ยะลาพบผู้ป่วย “โควิด-19” วันเดียว 17 คน

กทม./ภูมิภาค 24 มี.ค. – ผู้ว่าฯ ยะลา แถลงพบผู้ป่วยติดเชื้อ “โควิด-19” วันเดียว 17 คน ทั้งหมดเดินทางไปร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ประเทศมาเลเซีย ส่วน จ.สระแก้ว พบผู้ป่วย “โควิด-19” 2 รายแรกของจังหวัด ด้าน จ.บุรีรัมย์ ยืนยันพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 4 คน รวมสะสม 5 คน

กระทรวงสาธารณสุขแถลงพบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มเติมอีก 122 คน ทำให้ยอดรวมสะสมอยู่ที่ 721 คน พร้อมแนะหากคนไทยเพิกเฉยไม่ร่วมควบคุมโรค หรือไม่มีระยะห่างระหว่างกัน อาจทำให้ตัวเลขผู้ป่วยสูงเท่ากับอิตาลี ขณะที่จังหวัดยะลา พบผู้ป่วยโควิด-19 วันเดียว 17 คน

กระทรวงสาธารณสุขแถลงสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันว่าพบผู้ป่วยเพิ่มเติมจากเดิม 122 คน ทำให้ยอดรวมสะสมอยู่ที่ 721 คน ภาพรวมรักษาหายกลับบ้านได้แล้ว 52 คน เหลือรักษาตัวในโรงพยาบาล 668 คน โดยในจำนวนนี้มีผู้ป่วยอาการหนัก 7 คน สำหรับผู้ป่วยขณะนี้เป็นกลุ่มวัยทำงาน และเป็นชายมากกว่าหญิง อายุระหว่าง 30-39 ปี รองลงมาคือ 20-29 ปี พร้อมแสดงความเห็นห่วงประชาชนที่แห่เดินทางกลับต่างจังหวัด ให้ช่วยเฝ้าระวังโรคเป็นระยะเวลา 14 วัน เพื่อความปลอดภัย และป้องกันการแพร่เชื้อไปสู่คนใกล้ชิด


สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ที่พบเป็นกลุ่มผู้ป่วยเดิมที่มีการติดตามไว้ในกลุ่มสนามมวย 4 คน เป็นทั้งพี่เลี้ยง นักมวย และกลุ่มผู้ชม อยู่ในพื้นที่นนทบุรี นครปฐม และอุบลราชธานี กลุ่มผู้สัมผัสใกล้ชิดกับกลุ่มสนามมวยที่ป่วยไปก่อนหน้านี้ 16 คน

นอกจากนี้กลุ่มผู้ป่วยรายใหม่ยังมีกลุ่มที่กลับมาจากต่างประเทศ รวมถึงกลุ่มที่ทำงานใกล้ชิดกับผู้คนและชาวต่างชาติ อาทิ คนส่งของ นักเรียน พนักงานนวด คนขับรถ ดีเจ และชาวต่างชาติรวมอยู่ด้วย ทั้งเยอรมนี และฝรั่งเศส อีก 10 คน ส่วนอีก 92 คน เป็นกลุ่มที่ตรวจพบเชื้อระหว่างที่สอบสวนโรค เพราะใกล้ชิดกับผู้ที่ติดเชื้อก่อนหน้านี้

ด้านนายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ตัวเลขผู้ป่วยเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด เนื่องจากเปลี่ยนวิธีการตรวจยืนยันในห้องปฏิบัติการใหม่ จากต้องรอยืนยัน 2 แล็บ เป็นเหลือแล็บเดียว เพื่อความรวดเร็ว โดยสถานการณ์ในวันนี้อยากให้ประชาชนเข้าใจว่าการแจ้งเตือนให้มีระยะห่าง 1-2 เมตร เพื่อไม่ให้ต้องเผชิญสถานการณ์เหมือนอิตาลีและอิหร่าน หากมีระยะห่างที่เหมาะสม ไม่เคลื่อนย้ายไปแพร่โรคสู่ผู้อื่น สถานการณ์ของไทยจะเหมือนกับญี่ปุ่นและสิงคโปร์ พร้อมแสดงความเห็นห่วงกรณีประชาชนกลับภูมิลำเนาต่างจังหวัด เพราะผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการอาจเสี่ยงเป็นผู้แพร่เชื้อ


