แมกโนเลียไอคอนสยาม23 มี.ค.. “เภสัชกรนางสาวไทยจับมือ สาวนักเดินทาง ทำโครงการระดมทุนและรับบริจาคเพื่อธนาคารหน้ากาก (Mask Bank Crowdfunding & Donation Campaign)เป้าหมายผลิต 40ล้านชิ้น 100ล้านบาท ซื้อเพื่อใช้งานเองและเพื่อการบริจาคให้หน่วยงาน สาธารณสุข โรงเรียน และองค์กรการกุศลต่างๆในสัดส่วน 1:1
เภสัชกรหญิง สิรีธร ลีห์อร่ามวัฒน์ (บิ๊นท์) นางสาวไทยปีพ.ศ. 2562 และ Miss International 2019 และนางสาว ปรางพิสุทธิ์ แดงเดช (ฟ้า) นักเดินทางเจ้าของรายการท่องเที่ยว The Passion Thailand ผู้ร่วมก่อตั้งโครงการฯ ร่วมกันเปิดเผยว่า โครงการธนาคารหน้ากาก เป็นโครงการระดมทุน (Crowdfunding) และรับบริจาค (Donation) โดยประชาชนสามารถจองซื้อหน้ากากอนามัยได้ในราคาชิ้นละ 2.50 บาทไม่จำกัดจำนวน ซึ่งการจอง ซื้อหน้ากากอนามัยจากทางโครงการฯ จะเป็นการซื้อเพื่อใช้งานเองและเพื่อการบริจาคให้หน่วยงาน สาธารณสุข โรงเรียน และองค์กรการกุศลต่างๆตามที่ผู้ซื้อประสงค์ ในสัดส่วน 1:1 (ซื้อใช้เอง 1 ชิ้น : บริจาค 1 ชิ้น) เพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาการขาดแคลนหน้ากากและสร้างสังคมแห่งการแบ่งปัน ร่วมกัน ต้านวิกฤตโควิด-19ที่มีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้น และคาดว่าปัญหาการขาดแคลนหน้ากาก อนามัยจะทวีความรุนแรงตามไปด้วย การสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันตัวเอง จะยิ่งมีความจำเป็นมากขึ้น
การแก้ปัญหาแบบ Startup โดยโครงการธนาคารหน้ากาก จะระดมทุนโดยให้ประชาชนทุกคนสามารถจองซื้อหน้ากากอนามัยได้ใน ราคาชิ้นละ 2.50 บาทไม่จำกัดจำนวน (ซึ่งเมื่อซื้อได้ไม่จำกัดจำนวนจะมีผลทางจิตวิทยาทำให้ไม่ต้อง กักตุน) และทางโครงการฯจะจัด ส่งให้ตามปริมาณการใช้ต่อเดือนทางไปรษณีย์ โดย บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (มหาชน) จะร่วมเป็นพันธมิตรในการจัดส่งหน้ากากอนามัยถึงบ้านเพื่อ อำนวยความสะดวกในค่าใช้จ่ายที่ต่ำที่สุด และสร้างสังคมแห่งการแบ่งปันร่วมกันต้านวิกฤตโควิด-19 ภายใต้แคมเปญการรณรงค์ #หน้ากาก2บาท50มีจริงส่งถึงบ้าน #ใช้1ให้1 #get1give1 การให้ความสำคัญกับการบริจาค #ใช้1ให้1 #get1give1 เพราะการที่จะหยุด การแพร่ระบาดของโควิด-19 เราไม่สามารถหยุดได้แค่การป้องกันตัวของเราเอง แต่การช่วยป้องกัน คนอื่นๆที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อด้วยนั้น จะช่วยให้การควบคุมการระบาดเป็นผลมากขึ้น ซึ่งหน้ากาก เพื่อการบริจาคนี้จะพิมพ์ว่าห้ามจำหน่าย และใช้สำหรับแจกได้เท่านั้น เมื่อได้มีการนำไปบริจาค ยังหน่วยงานต่างๆ จะมีใบตอบรับหรือหลักฐานการรับบริจาคส่งไปยังผู้บริจาคผ่านทางแพลตฟอร์ม ออนไลน์
การระดมทุนนำไปสู่การตั้งโรงงานผลิตหน้ากากอนามัยที่ได้มาตรฐานในแต่ละภูมิภาค โดยจดทะเบียน เป็นวิสาหกิจชุมชนที่ไม่แสวงหาผลกำไรและเพื่อลดปัญหาการขาดแคลนหน้ากากอนามัย ซึ่งจะใช้เวลา ประมาณ 6 สัปดาห์ โดยขอความอนุเคราะห์จากท่านทูตจีนประจำประเทศไทยประสานการ นำเข้าเครื่องจักรจากจีน และทำการสั่งวัตถุดิบเพื่อใช้ในการผลิตจากอินโดนีเซียโดยการอนุเคราะห์ของท่าน ทูตไทยประจำอินโดนีเซีย และในระยะยาวมีแผนในการนำเข้าเครื่องผลิตฟิลเตอร์ทำแผ่นหน้ากากเองเพื่อแก้ ปัญหาการนำเข้าวัตถุดิบ โดยขอความอนุเคราะห์เรื่องสิทธิภาษี BOI การนำเข้าเครื่องจักรปลอดภาษี มีการสั่งซื้อผ่านทางสมาคมร้านขายยา ร้านสะดวกซื้อหรือกิจการทางการค้าเช่นศูนย์การค้าสรรพ สินค้าและอื่นๆ สามารถสั่งซื้อได้ไม่จำกัด แต่ต้องจำหน่ายในราคาชิ้นละ 2.50 บาท และสามารถนำเงินกลับมาสั่งซื้อเพื่อให้มีของหมุนเวียนขายอย่างสม่ำเสมอ โดยหน้ากากส่วนนี้ จะถูกพิมพ์ว่าจำหน่ายในราคาควบคุม 2.50 บาทหากมีการ ขายเกินราคาจะถูกตัดสิทธิ์ในการซื้อและแจ้งทางราชการเพื่อให้ดำเนินคดีต่อไป
