ป.ป.ส.3 เม.ย.-เลขาฯ ป.ป.ส.ชี้ไทยยังมีปัญหาการแพร่ระบาดของเฮโรอีน แต่อยู่ในภาวะควบคุมได้ เผยปี 62 มีผู้ถูกจับในข้อหาเสพ/ครอบครอง ประมาณ 1,000 ราย เข้ารับการบำบัดรักษา 3,700 ราย ห่วงกลุ่มเสพ เพราะเฮโรอีนมีสารอื่นหลายชนิดปนและการเสพอาจทำให้ติดเชื้อโรคร้ายแรงอื่นได้
นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(เลขาธิการ ป.ป.ส.)เปิดเผยว่า ข้อมูลจากการเฝ้าระวังปัญหาการแพร่ระบาดของเฮโรอีนในประเทศไทย ว่า แม้ในปี 2562 ที่ผ่านมาพื้นที่ปลูกฝิ่นสำคัญในสามเหลี่ยมทองคำที่อยู่ในเมียนมามีแนวโน้มลดลง แต่จากการคาดการณ์ก็เชื่อว่ามีปริมาณเฮโรอีนที่ออกมาจากแหล่งผลิตในพื้นที่ดังกล่าวไม่น้อยกว่า 50 ตัน ถูกลักลอบลำเลียงเข้าไปยังประเทศ จีน สปป.ลาว เวียดนาม และไทย เพื่อใช้เป็นทางผ่านไปยังประเทศที่สาม และบางส่วนถูกกระจายในแหล่งแพร่ระบาดของประเทศที่กล่าวมา
เลขาธิการ ป.ป.ส.ระบุ ว่าแม้ปัญหาการแพร่ระบาดของเฮโรอีนในไทยยังไม่รุนแรง เมื่อเปรียบเทียบกับยาเสพติดชนิดอื่น เช่น ยาบ้า ไอซ์ หรือ กัญชา แต่เฮโรอีนถือเป็นยาเสพติดในกลุ่มออกฤทธิ์รุนแรง หรือ Hard Drug เสพติดง่าย และทำลายสุขภาพร่างกายให้ทรุดโทรมลงอย่างรวดเร็ว จึงต้องมีการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
โดยในปี 2562 พบว่าจำนวนผู้เข้าไปเกี่ยวข้องกับเฮโรอีน ไม่ได้มีความแตกต่างจากช่วงสองปีก่อนหน้า คือ มีผู้ถูกจับในข้อหาเสพ / ครอบครอง ประมาณ 1,000 ราย และมีผู้เข้ารับการบำบัดรักษาประมาณ 3,700 ราย อย่างไรก็ตาม พบว่าจำนวนเฮโรอีนที่จับยึดได้มีเพิ่มขึ้นตามลำดับ โดยปี 2562 จับยึดได้ 1.2 ตัน เพิ่มจากปี 2561 ที่จับยึดได้ประมาณ 940 กิโลกรัม ซึ่งเกือบทั้งหมดจะถูกลำเลียงต่อไปยังประเทศที่สาม
ส่วนแนวโน้มของผู้เสพเฮโรอีนที่เข้ารับการบำบัดรักษา มีจำนวนที่เป็นรายใหม่น้อยลง คือ ปี 2560 มีร้อยละ 58 ในปี 2561 ลดลงเหลือร้อยละ 36 และปี 2562 ลดลงเหลือร้อยละ 34 ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ดี แต่ก็มีความกังวลว่าผู้เข้าไปเกี่ยวข้องส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุ 20-34 ปี ซึ่งเป็นวัยที่เป็นกำลังสำคัญของประเทศ
ส่วนวิธีการเสพนั้นพบว่าแนวโน้มการเสพ โดยใช้เข็มฉีดยาลดลง แต่เปลี่ยนเป็นใช้สูบเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ จากการตรวจพิสูจน์ของกลางโดยสถาบันวิชาการและตรวจพิสูจน์ยาเสพติดพบว่าเฮโรอีนที่จำหน่ายให้กับผู้เสพนั้นมีการผสมมอร์ฟีน กาแฟอีน และยาระงับหรือบรรเทาอาการไอ รวมทั้งมีสารปนเปื้อนอื่น ๆ ซึ่งล้วนมีอันตรายต่อสุขภาพร่างกายของผู้เสพ
สำหรับจังหวัดที่ต้องเฝ้าระวังปัญหาการแพร่ระบาดของเฮโรอีน คือ เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี กาญจนบุรี สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และกรุงเทพมหานคร .-สำนักข่าวไทย