ขณะที่ตัวเลขของไทย หลังจากนี้จะเหมือนกับประเทศอื่นที่ยอดจะเพิ่มขึ้นหลัก 100 คนต่อวัน และหลังจากนี้จะยังเพิ่มสูงขึ้นไปอีกระยะ แต่หากไม่ช่วยกันป้องกันอาจมีผู้ป่วยมากถึง 10,000 คน ภายใน 1-2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม กระทรวงมีการสำรองเตียง 10,000 เตียง ไว้รองรับผู้ป่วยอาการไม่รุนแรง และผู้ป่วยหนัก 2,000-3,000 คน ซึ่งการดูแลผู้ป่วยนั้น กระทรวงสาธารณสุขพยายามสื่อสารส่งสัญญาณ เตือนและห้ามการเดินทาง รวมถึงลดการสัมผัสใกล้ชิดเพื่อไม่ให้โรครุนแรง หรือพบผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น หากมีจำนวนมาก การบริการสาธารณสุขอาจดูแลไม่ทั่วถึงเหมือนอิตาลี และสหรัฐอเมริกา พร้อมกันนี้ยืนยันว่าโรคโควิด-19 พบผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงในอายุ 70-80 ปี และยืนยันว่าการติดเชื้อในอิตาลี ไม่ได้รุนแรงกว่าเชื้อในประเทศอื่นๆ

สำหรับภาพรวมสถานการณ์โควิด-19 ของไทย หากดูจากกราฟตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา พบว่าช่วงแรกๆ จนถึงประมาณกลางเดือน พบว่าสถานการณ์ทรงตัว มีผู้ป่วยสะสมยังไม่ถึง 100 คน แต่หลังจากวันที่ 14 มีนาคมเป็นต้นมา ปรากฏว่าพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด โฟกัสเฉพาะวันที่ 14-17 มีนาคม มีผู้ป่วยเฉลี่ยรายวันประมาณ 30-35 คน ส่วนยอดรวมพุ่งไปที่ 212 คน จากนั้นวันที่ 18 มีนาคม มียอดป่วยเพิ่ม 60 คน และยอดพุ่งอย่างรวดเร็วในวันที่ 21 มีนาคม ที่วันเดียวพบผู้ป่วย 188 คน และยอดรวมทะลุ 599 คน จนกระทั่งปัจจุบันมียอดรวมผู้ป่วย 721 คน

ส่วนกรณีคนไทยที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ สำหรับผู้ที่มาจากเขตโรคติดต่ออันตราย 4 ประเทศ 2 เขตปกครองพิเศษ ต้องกักตัวอยู่ในที่พำนัก 14 วันทุกคน และห้ามออกจากสถานที่เด็ดขาด ส่วนผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ระบาดต่อเนื่อง 29 ประเทศ ตามที่องค์การอนามัยโลกรายงาน จะต้องถูกสังเกตอาการในที่พัก 14 วัน อย่างไรก็ตาม การเดินทางกลับเข้าไทยหลังจากนี้จะต้องมีเอกสารรับรองแพทย์ รวมถึงต้องมีหนังสือรับรองการเดินทางจากสถานทูต

ล่าสุดเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (23 มี.ค.) นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา แถลงสถานการณ์โควิด-19 ว่าพบผู้ป่วยติดเชื้อ 17 คน แบ่งเป็นจากอำเภอบันนังสตา 9 คน, เมืองยะลา 4 คน, รามัน 3 คน และธารโต 1 คน โดยมีผู้ต้องคัดกรองเพราะสงสัยติดเชื้ออีก 25 คน และมีผู้สัมผัสใกล้ชิดกับกลุ่มผู้ติดเชื้อ 239 คน โดยทั้งหมดได้เดินทางไปร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่มัสยิดศรีเปตาลิง กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ขณะนี้ได้มีการคัดกรองผู้ใกล้ชิดคนอื่นๆ อย่างเข้มข้น

ส่วนที่บุรีรัมย์ นายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ยืนยันพบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมอีก 4 คน รวมสะสม 5 คน โดยเป็นชายชาวต่างชาติ วัย 69 ปี 1 คน ส่วนอีก 4 คน เป็นเพศหญิง อายุระหว่าง 33-34 ปี ซึ่งที่บุรีรัมย์มีมาตรการปิดห้างสรรพสินค้า ยกเว้นซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านขายยา และสินค้าเบ็ดเตล็ดที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต สำหรับผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง รวมถึงกรุงเทพฯ ให้กักตัวอยู่บ้านเป็นเวลา 14 วัน หากฝ่าฝืนจะดำเนินคดีตามกฎหมาย

