หมอตรวจแล้ว! สาวจีนถ่มน้ำลายบนรถทัวร์ ไม่เป็นโควิด-19

กรุงเทพฯ 20 มี.ค.- แพทย์ รพ.ศิริราช ตรวจแล้ว หญิงจีนที่ถ่มน้ำลายบนรถทัวร์ ประเมินมีอาการทางจิต เป็นไข้-ไอมา 3 สัปดาห์ นานเกินไป แต่ตรวจเพื่อความแน่ใจ ผลพบไม่เป็นโควิด-19



ตามที่มีการแชร์คลิปสาวจีนอาละวาดบนรถทัวร์ ตะโกนถามหาคำตอบว่าขวดสีน้ำเงินที่ใช้ฉีดในรถคืออะไร ก่อนถ่มน้ำลาย ซึ่งมีการแชร์ต่อและวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมาก


ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สถานีขนส่งจังหวัดสระบุรี พบนางจันทรา สุริวงค์ อายุ 46 ปี เจ้าหน้าที่บริการบนรถร่วม บขส. 999 สระบุรี ที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า สาวจีนขึ้นรถมาจากสถานีขนส่งหมอชิต ในรถมีผู้โดยสารประมาณ 10 คน ระหว่างทางสาวจีนลุกเปลี่ยนที่นั่งไปมาอยู่บ่อยครั้ง จนกระทั่งมาถึงรังสิต ก็มีน้องผู้หญิง 2 คน ขึ้นมา ในระหว่างทาง 1 ใน 2 น้องผู้หญิง หยิบสเปรย์แอลกอฮอล์ขึ้นมาฉีดใส่ตัวเอง ทำให้สาวจีนลุกเดินมาหาน้องผู้หญิง แล้วสอบถามว่าที่ฉีดคืออะไร น้องคนนั้นก็เลยบอกว่า เป็นสเปรย์แอลกอฮอล์ แต่สาวจีนเหมือนจะไม่เชื่อ ซึ่งการสื่อสารของสาวจีนเหมือนจะบอกว่าตัวเธอนั้นแพ้กลิ่น โดยเธอแสดงอาการเหมือนจะอาเจียน แล้วถ่มน้ำลายใส่กระดาษเอสี่ ที่ฉีกออกเป็นชิ้นๆ ไว้อยู่แล้ว

ส่วนการถุยน้ำลาย ถูมือ ถูตามเสื้อผ้าตัวเองของสาวจีน ตนไม่เห็น จากนั้นได้นำเศษกระดาษดังกล่าวใส่ไว้ในถุง แล้วทิ้งไว้ข้างตัว ซึ่งก่อนหน้าตนเองก็ได้ฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อ ก็ไม่เห็นสาวจีนมีอาการอะไรเลย


หลังจากที่มีการโต้เถียงกัน แล้วเงียบเสียงไป จนกระทั่งมาถึงสถานีขนส่งสระบุรี จึงแจ้งเจ้าหน้าที่เทศกิจให้ทราบและประสานเจ้าหน้าที่สาธารณสุข พร้อมตำรวจ ให้มาตรวจสอบ เพื่อเชิญตัวสาวจีนตรวจวัดคัดกรองโควิด-19 แต่สาวจีนไม่ยอม กลับเอะอะโวยวาย บอกว่าต้องกลับกรุงเทพฯ เพราะว่าจะต้องเดินทางกลับประเทศจีนภายใน 2 วันนี้ ขณะที่ตำรวจพยายามจะให้คนเข้าไปเจรจา แต่สุดท้ายสาวจีนได้เดินหนี ไม่ยอมให้ตรวจ โดยสาวจีนได้ให้วินมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปส่งที่ศูนย์จำหน่ายสินค้าที่อยู่ในตัวเมืองสระบุรี จากนั้นเธอเดินทางไปยังสถานีรถไฟสระบุรี เพื่อซื้อตั๋วรถไฟ โดยขึ้นรถไฟขบวนที่ 146 อุบลราชธานี-กรุงเทพฯ เข้ากรุงเทพฯ แล้วก็ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวที่สถานีรถไฟหัวลำโพงแล้ว

จากการโทรคุยสอบถามตำรวจ สภ.เมืองสระบุรี ทราบว่า สาเหตุเกิดจากหญิงสาวไทยที่นั่งข้างสาวจีนได้ฉีดสเปรย์แอลกอฮอล์ กระเด็นไปถูกปากของสาวจีน ทำให้สาวจีนได้หยิบกระดาษขึ้นมาเช็ดปาก แล้วทิ้งลงในถุงพลาสติก และทำให้สาวจีนไม่พอใจไม่รู้ว่านำอะไรมาฉีดโดนที่ปากของเธอ จึงเกิดการโต้เถียงกันขึ้น

จากการตรวจสอบพบว่า หญิงชาวจีนคนดังกล่าวเดินทางด้วยรถโดยสาร บริษัท ขนส่ง จำกัด คันหมายเลข 904-321 เส้นทางกรุงเทพฯ-สระบุรี รถโดยสารออกจากสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) เวลา 13.00 น. ถึงสถานีเดินรถสระบุรี เวลาประมาณ 15.30 น. มีพฤติกรรมดังกล่าวจริง บริษัทฯ จึงได้แจ้งสาธารณสุขในพื้นที่รับทราบ และนำรถโดยสารคันดังกล่าวไปทำความสะอาดฉีดยาฆ่าเชื้อทำความสะอาดเบาะที่นั่ง พื้นรถโดยสาร ราวจับประตูขึ้นลง เรียบร้อยแล้ว

