประเทศ


สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ(สช.)จัดเสวนา”ปฏิบัติการรวมพลังพลเมืองตื่นรู้ ช่วยชาติสู้ภัยโควิด19” เป้าหมายลดการระบาดของโควิด-19 ด้วยการขับเคลื่อนของพลังประชาชน ให้ทั่วถึงทุกพื้นที่ทั่วประเทศแนวคิด  รวมพลังแล้วเราจะผ่านวิกฤตไปด้วยกัน เป้าหมายลดการระบาด


นพ. สำเริง แหยงกระโทก ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข    กล่าวว่า การต่อสู้ โควิด-19ในแนวราบ   คือการขับเคลื่อนประชาชนให้ ตื่นรู้ในระดับตำบล โดยการมีข้อตกลงของชุมชนเกิดขึ้น หรือมีธรรมนูญตำบล ที่อยากให้เกิดขึ้นทุกตำบล ”เช่นมีการเคาะประตูให้ความรู้ หรือตรวจจับผู้ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อย่างเข้มงวด เป็นต้น”

นพ. ประทีป ธนกิจเจริญ  เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า ขณะนี้ไวรัสกำลังเดินทางเข้าสู่ชุมชน หมู่บ้าน ซึ่งมีกลุ่มเปราะบางอยู่คือผู้สูงอายุและเด็กเล็ก ที่หากติดเชื้อจะเป็นภาร การรักษา  และมีโอกาสเสียชีวิตสูง ดังนั้นในพื้นที่ต้องมีมาตรการรองรับเร่งด่วน ที่ต้องการการรวมตัวกันอย่างเป็นระบบ   อย่างน้อยต้องมีการจัดระบบข้อมูลการรับรู้ของประชาชนให้ถูกต้อง/ระบบดูแลกลุ่มผู้แพร่เชื้อ ทั้งกักกันและช่วยเหลือ   /มาตรการดูแลผู้สูงอายุและเด็ก/การรักษาอนามัยส่วนบุคคลและครอบครัว/การช่วยเหลือผลกระทบทางเศรษฐกิจ     โดยระบบต้องแบ่งหน้าที่ชัดเจน ทั้งครอบครัว กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน  ซึ่งเชื่อมั่นว่าระบบเหล่านี้จะสามารถ นำพาไทยพ้นไวรัสได้  


นายทวี  เสริมภักดีกุล รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น   กล่าวว่า พร้อมสนับสนุนส่งเสริมการป้องกันการแพร่ระบาดของ โควิด- 19  ที่เห็นชัดคือการจัดทำหน้ากากผ้าทางเลือก ที่ภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน   ร่วมกันขับเคลื่อนขณะนี้ทำได้ไปถึง 47,000,000ชิ้นแล้ว  ขณะที่ เจ้าหน้าที่องค์กรท้องถิ่น ทั้งนายก อปท. ปลัด อปท. ก็ได้รับงบประมาณสนับสนุนในการเข้าไปดูแล ชุมชนนั้นๆ เช่นอุปกรณ์ทางการแพทย์ ค่าอาหารสำหรับบุคคลที่ถูกกักตัว    และยังมีหน้าที่สนับสนุนหาโรงพยาบาลสนาม กรณีโรงพยาบาลรับผู้ป่วยได้จำกัด

นพ.จักรกฤช โง้วศิริ รองเลขาธิการ  สปสช.ชี้ ได้ออกหนังสือแจ้งให้กรรมการกองทุนสุขภาพตำบล เพื่อให้ท้องถิ่นสามารถกันเงินไว้ใช้ ในกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพป้องกันโรคได้เช่น การจัดทำหน้ากากผ้า เจลแอลกอฮอล์   หรือ เครื่องเทอร์โมสแกน รวมทั้งการติดตามเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยง ที่อาจมีผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากกรุงเทพมหานคร  ล่าสุดมี องค์กรท้องถิ่น 2000 กว่าแห่ง  นำงบประมาณไปใช้ในกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพป้องกันโรคแล้วกว่า 200ล้านบาท 

สภาองค์กรชุมชนโดย  นายปฏิภาณ ชุมผา รองผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน   เปิดเผยว่างบประมาณ 1,121ล้านบาท ที่กระจายอยู่ในกองทุนต่างๆเช่นบ้านมั่นคง  จะสามารถนำมาช่วยแก้ปัญหาโควิด-19 ได้ด้วยการ ปรับแผนเดิม ให้ สอดคล้องกับบริบทควบคุมป้องกันโรค ให้แต่ละพื้นที่ออกแบบการทำงาน    โดยรายงานความคืบหน้าทุกสัปดาห์ 

