เจ้าหน้าท่ีศาลยุติธรรมเริ่ม work from home 26 มี.ค.นี้!!!

กรุงเทพฯ 25 มี.ค. –  “เลขาฯศาลยุติธรรม” เผย จนท.ส่วนกลาง สนง.ศาลยุติธรรม work from home ป้องกันการระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 เริ่มได้ 26 มี.ค.นี้ 


นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ได้เปิดเผยถึงการทำแผน work from home ของสำนักต่างๆ ส่วนกลาง (21 หน่วย) ในสังกัดสำนักงานศาลุติธรรมว่า หลังจากเมื่อวาน (24 มี.ค.) ที่ตนได้ร่วมประชุมกับหัวหน้าหน่วยงานทั้ง 21 หน่วยถึงหลักการและแนวทางแล้ว ตนก็ได้มีหนังสือแจ้งถึงหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดสำนักงานศาลยุติธรรมดังกล่าวเพื่อทราบแนวทางที่กำหนดไว้ 10 มาตรการ 

ขณะที่ล่าสุดวันนี้ (25 มี.ค.) มีหน่วยงานหลายสำนักทยอยเสนอแผนที่จะดำเนิการมาให้ตนพิจารณาแล้ว อาทิสำนักการต่างประเทศ , กองสารนิเทศและประชาสัมพันธ์ , ศูนย์ห้องสมุด (ที่ตั้งชั้น 6 อาคารศาลอาญา) โดยลักษณะแผนต่างๆที่เสนอมานั้น เช่นการจัดงานแบ่งเป็นกลุ่ม และจัดงานให้ทำที่บ้าน อาทิมี 2 หรือ 3 ทีม สับเปลี่ยนเวรกันทำงานที่บ้าน ซึ่งต้องมีระบบรายงานการทำงานและติดตามผลงานด้วย อย่างไรก็ดีการเสนอแผนนั้นก็ต้องมีรายละเอียดระบุรูปแบบงาน-ช่วงเวลา-การจัดสรรบุคคลเพื่อการตรวจสอบได้ต่อไป ทั้งนี้คาดว่าภายในวันพรุ่งนี้ (26 มี.ค.) แต่ละหน่วยงานทยอยปฏิบัติตามแผน work from home ได้ทันที ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะทำต่อเนื่องไปจนกว่าสถานการณ์แพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จะคลี่คลายดีขึ้น


ผู้สื่อข่าวรายงาน  เกี่ยวกับแนวทางการกำหนดมาตรการ ให้เจ้าหน้าที่ศาลยุติธรรม ลูกจ้าง ทำงานนอกสถานที่ตั้งหรือการทำงานที่บ้าน ลักษณะ Work from Home ได้ชั่วคราวเป็นระยะเวลาตามที่กำหนด ช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม (ก.บ.ศ.) มีมติรับทราบในหลักการและมาตรการที่จะใช้เป็นแนวทางให้หัวหน้าหน่วยงานส่วนกลาง สำนักงานศาลยุติธรรม พิจารณานำไปใช้กำหนดมาตรการการทำงานนอกสถานที่ตั้งของแต่ละหน่วยงาน

นายสราวุธ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ได้มีหนังสือลงวันที่ 24 มี.ค.63 ถึงหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดสำนักงานศาลยุติธรรม เรื่องมาตรการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของหน่วยงาน ช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ระบุว่า เพื่อเป็นการสนับสนุนการเฝ้าระวัง และป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส รวมถึงดูแลคุณภาพชีวิตและการทำงานที่เหมาะสมให้กับข้าราชการศาลยุติธรรม , ลูกจ้าง , พนักงานราชการศาลยุติธรรมในสถานการณ์พิเศษ ที่จะไม่กระทบต่อภารกิจงานสนับสนุนการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล จึงเห็นควรกำหนดมาตรการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของหน่วยงาน ซึ่งมาตรการดังกล่าว กำหนดว่า

