นนทบุรี 27 มี.ค. – พาณิชย์ประสาน สรรพสามิต คลายกฏ นำเอทานอล ผลิตเจลล้างมือ ให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า เรื่องเจลล้างมือ ซึ่งมีช่วงรอยต่อที่ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)ได้กำหนดให้เจลล้างมือจะต้องมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ร้อยละ 70 จึงทำให้เจลล้างมือส่วนหนึ่งที่มีส่วนผสมแอลกอฮอล์ไม่ถึงร้อยละ 70 จะต้องถูกเก็บออกจากตลาดไป จึงเกิดรอยต่อทำให้เจลล้างมือขาดตลาดมากในระยะเวลาที่ผ่านมา ขณะเดียวกันการผลิตเจลล้างมือที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ 70% ขึ้นไปจะมีความจำเป็นต้องนำแอลกอฮอล์ที่ผลิตเป็นเอทานอลออกมาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิต
ทั้งนี้ แม้ว่ากรมสรรพสามิตจะได้ผ่อนคลายกฎระเบียบว่าให้สามารถนำเอทานอลมาใช้ในการผลิตเจลล้างมือได้แล้ว โดยให้สามารถซื้อได้ไม่เกิน 5,000 ลิตรต่อหนึ่งใบอนุญาต แต่ในขั้นตอนกระบวนการปฏิบัติยังค่อนข้างมีความซับซ้อนอยู่ เช่น ผู้ที่จะขอซื้อเอทานอลเพื่อไปผลิตเจลล้างมือ อาจจะต้องไปขออนุญาตจากสรรพสามิตในจังหวัดที่ตนเองมีภูมิลำเนา หรือเมื่อได้ใบอนุญาตแล้ว จะต้องไปขออนุญาตที่จะซื้อเอทานอลในจังหวัดที่โรงงานเอทานอลตั้งอยู่ด้วย และในการที่จะขนเอทานอลหลังจากซื้อจากโรงงานแล้วก็จะต้องมีขั้นตอนกระบวนการใบขับขี่ของคนขับหลายขั้นตอนซึ่งอาจจะเป็นอุปสรรคในเรื่องของการปฏิบัติซึ่งเมื่อวานตนได้นำเรื่องนี้ให้ที่ประชุมโควิดฯ ได้รับทราบข้อเท็จจริงในการปฏิบัติอยู่ และทางกระทรวงการคลังก็รับที่จะไปช่วยคลี่คลายปัญหาในเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม กรมการค้าภายในได้เสนอตั้งศูนย์วันสต็อปเซอร์วิสที่โรงงานผลิตเอทานอลเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อเอทานอลเพื่อผลิตเจลล้างมือ ก็จะทำให้เจลล้างมือสามารถออกสู่ตลาดได้รวดเร็วขึ้น
และอีกวิธี คือการที่จะให้การผลิตเจลล้างมือออกสู่ตลาดมีการปรับเปลี่ยน package จากขวดที่ใช้หัวปั๊ม มาเป็นในรูปแบบของถุง หรือรูปแบบอื่น ก็จะช่วยให้สามารถผลิตและออกสู่ตลาดได้รวดเร็วมากขึ้น เพราะขณะนี้หัวปั๊มขาดตลาด ซึ่งกรมการค้าภายในจะได้ประสานกับกระทรวงอุตสากรรมและกรมสรรพสามิตเพื่อให้เจลล้างมือออกสู่ตลาดได้สะดวกและรวดเร็วขึ้นแม้จะไม่ได้เป็นรูปแบบเดิมก็ตาม ส่วนผู้ที่ขายเกินราคาเกินจะต้องถูกดำเนินคดีด้วยเช่นกัน . – สำนักข่าวไทย