ขณะที่นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่า การรถไฟของประเทศไทย หรือ รฟท. เผยว่าเมื่อทราบข่าว ได้ประสานงานให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขมาเชิญตัวหญิงชาวจีนรายดังกล่าว หลังจากเดินทางถึงสถานีรถไฟหัวลำโพง เพื่อนำตัวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล

ล่าสุด รศ.นพ.วิศิษฎ์ วามวาณิชย์ ผู้อำนวยการ รพ.ศิริราช  บอกว่าตำรวจท่องเที่ยวนำหญิงชาวจีนรายนี้มาส่งที่ รพ.ศิริราช เมื่อคืนนี้ประมาณ 23.00 น. ตรวจสอบเบื้องต้นหญิงรายนี้อายุ 33 ปี มีไข้และไอมาประมาณ 2-3 สัปดาห์ ทำให้คนอื่นๆ สงสัยว่าจะติดโควิด-19 หรือไม่ แต่ทางการแพทย์ไม่สงสัย ผู้ป่วยไม่ให้ความร่วมมือในการตอบคำถามของเจ้าหน้าที่ รวมถึงการตรวจโรค

และจากพฤติกรรมที่ไม่เหมือนคนทั่วไป แพทย์ประเมินว่า หญิงสาวรายนี้มีอาการทางจิต แพทย์จึงฉีดยาให้สงบลง โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลแล็บ ตอนนี้เธออยู่ในห้องแยกโรค ซึ่งจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีญาติหรือผู้ใดมาติดต่อ ประเมินเบื้องต้น คาดว่าเธอไม่ได้มีเชื้อโควิด-19 เพราะไข้ ไอ มา 3 สัปดาห์ ซึ่งเป็นระยะที่นานเกินไป ไม่น่าจะใช่โควิด-19 แต่เพื่อความแน่ใจก็ต้องตรวจหาเชื้อ ผลออกมาไม่ติดเชื้อ เบื้องต้นคิดว่าสภาพจิตใจเธอคงเครียด ก็เลยมีปฏิกิริยาที่ไม่ค่อยปกติ และไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ป่วนไม่เลิก! เขมรบุกทำลายรั้วลวดหนาม “บ้านหนองหญ้าแก้ว”

16 ก.ย.- เขมรป่วนไม่เลิก! บุกทำลายรั้วลวดหนาม บ้านหนองหญ้าแก้ว ทหารกัมพูชายืนประกบสังเกตการณ์ ขณะที่ชาวเน็ตแห่หนุนสร้างกำแพงกั้นถาวร วันที่ 16 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสังคมออนไลน์แห่แชร์ภาพคลิปวิดีโอ พร้อมข้อความโดยอ้างว่าเป็นภาพของชาวเขมรบุกทำลายรั้วลวดหนามของไทย บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งเหตุการณ์เกิดในวันนี้ โดยมีชาวบ้านจากฝั่งกัมพูชาหลายคนเข้ามาใกล้แนวรั้วลวดหนาม พร้อมถือไม้และพยายามรื้อทำลาย ขณะที่ทหารกัมพูชายืนสังเกตการณ์อยู่รอบพื้นที่ ขณะที่ชาวเน็ตแห่แสดงความคิดเห็น สนับสนุนการสร้างกำแพงแทนรั้วลาดหนาม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก -313 .-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ก่อนทูลเกล้าฯ ครม.

กทม 16 ก.ย.- “อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ไหว้ศาลหลักเมือง – วัดพระแก้ว ก่อนนำรายชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ วันนี้ บอกเสร็จสิ้นภารกิจไปอีกเปราะ ขณะ “บิ๊กเล็ก” ว่าที่ รมว.กลาโหม รอรับ พลาดลื่นคะมำที่บันได นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังศาลหลักเมือง หลังตรวจสอบรายชื่อคณะรัฐมนตรีที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รอต้อนรับ โดยจุดแรก นายกรัฐมนตรีได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณหอพระ ซึ่งระหว่างทางที่จะเดินขึ้นไปยังหอพระ พล.อ.ณัฐพล ที่เดินตามข้างหลัง ได้ลื่นล้มทั้งตัวหน้าบริเวณหน้าบันไดทางขึ้นหอพระ คาดว่าเป็นเพราะถุงเท้าทำให้ลื่น แต่ พล.อ.ณัฐพล ได้ลุกอย่างรวดเร็ว และไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์ร้องอุทานด้วยความตกใจ ต่อมา นายอนุทิน ได้ผูกผ้าแพร 3 สี ถัดจากนั้นได้ถวายพวงมาลัยศาลหลักเมือง และสักการะศาลเทพารักษ์ทั้ง 5 พร้อมเติมน้ำมันตะเกียงพระประจำวันเกิด ขณะที่ประชาชนที่มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลหลักเมือง ต่างตะโกนให้กำลังใจนายอนุทิน “นายกