หมอตรวจแล้ว! สาวจีนถ่มน้ำลายบนรถทัวร์ ไม่เป็นโควิด-19

กรุงเทพฯ 20 มี.ค.- แพทย์ รพ.ศิริราช ตรวจแล้ว หญิงจีนที่ถ่มน้ำลายบนรถทัวร์ ประเมินมีอาการทางจิต เป็นไข้-ไอมา 3 สัปดาห์ นานเกินไป แต่ตรวจเพื่อความแน่ใจ ผลพบไม่เป็นโควิด-19



ตามที่มีการแชร์คลิปสาวจีนอาละวาดบนรถทัวร์ ตะโกนถามหาคำตอบว่าขวดสีน้ำเงินที่ใช้ฉีดในรถคืออะไร ก่อนถ่มน้ำลาย ซึ่งมีการแชร์ต่อและวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมาก


ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สถานีขนส่งจังหวัดสระบุรี พบนางจันทรา สุริวงค์ อายุ 46 ปี เจ้าหน้าที่บริการบนรถร่วม บขส. 999 สระบุรี ที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า สาวจีนขึ้นรถมาจากสถานีขนส่งหมอชิต ในรถมีผู้โดยสารประมาณ 10 คน ระหว่างทางสาวจีนลุกเปลี่ยนที่นั่งไปมาอยู่บ่อยครั้ง จนกระทั่งมาถึงรังสิต ก็มีน้องผู้หญิง 2 คน ขึ้นมา ในระหว่างทาง 1 ใน 2 น้องผู้หญิง หยิบสเปรย์แอลกอฮอล์ขึ้นมาฉีดใส่ตัวเอง ทำให้สาวจีนลุกเดินมาหาน้องผู้หญิง แล้วสอบถามว่าที่ฉีดคืออะไร น้องคนนั้นก็เลยบอกว่า เป็นสเปรย์แอลกอฮอล์ แต่สาวจีนเหมือนจะไม่เชื่อ ซึ่งการสื่อสารของสาวจีนเหมือนจะบอกว่าตัวเธอนั้นแพ้กลิ่น โดยเธอแสดงอาการเหมือนจะอาเจียน แล้วถ่มน้ำลายใส่กระดาษเอสี่ ที่ฉีกออกเป็นชิ้นๆ ไว้อยู่แล้ว

ส่วนการถุยน้ำลาย ถูมือ ถูตามเสื้อผ้าตัวเองของสาวจีน ตนไม่เห็น จากนั้นได้นำเศษกระดาษดังกล่าวใส่ไว้ในถุง แล้วทิ้งไว้ข้างตัว ซึ่งก่อนหน้าตนเองก็ได้ฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อ ก็ไม่เห็นสาวจีนมีอาการอะไรเลย


หลังจากที่มีการโต้เถียงกัน แล้วเงียบเสียงไป จนกระทั่งมาถึงสถานีขนส่งสระบุรี จึงแจ้งเจ้าหน้าที่เทศกิจให้ทราบและประสานเจ้าหน้าที่สาธารณสุข พร้อมตำรวจ ให้มาตรวจสอบ เพื่อเชิญตัวสาวจีนตรวจวัดคัดกรองโควิด-19 แต่สาวจีนไม่ยอม กลับเอะอะโวยวาย บอกว่าต้องกลับกรุงเทพฯ เพราะว่าจะต้องเดินทางกลับประเทศจีนภายใน 2 วันนี้ ขณะที่ตำรวจพยายามจะให้คนเข้าไปเจรจา แต่สุดท้ายสาวจีนได้เดินหนี ไม่ยอมให้ตรวจ โดยสาวจีนได้ให้วินมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปส่งที่ศูนย์จำหน่ายสินค้าที่อยู่ในตัวเมืองสระบุรี จากนั้นเธอเดินทางไปยังสถานีรถไฟสระบุรี เพื่อซื้อตั๋วรถไฟ โดยขึ้นรถไฟขบวนที่ 146 อุบลราชธานี-กรุงเทพฯ เข้ากรุงเทพฯ แล้วก็ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวที่สถานีรถไฟหัวลำโพงแล้ว

จากการโทรคุยสอบถามตำรวจ สภ.เมืองสระบุรี ทราบว่า สาเหตุเกิดจากหญิงสาวไทยที่นั่งข้างสาวจีนได้ฉีดสเปรย์แอลกอฮอล์ กระเด็นไปถูกปากของสาวจีน ทำให้สาวจีนได้หยิบกระดาษขึ้นมาเช็ดปาก แล้วทิ้งลงในถุงพลาสติก และทำให้สาวจีนไม่พอใจไม่รู้ว่านำอะไรมาฉีดโดนที่ปากของเธอ จึงเกิดการโต้เถียงกันขึ้น

จากการตรวจสอบพบว่า หญิงชาวจีนคนดังกล่าวเดินทางด้วยรถโดยสาร บริษัท ขนส่ง จำกัด คันหมายเลข 904-321 เส้นทางกรุงเทพฯ-สระบุรี รถโดยสารออกจากสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) เวลา 13.00 น. ถึงสถานีเดินรถสระบุรี เวลาประมาณ 15.30 น. มีพฤติกรรมดังกล่าวจริง บริษัทฯ จึงได้แจ้งสาธารณสุขในพื้นที่รับทราบ และนำรถโดยสารคันดังกล่าวไปทำความสะอาดฉีดยาฆ่าเชื้อทำความสะอาดเบาะที่นั่ง พื้นรถโดยสาร ราวจับประตูขึ้นลง เรียบร้อยแล้ว