ทั้งนี้เป้าหมายของโครงการธนาคารหน้ากากในการทำ Crowdfunding Donation คือการเปิดโรงงาน ในทุกภูมิภาคของประเทศเพื่อตอบสนองความต้องการในการใช้งานได้ทั่วทั้งประเทศ และเมื่อปัญหา การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เบาบางลง โรงงานก็สามารถกลับมาผลิตหน้ากากชนิดอื่นๆ เช่น หน้ากากคาร์บอน และ N95 เพื่อป้องกันฝุ่น PM 2.5 แทน โดยใช้แนวคิดที่เป็นหลักการเดียวกันคือขาย ในราคาที่ควบคุมเพื่อปรับสมดุลกลไกตลาด และใน อนาคตเมื่อการผลิตและการใช้งานภายในประเทศมีอย่างเพียงพอแล้ว หากมีประเทศที่ประสบปัญหา ขาดแคลนหน้ากากอนามัย โครงการธนาคารหน้ากากก็จะสามารถยื่นมือเข้าช่วยเหลือตามหลัก มนุษยธรรม
โครงการยังมีแนวทางการขอการสนับสนุน เช่น ขอยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม /ขอยกเว้นภาษีใดๆที่เกี่ยวข้องกับการบริจาค เนื่องจากไม่ได้เป็นการทำธุรกิจ ขอเร่งรัดเป็นกรณีเร่งด่วนเพื่อสร้างและเปิดใช้โรงงานตลอดจนการผลิตการ รับรองมาตรฐานเพื่อให้สามารถผลิตหน้ากากอนามัยได้เร็วที่สุด ภายใต้แนวความคิดที่เรากำลังอยู่ใน ภาวะฉุกเฉินในการขาดแคลนหน้ากากอย่างรุนแรง
นอกจากนี้ศูนย์สนับสนุนนักรบสีขาวเพื่อแพทย์และพยาบาล ภายใต้การร่วมมือกับ แพทยสมาคม แพทยสภา และ หน่วยงานองค์กรต่างๆศิลปิน ดารา จะร่วมเป็นทูตอาสาของโครงการ โดยการสั่งจองหน้ากาก 1,000 บาท ราคาชิ้นละ 2.50 บาท จะได้รับหน้ากากจำนวน 400 ชิ้น เป้าหมาย 1 แสนคน สั่งจองหน้ากากคนละ 1,000 บาท = 100 ล้านบาท = ยอดสั่งซื้อ 40 ล้านชิ้น หากมีการสั่งจองหน้ากาก 1 ล้านคน ก็จะสามารถสร้างโรงงานได้ 10 แห่งทั่วทุกภูมิภาค การสั่งจองหน้ากากอนามัย ด้วยการกรอกข้อมูลคำสั่งจองซื้อผ่านช่องทาง Social Media และ เวปไซต์ของโครงการ www.maskbank.org
การจองซื้อหน้ากากอนามัยจากทางโครงการฯ จะเป็นการซื้อเพื่อใช้งานเองและเพื่อการบริจาคให้หน่วย งานสาธารณสุข โรงเรียน และองค์กรการกุศลต่างๆตามที่ผู้ซื้อประสงค์ ในสัดส่วน 1:1 (ซื้อใช้เอง 1ชิ้น : บริจาค 1 ชิ้น) เพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาการขาดแคลนหน้ากากและสร้างสังคมแห่งการแบ่งปัน โดยกำหนดให้จองซื้อขั้นต่ำ 1,000 บาท = หน้ากากอนามัยจำนวน 400 ชิ้น ผู้จองซื้อจะได้รับหน้ากากจำนวน 200 ชิ้น ทะยอยรับตามการใช้งานจริงต่อเดือน และโครงการจะแบ่งปันหน้ากากอนามัยไปยังหน่วย งานสาธารณสุข โรงเรียน และองค์กรการกุศลต่างๆ
“โครงการธนาคารหน้ากากที่ฟ้ากับบิ๊นท์ตั้งใจทำขึ้นมาในครั้งนี้ จึงมี เป้าหมายที่จะให้คนไทยมีโอกาสเข้าถึงหน้ากากอนามัยในราคา ควบคุมคือชิ้นละ 2.50 บาท และขอเป็นส่วนเล็กๆส่วนหนึ่งของการ แก้ปัญหาการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้หยุดลงโดย เร็วที่สุดโดยเฉพาะในพื้นที่ประเทศไทย”นางสาวไทยปีพ.ศ. 2562 และ นักเดินทางเจ้าของรายการท่องเที่ยว กล่าว.-สำนักข่าวไทย