นพ. นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ คณบดีวิทยาลัยแพทยศาสตร์ และการสาธารณสุขมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี   ย้ำเป้าหมาย ของการต่อสู้โควิด-19   คือต้องลดจำนวนผู้ติดเชื้อลง ให้ได้อย่างรวดเร็ว  ขณะนี้มี8-9อำเภอในอีสานใต้ที่มีผู้ติดเชื้อ การป้องกันไม่ให้ระบาด  ต้องให้ตำบลนั้นๆตระหนักถึงการที่ผู้ติดเชื้อต้อง Home quarantineอย่างไรในพื้นที่ได้ โดยไม่ต้องปิดบังซ่อนเร้นและต้องทำ   social distancing อย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้ภายในเดือนเมษายนนี้ กราฟผู้ติดเชื้อของไทยไม่พุ่งชัน กระบวนการทำในระดับ จังหวัดต้องประสานกับ สปสช. เขต   เพื่อกระตุ้นให้กองทุนสุขภาพตำบล ที่มีเงินค้างท่อ คิดกิจกรรม ควบคุมการระบาด ทั้งงานบุญงานบวชมีวิธีปฏิบัติตัวอย่างไร ตลาดร้านค้าการพบปะกันทำอย่างไร

 “ คนที่เดินทางมาจากกรุงเทพกลับบ้านที่ต่างจังหวัดตกงานมา ลำพังเงิน 5000บาท 3 เดือนไม่พอกินพอใช้ ต้องมีการฝึกอาชีพ ทำการเกษตรต้องมีการสร้างมิติใหม่ให้คนอีสานใต้กลับมาสร้างงานสร้างความเจริญในพื้นที่ ประการดำรงชีวิตที่เหมาะสม จะเปลี่ยนวิกฤตโควิด 19 ให้คนเหล่านี้ได้”นพ.นิรันดร์กล่าว

  ด้าน นพ. ปรีดา แต้อารักษ์     รองเลขาธิการ คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ มองว่า จุดสำคัญคือการจะบูรณาการในพื้นที่อย่างไร  เพื่อให้เสริมพลังงาน กันอย่างจริงจัง ต้องจัดวงปรึกษาหารือที่ไม่จำกัดรูปแบบและวิธีการ เวลา และสถานที่ และเครื่องมือที่ใช้ เช่นใช้วีดีโอคอล/ LINEกลุ่ม/ หรือ Facebook ให้มีประสิทธิภาพ โดย สช. มีคู่มือ และสื่อต่างๆ ให้ทุกพื้นที่นำไปใช้ เป็นการรับฟังความเห็นแลกเปลี่ยน2ทิศทางนำมาสู่ฉันทามติได้  สช. ยังมีการจัดทำศูนย์ประสานปฏิบัติการรวมพลังพลเมืองตื่นรู้ /มีฐานข้อมูลกลางสำหรับเรื่องโควิด-19 ให้นำไปใช้  รวมทั้งมีผู้ประสานงานทุกเขตในพื้นที่ให้ติดต่อ รวมทั้งมีพี่เลี้ยงให้ พื้นที่สามารถ ทำฉันทามติ ได้อย่างเหมาะสม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ด้าน “แพทองธาร” หวังกลับมาทำงาน

ทำเนียบ 26 ส.ค.- ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ขอ 29 ส.ค.นี้ ได้รับข่าวดี ด้าน “แพทองธาร” หวังได้กลับมาทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (26 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เข้าร่วมประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เป็นครั้งแรก ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ได้เข้าร่วมประชุมตั้งแต่ต้นจนจบ ด้วยสีหน้าสดใส โดยระหว่างการพิจารณาวาระสำคัญ เช่น การพิจารณารายชื่อนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่น 69 ประจำปีการศึกษา 2569 ซึ่งนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เคยเรียนหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร สำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.บอ.) หรือ มินิ วปอ. ได้สอบถามและให้ความคิดเห็นในรายชื่อของนักศึกษาบางคน ทั้งนี้ ก่อนปิดการประชุม ครม. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ประชุมฯ ได้เป็นตัวแทนรัฐมนตรีทุกคนกล่าวให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี และขอให้วันที่ 29 ส.ค.นี้ ได้รับข่าวดี นอกจากนี้ ข้าราชการที่เข้าร่วมประชุม […]