ที่สระแก้ว มีการแถลงยืนยันว่าพบผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 2 รายแรกของจังหวัด เป็นเพศชาย อายุ 29 ปี ชาวสมุทรปราการ และเพศหญิง อายุ 27 ปี ชาวสระแก้ว จากการสอบสวนโรคพบว่ารายแรกเป็นนักท่องเที่ยวที่ไปสถานบันเทิงในฝั่งปอยเปต ส่วนรายที่ 2 ไม่แสดงอาการ แต่มีประวัติเสี่ยงสูงที่จะสัมผัสผู้ป่วย จึงเข้ารับการตรวจและพบว่ามีเชื้อ ส่วนการติดตามสอบสวนโรคผู้ใกล้ชิด 6 คน ไม่พบเชื้อ แต่ต้องกักตัว 14 วัน ส่วนผู้ใกล้ชิดเสี่ยงสูง 6 คน กำลังรอผล

ที่เชียงใหม่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ แถลงยืนยันพบผู้ป่วยเพิ่มเติมอีก 1 คน ซึ่งเป็นกลุ่มครอบครัวของผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ทำให้ยอดรวมสะสมทะลุ 13 คน ในจำนวนนี้รักษาหายแล้ว 1 คน ส่วนใหญ่อาการทรงตัว และมีผู้เข้าข่ายเฝ้าระวังเหลือ 105 คน

เช่นเดียกับที่เพชรบุรี ล่าสุดนายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัด ยืนยันว่ามีผู้ติดเชื้อโควิด-19 แล้ว 1 คน เป็นชายไทยวัย 23 ปี ทำงานที่ศูนย์การค้าแห่งหนึ่งในอำเภอชะอำ ซึ่งมีภรรยาเป็นชาวลาว ทำงานในกาสิโนในกัมพูชา จากการสอบสวนโรคพบว่าภรรยาของชายไทยรายนี้ป่วยโควิด-19 และรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในอำเภอหัวหิน ขณะที่ชายคนดังกล่าวมีอาการป่วย จึงไปตรวจหาเชื้อ แต่ปกปิดข้อมูลเรื่องที่ภรรยาทำงานในกาสิโนที่กัมพูชา

ที่สงขลา แม้มีการปิดชายแดนไทย-มาเลเซีย ห้ามบุคคลทุกสัญชาติเข้า-ออก แต่ล่าสุดนายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัด แถลงยืนยันว่ามีผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มเติม 1 คน รวมสะสม 6 คน โดยทั้งหมดเป็นผู้ที่เดินทางกลับมาจากไปร่วมกิจกรรมทางศาสนาในมาเลเซีย ขณะที่มีผู้เข้าเกณฑ์เฝ้าระวัง 210 ราย แต่ตรวจไม่พบเชื้อ 190 ราย แต่ยังรอผลตรวจยืนยันรอบที่ 2 จากส่วนกลาง 12 ราย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

รวมพลัง 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

15 ก.ค. – กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย องค์การทางศาสนาทั้ง 15 องค์การ จาก 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวมทั้งหน่วยงานเครือข่าย มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้ประกอบพิธีทางศาสนา ผู้นำทางศาสนา ศาสนิกชน เครือข่ายสถานศึกษา ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม รวมกว่า 1,000 คน ร่วมพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม จัดขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีและสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า กิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล […]

“ปราสาทตาเมือนธม” วุ่น ทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย กรูเข้าฝั่งไทย

กทม. 15 ก.ค.-ทบ.อยู่ระหว่างตรวจสอบปมความวุ่นวาย “ปราสาทตาเมือนธม” หลังมีข่าวทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย กรูเข้าฝั่งไทย ด้าน มทภ.2 ยันสถานการณ์ปกติ อย่าตื่นตระหนก 15 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูล หลังเกิดเหตุความไม่เรียบร้อยที่ปราสาทตาเมือนธม ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ จากกรณีหญิงชาวกัมพูชา ตะโกนใส่ทหารไทยว่าล้ำเส้นเข้าไปในเขตประเทศกัมพูชา และมีการทะเลาะกันเสียงดัง ทำให้ทหารไทยและทหารกัมพูชาที่อยู่ในจุดนั้นต้องเข้ามาห้าม แต่เหตุการณ์ลุกลาม ทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย วิ่งเข้ามาในบริเวณฝั่งไทย ตรงบันไดทางขึ้นปราสาทตาเมือนธม ทางด้านทหารไทยก็ได้เข้าไปอยู่ในจุดดังกล่าวด้วย โดยสถานการณ์มีการผลักอกกัน ตะโกนโวยวาย ล่าสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 แจงว่า ปราสาทตาเมือนธม เหตุการณ์ปกติ ไม่มีอะไร ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตกใจ.-313.-สำนักข่าวไทย