1.การปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของหน่วยงาน หมายถึงการปฏิบัติงานของข้าราชการศาลยุติธรรม , ลูกจ้าง , พนักงานราชการศาลยุติธรรม นอกสถานที่ทำงานตามปกติ เช่น ในพื้นที่ที่หน่วยงานจัดไว้เป็นสถานที่ทำงานร่วม หรือสถานที่พักของเจ้าหน้าที่ (ลักษณะ work from home) หรือสถานที่อื่นใดที่หน่วยงานเห็นว่าเหมาะสม 


2.ผู้อำนวยการ อาจมอบหมายการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของหน่วยงาน เป็นรายวัน/รายสัปดาห์ โดยกำหนดเป้าหมาย , ผลผลิต , ตัวชี้วัดการทำงาน , ระบบวิธีการสื่อสารติดตามการประเมินความก้าวหน้า , การรายงานผลการทำงาน หรือเรื่องอื่นที่พิจารณาเห็นว่ามีความจำเป็นต้องกำหนดตามบริบทการทำงานของหน่วยงานและตามความเหมาะสม รวมถึงให้สอดคล้องกับภารกิจสนับสนุนการพิจารณาพิพากษาคดีและงานที่เป็นความลับโดยไม่ให้เสียหายแก่งานราชการ

3.การมอบหมายปฏิบัติงานนอกสถานที่ฯ ให้ผู้อำนวยการ กำหนดจำนวนเจ้าหน้าที่ที่ต้องมาปฏิบัติงาน , สถานที่ตั้งของหน่วยงาน , วิธีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนไปปฏิบัติราชการ ณ สถานที่ตั้งของหน่วยงาน ตามความเหมาะสมโดยไม่ให้เสียหายแก่ภารกิจราชการ 

4.การลงเวลาปฏิบัติราชการสำหรับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของหน่วยงาน ให้บันทึกในหมายเหตุของบัญชีวันทำการในระบบว่า “ปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งวันที่ … ” โดยส่วนของผู้มาปฏิบัติงานตามปกติ ก็ให้ลงเวลาผ่านระบบบันทึกเวลาการมาปฏิบัติราชการตามปกติ

5.การปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งฯ ตามมาตรการนี้ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ราชการ และผู้ปฏิบัติงานมีสิทธิได้รับเงินเดือน , ค่าตอบแทน , ค่าตอบแทนพิเศษ หรือเงินอื่นใดที่จ่ายเพื่อตอบแทนการปฏิบัติหน้าที่ราชการตามกฎหมาย 

6.ช่วงระหว่างการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งฯ ให้ผู้บังคับบัญชา กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน มีการติดต่อสื่อสารระหว่างกันโดยใช้เทคโนโลยีสนับสนุนในการทำงาน เช่น รายงานความก้าวหน้าของงานทุกวันผ่านทาง E-mail หรือแอพ Line เป็นต้น โดยให้ถือเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้วย ที่ต้องให้ผู้บังคับบัญชาสามารถติดต่อผ่านทางโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้โดยเร็วตลอดช่วงเวลาที่ปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของหน่วยงาน 

7.กรณีมีเหตุจำเป็น หรืออาจเกิดความเสียหายแก่ภารกิจราชการ ผู้อำนวยการอาจเรียกให้ผู้ที่ปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งฯ กลับมาปฏิบัติงาน ณ สถานที่ตั้งของหน่วยงานก่อนครบกำหนดได้ 

8.กรณีผู้ที่ปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งฯ ประสงค์จะลาเช่น ลาป่วย , ลากิจ , ลาพักผ่อน ให้เสนอใบลา ผ่านผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ อาทิ E-mail หรือแอพ Line เป็นต้น

9.การไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้อำนวยการที่กำหนดตามมาตรการนี้ หรือปกปิดข้อมูลอันมีเหตุอันควรสงสัยว่าตนมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยไม่แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ถือเป็นการกระทำความผิดวินัยฐานขัดขืนหรือหลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาหรือปกปิดข้อความซึ่งควรต้องแจ้ง 

10.มาตรการนี้ ให้ใช้บังคับตั้งแต่บัดนี้ (24 มี.ค.63) เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคจะคลี่คลาย หรือสำนักงานศาลยุติธรรมเห็นควรกำหนดเป็นอย่างอื่น .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบเจ้าบ่าวลอบขนยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด

