เร่งสางคดีหนุ่ม 44 ปี นั่งดื่มเหล้าคนเดียว ถูก M16 ยิงถล่มดับ

ตรัง 24 มี.ค.- กรณีเกิดเหตุการณ์หนุ่มวัย 44 ปี นั่งดื่มเหล้าขาวเพียงลำพังในบ้านเช่า แต่เปิดเพลงเสียงดัง จนทำให้มีบุคคลปริศนายิงถล่มด้วยปืน M16 จนเสียชีวิต จนถึงขณะนี้ตำรวจยังดำเนินคดีใครไม่ได้ แม้มีการเชิญทหารนายหนึ่งที่บ้านอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุเข้าให้ปากคำ


เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมชุดสืบสวนฯ เข้าเก็บหลักฐานเพิ่มเติมที่บ้านเช่าหลังหนึ่งในหมู่ 1 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมืองตรัง หลังจากเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธปืน M16 ยิงถล่มนายสุธน แซ่ฮ่อง อายุ 44 ปี คนงานรับจ้างที่โรงงานแห่งหนึ่งรวม 6 นัดซ้อน เสียชีวิตคาที่ ซึ่งตำรวจตั้งปมสันนิษฐานว่า อาจเป็นเพราะผู้ตายชอบดื่มสุราและเปิดเพลงร้องคาราโอเกะเสียงดังเพียงลำพัง ทำให้ชาวบ้านละแวกใกล้เคียงรำคาญจึงยิงถล่ม


ขณะที่หลังเกิดเหตุ ชุดสืบสวนเชิญบุคคลต้องสงสัยเป็นทหารสังกัดหน่วยงานความมั่นคงแห่งหนึ่ง และมีบ้านห่างจากหลังที่ถูกยิงถล่มประมาณ 50 เมตร ไปสอบปากคำที่บ้านพักของกำนันตำบลบ้านโพธิ์ ซึ่งเป็นท้องที่จุดเกิดเหตุตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยเจ้าตัวแสดงความบริสุทธิ์ใจให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แต่ปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้าไปเก็บลายนิ้วมือ, ตรวจหาคราบเขม่าดินปืนจากมือและเสื้อผ้าไว้แล้ว


ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรังให้ข้อมูลว่า กำลังเร่งรวบรวมหลักฐานทั้งหมดในที่เกิดเหตุ โดยเฉพาะวิถีกระสุน ส่วนประเด็นสังหารยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจน แต่จากการตรวจสอบผู้ตายไม่ใช่คนเกเร ไม่เคยต้องคดี แต่ชอบเปิดเพลงเสียงดังและตำรวจเคยมาตักเตือนหลายครั้ง และผู้การฯ ยืนยันว่า ไม่หนักใจทำคดี แต่ต้องใช้เวลา

ส่วนที่วัดน้ำผุด อ.เมืองตรัง ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลนายสุธน พบว่าญาติจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์อย่างกว้างขวาง โดยแต่ละคนต่างมึนงงกับเหตุการณ์ เพราะผู้ตายไม่เคยขัดแย้งกับใครจนถึงขั้นกลายเป็นชนวนเหตุให้ถูกยิงถล่ม แต่ยอมรับว่าเป็นคนที่ชอบดื่มสุราและฟังเพลงเสียงดัง จึงอยากให้ตำรวจคลี่คลายคดีอย่างตรงไปตรงมา

ล่าสุด พล.ต.ต.โชติ ชัยชมภู รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมเร่งรัดคดี พร้อมวิเคราะห์ข้อขัดแย้งต่างๆ เพื่อสรุปข้อมูล ขณะที่ล่าสุดเจ้าหน้าที่พบกระสุนในที่เกิดเหตุ 4 นัด เป็นขนาด 5.56 นาโต ซึ่งใช้ได้กับ M16 และ HK โดยจากพยานหลักฐานที่ได้มา ถือว่าคดีมีความคืบหน้า

ส่วนบ้านของผู้ต้องสงสัยนั้นมีอาณาเขตกว้างขวาง และมีบ้านหลายหลังในรั้วเดียวกัน แต่ยอมรับว่ายังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุ ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้เชิญตัวทหารเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวมาให้ปากคำเพิ่มเติม และเจ้าตัวยังให้การว่า ไม่รู้เห็นเหตุการณ์ หลังจากนี้ชุดสืบสวนฯ เตรียมหากล้องวงจรปิดมาตรวจสอบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อขอให้ติดคุกจริง

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่น

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่นคนอายุ 60+ ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ว

“จิรายุ” ย้ำเงินหมื่นเฟส 2 มอบคนอายุ 60+ รัฐบาลพร้อมโอนไม่มีเปลี่ยนแปลงแล้ววันจันทร์ที่ 27 ม.ค.นี้แน่นอน สามารถตรวจสอบสิทธิ์ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ววันนี้ ส่วนคนไม่มีสมาร์ทโฟนฝากลูกหลานช่วยด้วย

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือนายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในไทยจำนวนมาก

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข