สมุทรสงคราม 27 มี.ค.-ผัวเมียขโมยตู้เงินบริจาควัดไปเกือบ 20,000 บาท ตำรวจรวบตัวได้แล้ว อ้างพิษโควิด-19 ทำให้ตกงาน ไม่มีเงินเลี้ยงดูลูก 2 คน พบประวัติขโมยมาแล้ว 3 แห่ง
ภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์ผู้ชายรายหนึ่งเดินขึ้นบนกุฏิเจ้าอาวาสวัดอมรวดี ตำบลปลายโพงพาง อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม จากนั้นมีผู้หญิงเดินตามขึ้นไป สักพักชายคนเดิมยกตู้บริจาคใบหนึ่งเดินลงมาจากกุฏิ เดินหายไปสักพัก จากนั้นได้วางตู้บริจาคลงและเดินกลับมาไหว้ขอขมา ก่อนจะเดินหลบหนีออกไปอย่างรวดเร็ว โดยใช้เวลาก่อเหตุเพียง 4 นาที เหตุเกิดเมื่อเวลา 11.58 น. วันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา
ล่าสุดจับกุมตัวได้แล้วทั้งสองคน โดยวันนี้ พันตำรวจเอกธงชัย เนตรสขาวัฒน์ ผู้กำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสงคราม นำกำลังเข้าควบคุมตัวนายมนัสชัย เครือรุ่ง อายุ 27 ปี ชาวสมุทรปราการ และนางสาวเกษรา แสนสุข อายุ 28 ปี ชาวสมุทรสงคราม ซึ่งเป็นภรรยา ได้ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่งในอำเภอบางคนที พร้อมของกลางเป็นตู้รับบริจาคแบบไม้ 1 ตู้ ตู้รับบริจาคแบบเหล็ก 1 ตู้ และ เครื่องเล่นดีวีดีพร้อมเครื่องเสียง 1 ชุด และรถจักรยานยนต์ติดทะเบียนปลอม ซึ่งใช้ก่อเหตุ จึงนำตัวมาสอบสวนที่กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสงคราม
นายมนัสชัย บอกว่าเป็นลูกจ้างโรงงานแห่งหนึ่ง แต่พิษโควิด-19 ทำให้ตกงาน ขาดรายได้เลี้ยงดูภรรยา และลูกชาย 2 คน วัย 10 ขวบ กับ 5 ขวบ ก่อนก่อเหตุ ได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปหาเพื่อน และแวะจอดทำธุระเห็นเครื่องเล่นดีวีดีพร้อมเครื่องเสียง 1 ชุด วางหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลกระดังงา อำเภอบางคนที ตนสงสารลลูก ไม่มีเครื่องเล่นดีวีดีดูจึงหยิบขึ้นรถจักรยานยนต์เอากลับไปให้ลูกๆทั้ง 2 คนดู หลายวันต่อมาจนไปตลาดนัดวัดช่องลม ตำบลบ้านปรก อำเภอเมืองสมุทรสงคราม เห็นตู้เหล็กที่ใช้รับบริจาคตนจึงอุ้มกลับบ้านพบมีเงินเพียง 80 บาท ตนจึงคิดจะเอาเหล็กไปขายแต่ยังไม่กล้า กระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 19 มีนาคม ตั้งใจจะขึ้นไปบนกุฏิ หาเจ้าอาวาสวัดอมรวดี อำเภออัมพวา เพื่อขอข้าววัดไปให้ลูกกิน แต่ไม่เจอ จึงหยิบตู้รับบริจาคลงมาจากกุฏิ แต่ก็รู้สึกกลัวบาป จึงไหว้ขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ โดยมีภรรยาตนซ้อนท้าย รีบหนีกลับไปบ้าน นับเงินได้กว่า 17,000 บาท จึงพาลูกชายทั้ง 2 คน ไปรับประทานอาหาร และซื้อโทรศัพท์ในห้างสรรพสินค้า และกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ กระทั่งมาถูกจับกุม
พันตำรวจเอกธงชัย กล่าวว่า หลังจากได้รับแจ้งตนจึงสั่งการให้ชุดสืบสวนติดตามกล้องวงจรปิดจนทราบเบาะแส กระทั่งจับกุมผู้ก่อเหตุในที่สุด เบื้องต้นแจ้งข้อหา 2 คน ฐานร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะในการหลบหนี นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.อัมพวา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนลูกชายทั้ง 2 คน จะประสานให้ญาติมารับไปเลี้ยงดู แต่หากไม่มี จะประสานสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ให้ความช่วยเหลือต่อไป อย่างไรก็ตาม ฝากผู้ที่คิดจะก่อเหตุขอให้เปลี่ยนความคิด เพราะปัจจุบันกล้องวงจรปิดมีเกือบทุกแห่ง ยังไงก็หลบหนีไม่พ้น ถูกจับหมดอนาคต และไม่มีโอกาสดูแลคนที่คุณรักด้วย.-สำนักข่าวไทย