เจ้าหน้าท่ีศาลยุติธรรมเริ่ม work from home 26 มี.ค.นี้!!!

กรุงเทพฯ 25 มี.ค. –  “เลขาฯศาลยุติธรรม” เผย จนท.ส่วนกลาง สนง.ศาลยุติธรรม work from home ป้องกันการระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 เริ่มได้ 26 มี.ค.นี้ 


นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ได้เปิดเผยถึงการทำแผน work from home ของสำนักต่างๆ ส่วนกลาง (21 หน่วย) ในสังกัดสำนักงานศาลุติธรรมว่า หลังจากเมื่อวาน (24 มี.ค.) ที่ตนได้ร่วมประชุมกับหัวหน้าหน่วยงานทั้ง 21 หน่วยถึงหลักการและแนวทางแล้ว ตนก็ได้มีหนังสือแจ้งถึงหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดสำนักงานศาลยุติธรรมดังกล่าวเพื่อทราบแนวทางที่กำหนดไว้ 10 มาตรการ 

ขณะที่ล่าสุดวันนี้ (25 มี.ค.) มีหน่วยงานหลายสำนักทยอยเสนอแผนที่จะดำเนิการมาให้ตนพิจารณาแล้ว อาทิสำนักการต่างประเทศ , กองสารนิเทศและประชาสัมพันธ์ , ศูนย์ห้องสมุด (ที่ตั้งชั้น 6 อาคารศาลอาญา) โดยลักษณะแผนต่างๆที่เสนอมานั้น เช่นการจัดงานแบ่งเป็นกลุ่ม และจัดงานให้ทำที่บ้าน อาทิมี 2 หรือ 3 ทีม สับเปลี่ยนเวรกันทำงานที่บ้าน ซึ่งต้องมีระบบรายงานการทำงานและติดตามผลงานด้วย อย่างไรก็ดีการเสนอแผนนั้นก็ต้องมีรายละเอียดระบุรูปแบบงาน-ช่วงเวลา-การจัดสรรบุคคลเพื่อการตรวจสอบได้ต่อไป ทั้งนี้คาดว่าภายในวันพรุ่งนี้ (26 มี.ค.) แต่ละหน่วยงานทยอยปฏิบัติตามแผน work from home ได้ทันที ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะทำต่อเนื่องไปจนกว่าสถานการณ์แพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จะคลี่คลายดีขึ้น


ผู้สื่อข่าวรายงาน  เกี่ยวกับแนวทางการกำหนดมาตรการ ให้เจ้าหน้าที่ศาลยุติธรรม ลูกจ้าง ทำงานนอกสถานที่ตั้งหรือการทำงานที่บ้าน ลักษณะ Work from Home ได้ชั่วคราวเป็นระยะเวลาตามที่กำหนด ช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม (ก.บ.ศ.) มีมติรับทราบในหลักการและมาตรการที่จะใช้เป็นแนวทางให้หัวหน้าหน่วยงานส่วนกลาง สำนักงานศาลยุติธรรม พิจารณานำไปใช้กำหนดมาตรการการทำงานนอกสถานที่ตั้งของแต่ละหน่วยงาน

นายสราวุธ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ได้มีหนังสือลงวันที่ 24 มี.ค.63 ถึงหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดสำนักงานศาลยุติธรรม เรื่องมาตรการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของหน่วยงาน ช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ระบุว่า เพื่อเป็นการสนับสนุนการเฝ้าระวัง และป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส รวมถึงดูแลคุณภาพชีวิตและการทำงานที่เหมาะสมให้กับข้าราชการศาลยุติธรรม , ลูกจ้าง , พนักงานราชการศาลยุติธรรมในสถานการณ์พิเศษ ที่จะไม่กระทบต่อภารกิจงานสนับสนุนการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล จึงเห็นควรกำหนดมาตรการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของหน่วยงาน ซึ่งมาตรการดังกล่าว กำหนดว่า

1.การปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของหน่วยงาน หมายถึงการปฏิบัติงานของข้าราชการศาลยุติธรรม , ลูกจ้าง , พนักงานราชการศาลยุติธรรม นอกสถานที่ทำงานตามปกติ เช่น ในพื้นที่ที่หน่วยงานจัดไว้เป็นสถานที่ทำงานร่วม หรือสถานที่พักของเจ้าหน้าที่ (ลักษณะ work from home) หรือสถานที่อื่นใดที่หน่วยงานเห็นว่าเหมาะสม 