“ณัฐพล” สั่งแจ้งเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อลวดหนาม

ทำเนียบ 26 ส.ค.- “ณัฐพล” ฮึ่ม สั่งกองทัพ-ปชช.แจ้งความเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อรั้วลวดหนามที่บ้านหนองจาน ด้าน กต. ทำหนังสือประท้วง ย้ำ เป็นอธิปไตยของไทย เตรียมนำปัญหาทั้งหมดคุยวง GBC ก.ย.นี้ ย้ำหน่วยพื้นที่ยิงตอบโต้ได้ทันที ตามกฎการใช้กำลัง พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงชาวกัมพูชาบุกรื้อรั้วลวดหนามและทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ของไทย บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูงจังหวัดสระแก้ว ว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว จะมาพบกับประชาชนที่บริเวณพื้นที่บ้านหนองจาน ทำให้เจ้าหน้าที่นำรั้วลวดหนามมาวางเพิ่มเติม เพราะกังวลว่าชาวกัมพูชาจะมารบกวน จึงทำให้ชาวกัมพูชาตั้งใจจะมารื้อในส่วนที่เป็นรั้วเพิ่มเติม ไม่ใช่ส่วนที่วางไว้ตั้งแต่เดิม จึงได้ให้คำแนะนำกับเจ้าหน้าที่ไปว่า เป็นการปักในพื้นที่ประเทศไทย จะมาทำอย่างนี้ไม่ได้เพราะผิดกฎหมาย และจะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายอาญา ซึ่งกองทัพภาคที่หนึ่งหรือกองกำลังบูรพาก็สามารถดำเนินการ แจ้งความข้อหาทำลายทรัพย์สินของทางราชการได้ ซึ่งตนเองได้ย้ำว่าจะต้องไม่มีภาพแบบเมื่อวานเกิดขึ้นอีก เพราะเป็นสิ่งที่ประชาชนรับไม่ได้ พลเอกณัฐพล ยอมรับว่าการนำชาวบ้านมากดดันทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานลำบากมากขึ้น จึงมอบหมายให้ทำหนังสือประท้วงผ่านกระทรวงการต่างประเทศ เพราะเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ที่ไม่สามารถมาทำเช่นนี้ได้ ส่วนการปฏิบัติการ จะใช้มาตรการเดียวกับการปราบปรามการชุมนุมหรือไม่ พลเอกณัฐพล กล่าวว่า การปฏิบัติการจะเป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งขั้นแรกได้ใช้ เครื่องแอลแรท (LRAD) ไปแล้ว เราต้องเตรียมกำลังเพิ่มเติม โดยจะพิจารณาใช้กำลังตำรวจ เพราะหากใช้กำลังทหารจะรุนแรงเกินไป […]

คุมเข้มชายแดนบ้านหนองจาน-เตือนเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง

สระแก้ว 26 ส.ค.- ฝ่ายความมั่นคงคุมเข้มชายแดนบ้านหนองจาน-เตือนเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง ขณะที่โรงเรียนบ้านหนองจานประกาศปิด 2 วัน (26-27 ส.ค.) เพื่อความปลอดภัย สถานการณ์บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ซึ่งอยู่ติดแนวชายแดนกัมพูชา และเกิดเหตุการณ์ตึงเครียดเมื่อวานนี้ ล่าสุดสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง ขณะที่โรงเรียนบ้านหนองจานได้ประกาศปิดเรียน 2 วัน ในวันที่ 26-27 สิงหาคมนี้ เพื่อความปลอดภัย ด้านฝ่ายความมั่นคงเข้าควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ดำเนินมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อยและปฏิบัติการตามขั้นตอน เพื่อยืนยันการรักษาอธิปไตยของไทย และความปลอดภัยของประชาชน ขอความร่วมมือประชาชนงดเว้นการเดินทางเข้าไปยังพื้นที่เกิดเหตุในช่วงนี้ เพื่อป้องกันความเสี่ยง ขณะที่ทางฝั่งกัมพูชายังคงมีชาวบ้านนอนเฝ้าอยู่บริเวณรั้วตลอดทั้งคืน แต่ยังไม่มีการก่อความวุ่นวายใดๆ

“ภูมิธรรม” ยันไทยทำถูกต้องปมรั้วลวดหนามบ้านหนองจาน

ทำเนียบ 26 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ยันกรณีล้อมรั้วลวดหนาม พื้นที่บ้านหนองจาน ไทยทำถูกต้องภายใต้ข้อตกลงหยุดยิง บอกโฆษก ทบ. แจงรายละเอียด นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กัมพูชาใช้มวลชนมากดดัน เพื่อให้ไทยรื้อลวดหนามบริเวณพื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว รัฐบาลจะมีแนวทางอย่างไร ว่า พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงแล้ว ก็เป็นไปตามนั้น ส่วนจะมีการเพิ่มมาตรการอะไรหรือไม่ นายภูมิธรรม ย้ำว่าเป็นไปตามที่โฆษกกองทัพบกได้ชี้แจงไปแล้ว เพราะเรื่องนี้เป็นปัญหาที่ยังกระทบกันอยู่ ก็แก้ไขปัญหาไปตามสภาพการณ์ เรายืนยันว่าสิ่งที่เราทำถูกต้องแล้ว และทำทุกอย่างภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงที่ประเทศมาเลเซีย .-315 -สำนักข่าวไทย