ปราจีนบุรี 17 พ.ค. – ตำรวจสกัดจับพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก กระสุนปืน 10 นัด รถกระบะ 1 คัน นาทีเจ้าหน้าที่สกัดจับนายธนธรรม หรือ เม่น เจ้าบ่าวซึ่งเพิ่งผ่านพิธีแต่งงานไปไม่นาน และเป็นหนึ่งในแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ โดยจับกุมได้บริเวณถนนบ้านหนองหอย อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด, อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก, กระสุนปืน 10 นัด และรถกระบะ 1 คัน ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เผยขบวนการนี้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากริมแม่น้ำโขง จ.อำนาจเจริญ มาซุกซ่อนไว้ที่บ้านในปราจีนบุรี เพื่อเตรียมกระจายไปยังพื้นที่ปทุมธานี เจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวจนพบว่าจะมีการเดินทางไปยัง จ.อุบลราชธานี เพื่อรับยาเสพติด กระทั่งกลุ่มผู้ต้องหารู้ตัวว่าถูกสะกดรอย จึงเร่งความเร็วรถหลบหนี ก่อนพุ่งชนรถเจ้าหน้าที่ และถูกสกัดจับไว้ได้ ขณะที่รถยนต์ 2 […]

ไรเดอร์ชกเบ้าตาแตก ฉุนเมาปักหมุดมั่วแถมลวนลาม

พัทยา 17 พ.ค.- ไรเดอร์ฉุน ชกนักท่องเที่ยวชาวอินเดียจนเบ้าตาแตก พยานบอกผู้ก่อเหตุฉุนปักหมุดผิดทำขี่วนหลายรอบ แถมถูกลวนลามจึงทนไม่ไหว นักท่องเที่ยวชาวอินเดีย อายุประมาณ 35-40 ปี นอนบาดเจ็บ คิ้วซ้ายและเบ้าตาซ้ายแตกเลือดอาบหน้าอยู่ในอาการมึนเมา เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงประมาณตี 1 วันนี้ ในซอยเทพประสิทธิ์ 17 เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ส่วนผู้ก่อเหตุหลบหนีไปก่อนเจ้าหน้าที่จะมาถึง แต่พลเมืองดีบันทึกภาพไว้ได้ จึงมอบให้ตำรวจเป็นหลักฐาน สอบถามพนักงานรักษาความปลอดภัยของคอนโดฯ แห่งหนึ่งใกล้จุดเกิดเหตุ ให้ข้อมูลว่าผู้ก่อเหตุเป็นไรเดอร์ส่งผู้โดยสาร และเล่าให้ตนฟังว่านักท่องเที่ยวคนนี้มึนเมาอย่างหนัก แถมปักหมุดสถานที่ส่งผิดที่ ผู้ก่อเหตุก็พยายามวนหาอยู่หลายครั้ง เท่านั้นยังไม่พอ ผู้บาดเจ็บได้ลวนลามผู้ก่อเหตุ จนผู้ก่อเหตุโมโหและจอดรถชกหน้าทันที ทั้งนี้ ผู้บาดเจ็บจะเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองพัทยา หลังรักษาอาการบาดเจ็บแล้ว .-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” นำค้นวัดไร่ขิง 3 จุด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด

นครปฐม 16 พ.ค.-“บิ๊กเต่า” นำกำลังตำรวจกองปราบบุกค้นวัดไร่ขิง 3 จุด หาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอี่ยวคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน พร้อมนำหมายค้นบ้านประชาชน 1 จุด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด เวลา 07.00 น. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจค้นภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง มีทั้งหมด 3 จุด และบริเวณโดยรอบอีก 1 จุด ซึ่งจุดแรกในวัดไร่ขิงคือกุฏิของพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและเจ้าคณะภาค 14 โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฎิ พร้อมสังเกตการณ์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ได้ให้ตำรวจอ่านหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องในการพิจารณาความผิด ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการอ่านหมายค้น ว่า วันนี้เป็นการตรวจค้นเกี่ยวกับเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องมีการเรียกสอบรายบุคคลพร้อมกับการตรวจค้น โดยหลักๆ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