2.ผู้อำนวยการ อาจมอบหมายการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของหน่วยงาน เป็นรายวัน/รายสัปดาห์ โดยกำหนดเป้าหมาย , ผลผลิต , ตัวชี้วัดการทำงาน , ระบบวิธีการสื่อสารติดตามการประเมินความก้าวหน้า , การรายงานผลการทำงาน หรือเรื่องอื่นที่พิจารณาเห็นว่ามีความจำเป็นต้องกำหนดตามบริบทการทำงานของหน่วยงานและตามความเหมาะสม รวมถึงให้สอดคล้องกับภารกิจสนับสนุนการพิจารณาพิพากษาคดีและงานที่เป็นความลับโดยไม่ให้เสียหายแก่งานราชการ

3.การมอบหมายปฏิบัติงานนอกสถานที่ฯ ให้ผู้อำนวยการ กำหนดจำนวนเจ้าหน้าที่ที่ต้องมาปฏิบัติงาน , สถานที่ตั้งของหน่วยงาน , วิธีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนไปปฏิบัติราชการ ณ สถานที่ตั้งของหน่วยงาน ตามความเหมาะสมโดยไม่ให้เสียหายแก่ภารกิจราชการ 

4.การลงเวลาปฏิบัติราชการสำหรับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของหน่วยงาน ให้บันทึกในหมายเหตุของบัญชีวันทำการในระบบว่า “ปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งวันที่ … ” โดยส่วนของผู้มาปฏิบัติงานตามปกติ ก็ให้ลงเวลาผ่านระบบบันทึกเวลาการมาปฏิบัติราชการตามปกติ

5.การปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งฯ ตามมาตรการนี้ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ราชการ และผู้ปฏิบัติงานมีสิทธิได้รับเงินเดือน , ค่าตอบแทน , ค่าตอบแทนพิเศษ หรือเงินอื่นใดที่จ่ายเพื่อตอบแทนการปฏิบัติหน้าที่ราชการตามกฎหมาย 

6.ช่วงระหว่างการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งฯ ให้ผู้บังคับบัญชา กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน มีการติดต่อสื่อสารระหว่างกันโดยใช้เทคโนโลยีสนับสนุนในการทำงาน เช่น รายงานความก้าวหน้าของงานทุกวันผ่านทาง E-mail หรือแอพ Line เป็นต้น โดยให้ถือเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้วย ที่ต้องให้ผู้บังคับบัญชาสามารถติดต่อผ่านทางโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้โดยเร็วตลอดช่วงเวลาที่ปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของหน่วยงาน 

7.กรณีมีเหตุจำเป็น หรืออาจเกิดความเสียหายแก่ภารกิจราชการ ผู้อำนวยการอาจเรียกให้ผู้ที่ปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งฯ กลับมาปฏิบัติงาน ณ สถานที่ตั้งของหน่วยงานก่อนครบกำหนดได้ 

8.กรณีผู้ที่ปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งฯ ประสงค์จะลาเช่น ลาป่วย , ลากิจ , ลาพักผ่อน ให้เสนอใบลา ผ่านผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ อาทิ E-mail หรือแอพ Line เป็นต้น

9.การไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้อำนวยการที่กำหนดตามมาตรการนี้ หรือปกปิดข้อมูลอันมีเหตุอันควรสงสัยว่าตนมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยไม่แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ถือเป็นการกระทำความผิดวินัยฐานขัดขืนหรือหลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาหรือปกปิดข้อความซึ่งควรต้องแจ้ง 

10.มาตรการนี้ ให้ใช้บังคับตั้งแต่บัดนี้ (24 มี.ค.63) เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคจะคลี่คลาย หรือสำนักงานศาลยุติธรรมเห็นควรกำหนดเป็นอย่างอื่น .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

เตือนไทยตอนบนฝนตกหนัก-พายุหวู่ติบ ขึ้นฝั่งจีนวันนี้

กทม. 14 มิ.ย.- กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบน มีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนลดลง ขณะที่พายุ “หวู่ติบ” ขึ้นฝั่งจีนวันนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน และประเทศลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุโซนร้อนกำลังแรง “หวู่ติบ” บริเวณอ่าวตังเกี๋ย คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีนในวันนี้ (14 มิ.ย. 68) โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางในช่วงวันดังกล่าวไว้ด้วย – สำนักข่าวไทย