ขณะที่นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่า การรถไฟของประเทศไทย หรือ รฟท. เผยว่าเมื่อทราบข่าว ได้ประสานงานให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขมาเชิญตัวหญิงชาวจีนรายดังกล่าว หลังจากเดินทางถึงสถานีรถไฟหัวลำโพง เพื่อนำตัวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล

ล่าสุด รศ.นพ.วิศิษฎ์ วามวาณิชย์ ผู้อำนวยการ รพ.ศิริราช  บอกว่าตำรวจท่องเที่ยวนำหญิงชาวจีนรายนี้มาส่งที่ รพ.ศิริราช เมื่อคืนนี้ประมาณ 23.00 น. ตรวจสอบเบื้องต้นหญิงรายนี้อายุ 33 ปี มีไข้และไอมาประมาณ 2-3 สัปดาห์ ทำให้คนอื่นๆ สงสัยว่าจะติดโควิด-19 หรือไม่ แต่ทางการแพทย์ไม่สงสัย ผู้ป่วยไม่ให้ความร่วมมือในการตอบคำถามของเจ้าหน้าที่ รวมถึงการตรวจโรค

และจากพฤติกรรมที่ไม่เหมือนคนทั่วไป แพทย์ประเมินว่า หญิงสาวรายนี้มีอาการทางจิต แพทย์จึงฉีดยาให้สงบลง โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลแล็บ ตอนนี้เธออยู่ในห้องแยกโรค ซึ่งจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีญาติหรือผู้ใดมาติดต่อ ประเมินเบื้องต้น คาดว่าเธอไม่ได้มีเชื้อโควิด-19 เพราะไข้ ไอ มา 3 สัปดาห์ ซึ่งเป็นระยะที่นานเกินไป ไม่น่าจะใช่โควิด-19 แต่เพื่อความแน่ใจก็ต้องตรวจหาเชื้อ ผลออกมาไม่ติดเชื้อ เบื้องต้นคิดว่าสภาพจิตใจเธอคงเครียด ก็เลยมีปฏิกิริยาที่ไม่ค่อยปกติ และไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

ลอบวางระเบิด 2 จุด กลางตลาดโต้รุ่งเมืองปัตตานี

ปัตตานี 8 มิ.ย. – คนร้ายลอบวางระเบิดกลางตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี รถจักรยานยนต์เสียหาย 2 คัน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต วันที่ 8 มิ.ย.68 เวลา 20.00 น. เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มจำนวน ลอบวางระเบิดแสวงเครื่อง จำนวน 2 ลูก โดยจุดแรก วางระเบิดในถังขยะ หน้าร้านทอง บริเวณตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต รถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย จำนวน 2 คัน และจุดที่ 2 วางระเบิดในถังขยะ บริเวณในซอยข้างโรงแรม หลังตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต การก่อเหตุครั้งนี้ คาดว่าเป็นการก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดขึ้นในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตามข้อมูลข่าวสารที่หน่วย ส.จว.ปัตตานี ได้ออกข่าวแจ้งเตือนไปแล้ว เมื่อวันที่ 26 พ.ค.68 เวลา 15.00 น. ปรากฏข่าวสารว่า นายมะกอเซ็ง หม้าแอ สมาชิก ผกร.ระดับปฏิบัติการ และสมาชิกจำนวน […]

นายกฯ เผยหารือกัมพูชา ตกลงปรับกำลังทหารทั้ง 2 ฝ่าย ลดเผชิญหน้า

ทำเนียบรัฐบาล 8 มิ.ย. – นายกฯ เผยหารือกับรัฐบาลกัมพูชา ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดการเผชิญหน้า เดินหน้าใช้กลไก JBC 14 มิ.ย.นี้ นำพาความสัมพันธ์เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ความพยายามคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดน โดยการปฏิบัติงานของทั้งระดับนโยบาย โดยรัฐบาล ฝ่ายความมั่นคง กองทัพ กระทรวงการต่างประเทศ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับค่ะ ดิฉันได้หารือกับรัฐบาลกัมพูชา มีข้อสรุปที่ส่งผลดีต่อสถานการณ์ โดยทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร ณ จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดบรรยากาศการเผชิญหน้า และจะพัฒนาความร่วมมือโดยใช้กลไก JBC ในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ และจะมีการพูดคุยกันในทุกระดับ เพื่อนำพาความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วค่ะ ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามสถานการณ์และข้อเท็จจริงจากรัฐบาล พร้อมทั้งเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจนประสบผลสำเร็จต่อไป สุดท้ายนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนได้โปรดคลายความกังวล และมีความมั่นใจในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลว่า จะไม่มีเหตุกระทบกระทั่งที่รุนแรงเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ.-316-สำนักข่าวไทย

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งกองกำลังสุรนารี ปรับเวลาเปิด-ปิด จุดผ่านแดนกัมพูชา 

8 มิ.ย.- เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แม่ทัพภาค 2 ลงนามคำสั่งให้อำนาจผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พิจารณาปรับเวลาเปิด-ปิด ด่านถาวรและจุดผ่อนปรนการค้า 4 ด่าน มีผลทันทีเมื่อคืนนี้ กองทัพภาคที่ 2 ออกหนังสือคำสั่ง การควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ตามคำสั่งกองทัพบก เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ให้กองทัพภาคที่ 2 โดยกองกำลังกำลังสุรนารีมีอำนาจการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี วิธีการและเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลา ที่จำเป็นเหมาะสม ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ดังนี้