จับแล้ว! สีกากอล์ฟ เตรียมนำตัวเข้า บก.ปปป. ขยายผล

นนทบุรี 15 ก.ค. – จับแล้ว! สีกากอล์ฟ เตรียมนำตัวเข้า บก.ปปป. ขยายผลหาผู้เกี่ยวข้อง พร้อมตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นำกำลังเข้าจับกุม สีกากอล์ฟ อายุ 35 ปี ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบกลาง ในข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ม.147, ร่วมกันฟอกเงิน สมคบกันฟอกเงิน, รับของโจร ภายในบ้านพักหมู่บ้านหรู ย่านนนทบุรี หลังพบเส้นทางการเงินของอดีตพระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โอนเงินเข้าบัญชีสีกากอล์ฟ 3.8 แสนบาท ซึ่งบัญชีโอนเข้าเป็นเงินบัญชีของวัดชูจิตธรรมาราม ขณะนี้ควบคุมตัวสีกากอล์ฟ เข้ากองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ทำการสอบปากคำด้วยตัวเอง ทั้งนี้ มีรายงานว่า พนักงานสอบสวน บก.ปปป. พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมขยายผลไปยังผู้ที่มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ โดยจะมีการตรวจสอบคลิปทุกคลิป […]

ยอมสึกแล้ว “เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร” เซ่นปมฉาวพัวพันสีกากอล์ฟ

15 ก.ค. – ยอมสึกแล้ว! พระเทพวัชรสิทธิเมธี เซ่นปมฉาวพัวพันสีกากอล์ฟ หลังมีแชตหลุดคุยหวานสีกา แถมย้ำอย่าให้ภาพหลุด ขณะที่เช้านี้ไร้เงาเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร ล่าสุดมีหนังสือลาออกของพระเทพวัชรสิทธิเมธี จากการเป็นเจ้าคณะจังหวัดพิจิตรและเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง ส่วนสีกากอล์ฟ มีข่าวจะเข้าให้ปากคำกับ ปปป.เพิ่มอีก กรณีเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร หรือเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง ยืนยันไม่สึก เพราะไม่เคยมีสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ แต่ไม่ทันข้ามวันมีแชตหลุดคุยหวานสีกากอล์ฟ แถมย้ำอย่าให้ภาพหลุด วันนี้นักข่าวไปที่วัด ปรากฏ “พระล่องหน” ส่วนสีกากอล์ฟมีข่าวจะเข้าให้ปากคำกับ ปปป. เพิ่มเติม เสียงการให้สัมภาษณ์ของ พระเทพวัชรสิทธิเมธี เจ้าอาวาสวัดท่าหลวง และเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร ที่เมื่อวานนี้ (14 ก.ค.) ออกมายืนยันยังทำกิจของสงฆ์ต่อเนื่อง รอพระผู้ใหญ่และตำรวจเรียกไปให้ปากคำ เพราะมั่นใจว่าสามารถตอบได้ทุกคำถามที่โยงไปถึงสีกากอล์ฟ มั่นใจในความบริสุทธิ์ของตัวเอง ไม่คิดสึกจากความเป็นพระ ปรากฏว่าช่วงบ่ายๆ มีแชตหลุดของพระเทพวัชรสิทธิเมธีหลุดออกมา ในแชตเป็นการคุยโต้ตอบกับสีกากอล์ฟ และท่านสวมใส่เสื้อยืด ไม่ใช่จีวรพระ โดยการพูดคุยเริ่มจากบอกว่า “ทำอะไรก็คิดถึงตลอด” แล้วตามมาด้วยข้อความว่า “ภาพนี้อย่าให้หลุดนะ เดี๋ยวเป็นเรื่อง” ส่วนสีกากอล์ฟก็ตอบไปคำเดียวว่า “ค่ะ” เช้านี้ไร้เงา “พระเทพวัชรสิทธิเมธี”วันนี้ (15 ก.ค.) นักข่าวไปหาพระเทพวัชรสิทธิเมธี […]