แอร์อินเดียบินกลับเดลีแล้ว หลังตรวจไม่เจอระเบิด

ภูเก็ต 13 มิ.ย. – เครื่องบินแอร์อินเดีย พร้อมผู้โดยสาร 155 คน ออกจากสนามบินภูเก็ต กลับเมืองเดลีแล้ว หลังตรวจละเอียดยิบ ไม่พบระเบิดตามจดหมายขู่ สอบเครียด 3 ผู้ต้องสงสัยชาวอินเดีย แต่ต้องปล่อยไป เพราะไร้หลักฐานมัด ยันไม่กระทบการให้บริการท่าอากาศยานฯ เมื่อเวลา 09.30 น. หอบังคับการบินสนามบินภูเก็ต ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์ควบคุมการบิน บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ว่าลูกเรือสายการบิน AIR INDIA เที่ยวบินที่ AI 379 เส้นทางบิน HKT-ภูเก็ต-DEL (เดลี) ผู้โดยสารจำนวน 156 คน พบข้อความขู่วางระเบิดในแผ่นกระดาษระบุว่า ‘F… you all bomb’ วางไว้ในห้องน้ำ จากนั้นสายการบินได้ประกาศเข้าสู่แผนฉุกเฉิน ให้นักบินนำเครื่องบินมาลงที่สนามบินภูเก็ต โดยทางสนามบินภูเก็ต ได้ประกาศใช้แผนเผชิญเหตุของสนามบิน Airport Contingency Plan และดำเนินการตั้งศูนย์อำนวยการสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ EOC เพื่อควบคุมและบริหารจัดการสถานการณ์ตามแผนฯ […]

คดี “ทักษิณ” ชั้น 14 ศาลเรียกพยาน 20 ปาก-นัดไต่สวนอีก 6 นัด ก.ค.นี้

กรุงเทพฯ 13 มิ.ย. – คดี “ทักษิณ” วันนี้ ศาลเตรียมเรียกพยาน 20 ปาก พร้อมนัดไต่สวนอีก 6 นัด ช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ ถือเป็นการเริ่มกระบวนการไต่สวนเรื่องการบังคับคดีของอดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

ผู้ว่าฯ สระแก้ว ยืนยันไม่มีการปิดด่านบ้านคลองลึก

สระแก้ว 13 มิ.ย. – ผู้ว่าฯ สระแก้ว ลงพื้นที่สยบข่าวลือปิดด่านคลองลึก หลังชาวไทย-กัมพูชา ตื่นตระหนกแห่ข้ามฝั่ง จนเกิดความวุ่นวายหน้าด่าน ขณะฝั่งปอยเปตเริ่มตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เกิดความวุ่นวายขึ้นในช่วงเวลาประมาณ 12.30 น. หลังจากมีกระแสข่าวลือในกลุ่มผู้ค้าชาวกัมพูชาและชาวไทย ว่าทางการจะมีคำสั่งปิดด่านชั่วคราวในช่วงบ่าย ระหว่างเวลา 13.00-14.00 น. ทำให้ประชาชนทั้ง 2 ฝั่งเร่งรีบข้ามแดนและสอบถามข้อมูลกันอย่างจ้าละหวั่น โดยข่าวลือดังกล่าวแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว พ่อค้าแม่ค้าจำนวนมากเดินทางข้ามแดนก่อนถึงช่วงเวลาที่เข้าใจกันว่าจะปิดด่าน ทำให้บรรยากาศหน้าด่านเต็มไปด้วยความตึงเครียดและสับสน ด้านผู้ว่าฯ สระแก้ว ลงพื้นที่ชี้แจงเรื่องดังกล่าว ยืนยันไม่มีคำสั่งปิดด่าน พร้อมขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก และย้ำชัดว่าเวลาการเปิด-ปิดด่านยังคงเป็นไปตามประกาศเดิมของกองกำลังบูรพา คือเปิด 08.00-16.00 น. ทุกวัน โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือคำสั่งใหม่ ฝั่งปอยเปตเริ่มตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากไทยแหล่งข่าวด้านความมั่นคงกัมพูชา เปิดเผยว่า ฝ่ายปกครองในฝั่งปอยเปตได้ดำเนินการตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต ที่เชื่อมโยงกับฝั่งไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการควบคุมข้อมูลและสื่อสารในพื้นที่ชายแดน ฝั่งกัมพูชาปิดด่านบ้านแหลมไม่แจ้งล่วงหน้าส่วนบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เมื่อเวลา 10.45 น. เกิดความวุ่นวาย หลังฝั่งกัมพูชา มีการปิดประตูด่านฝั่ง ต.บึงรัง […]