ข่าวแนะนำ

อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง นอนคุกคืนแรกเครียด ไม่กินมื้อเย็น

กรมราชทัณฑ์ 18 พ.ค. – อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง นอนคุกคืนแรกเครียด ไม่กินมื้อเย็น ส่วน “เปรมชัย” กักโรคอยู่แดนพยาบาลเรือนจำ ภายหลังวานนี้ (17 พ.ค.) พนักงานสอบสวนนำตัว 3 ผู้ต้องหา คดียักยอกเงินวัดไร่ขิง ได้แก่ นายแย้ม อินทร์กรุงเก่า หรือ อดีตพระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง นายเอกพจน์ ภูฆัง หรือ อดีตพระมหาเอกพจน์ ภูฆัง พระลูกวัดคนสนิทของอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และ น.ส.อรัญญาวรรณ วังทะพันธ์ โบรกเกอร์เว็บพนันออนไลน์ ฝากขังศาลครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน และส่งตัวไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทัณฑสถานหญิงกลาง นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้ออกหมายขังระหว่างสอบสวน ให้ขัง น.ส.อรัญญาวรรณ วังทะพันธ์ ที่ทัณฑสถานหญิงกลางโดยได้ดำเนินการรับตัวและนำตัวกักโรคโควิด-19 ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อในแดนระหว่างพิจารณาคดี เบื้องต้นตรวจสุขภาพร่างกายปกติ […]

ฝนตกหนักบนดอยสุเทพ น้ำหลากท่วมชุมชนเขตเทศบาลเชียงใหม่

เชียงใหม่ 18 พ.ค.-ฝนตกหนักบนดอยสุเทพ และในตัวเมืองเชียงใหม่ นานนับชั่วโมง ทำให้น้ำป่าไหลหลากลงมาตามลำห้วย และเอ่อล้นท่อระบายน้ำ ท่วมขังชุมชนศรีปิงเมือง ชุมชนกาดก้อม ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ชาวบ้านส่วนใหญ่ยังกังวล กลัวจะเหมือนปีที่ผ่านมา ประชาชนได้รับผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง ทำให้รถเล็ก ที่จะผ่านเส้นทางบริเวณดังกล่าว ผ่านลำบาก รถจักรยานยนต์ เครื่องยนต์ดับหลายคัน ระดับน้ำสูง 30 เซนติเมตร ขณะที่ชาวบ้านขอความร่วมมือผู้ที่ขับรถยนต์ผ่านเส้นทางเข้าในชุมชน ขอให้ชะลอความเร็ว เนื่องจากเกิดคลื่นน้ำ ทะลักเข้าไปในบ้าน ทรัพย์สินจะเสียหาย หากเป็นไปได้ ให้หลีกเลี่ยงเส้นทาง ไปใช้เส้นทางอื่นแทน ขณะนี้ระดับน้ำยังคงสูงขึ้น เนื่องจากฝนยังไม่หยุดตก ทำให้การสัญจรบางเส้นทางลำบาก นอกจากนั้นยังมีน้ำท่วมขังถนนอีกหลายสาย รอการระบาย ทำให้มีประชาชนติดค้างตามร้านค้าร้านอาหารข้างทางเพื่อหลบฝน ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาและเร่งระบายน้ำ หลังจากนั้นประมาณ 2-3 ชั่วโมง ระดับน้ำน่าจะลดลง ล่าสุดเช้าวันนี้ ระดับน้ำลดลงเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว บางจุดยังมีน้ำขังบนถนนเล็กน้อย ถนนตามชุมชนมีแต่ขยะและถุงขยะลอยมากับน้ำท่วม ทำให้รถขยะของเทศบาลนครเชียงใหม่ เร่งเก็บเศษขยะและถุงขยะ อย่างไรก็ตามประชาชนส่วนใหญ่ยังกังวลเกี่ยวกับเรื่องน้ำท่วม กลัวจะเหมือนปีที่ผ่านมา ขณะที่ผู้รับเหมาดูดตะกอนดินทรายในแม่น้ำปิง ได้นำเรือดูดทรายลำแรกจากจังหวัดอ่างทอง มาถึง ลงในน้ำปิง ตรงข้ามกับสำนักงานแขวงนครพิงค์ ย่านวังสิงห์คำ ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ […]

รวบแม่บ้านควบตำแหน่งกรรมการบริษัท เลี่ยงภาษีกว่า 180 ล้าน

กทม. 18 พ.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง รวบแม่บ้านควบตำแหน่งกรรมการบริษัทชิปปิ้ง เลี่ยงภาษีกว่า 180 ล้านบาท พบก่อเหตุคล้ายกันในบริษัทฯ อีก 2 แห่ง รวมรัฐเสียหายกว่า 430 ล้านบาท ตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) นำเจ้าหน้าเข้าจับกุม นางสมบุญ อายุ 54 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1051/2568 ลงวันที่ 18 กุมภาพันธ์2568 ในความผิดฐาน “ร่วมกันเจตนาหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงภาษีมูลค่าเพิ่มกระทำการใดๆ โดยความเท็จ โดยฉ้อโกงหรืออุบาย หรือโดยวิธีการอื่นใดทำนองเดียวกัน ที่ลานจอดรถหน้าอพาร์ทเมนต์ พื้นที่ ม.2 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พฤติการณ์ ของ น.ส.สมบุญ ผู้ต้องหา ตรวจสอบพบว่า เป็นหนึ่งในกรรมการ บริษัท แห่งหนึ่งประกอบกิจการเป็นตัวแทนนำเข้าสินค้าและดำเนินพิธีการศุลกากรเพื่อนำสินค้าออกจากท่าเรือ แต่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบว่าบริษัทฯดังกล่าวมีพฤติการณ์ปิดบังซ่อนเร้นที่มาของรายได้ รวมถึงค่าใช้จ่ายของบริษัทฯ โดย บริษัทมักจะไม่มีการออกใบกำกับภาษีขายและใบเสร็จรับเงินสำหรับค่าบริการให้แก่ลูกค้าแต่อย่างใด และการจ่ายเงินค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างของบริษัทฯ มักจะจ่ายเป็นเงินสดให้ลูกจ้างเป็นรายสัปดาห์ […]

ตำรวจเร่งตรวจสอบบัญชีธนาคารวัดไร่ขิง กว่า 20 บัญชี

กทม. 18 พ.ค.-ตำรวจเร่งตรวจสอบบัญชีธนาคารวัดไร่ขิง กว่า 20 บัญชี หาความเชื่อมโยงการยักยอกเงินของอดีตเจ้าอาวาส เบื้องต้นพบมีอีก 7 บัญชี ที่ใช้กล่าวหาการกระทำความผิด เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบและสอบปากคำพยาน เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด คดียักยอกเงินวัดไร่ขิง วันนี้ (18 พ.ค.68) พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ให้ข้อมูลว่า ทางพนักงานสอบสวนยังคงเดินหน้ารวบรวมพยานหลักฐานเส้นทางการเงิน สอบปากคำพยานและผู้ที่เกี่ยวข้องกับบัญชีวัดไร่ขิง จำนวนหลายบัญชีทยอยเข้ามาสอบปากคำ โดยตั้งศูนย์ปฏิบัติงานที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน จากข้อมูลการสอบสวนปัจจุบัน พบความเชื่อมโยงเส้นทางการเงินระหว่างนายแย้ม กับ นางสาวอรัญญาวรรณหลายช่องทาง ช่วงปี 2563 ถึง ปี 2567 รวมเป็นเงินกว่า 300 ล้านบาท -แยกออกเป็นบัญชีส่วนตัวของอดีตพระแย้ม โอนเงินให้นางสาวอรัญญาวรรณในช่วงปี 2566 รวมกัน 80 ล้านบาท-ใช้บัญชีของอดีตพระเอกพจน์ หรือนายเอกพจน์ โอนเงิน และตระเวณนำเงินสดไปฝากตู้ธนาคารต่าง ๆ ให้นางสาวอรัญญาวรรณ หลายรายการรวมแล้วกว่า 200 ล้านบาท-และพบว่ามีชื่อบัญชีบุคคลอีก 1 บัญชี โอนเงินให้ นางสาวอรัญญาวรรณ […]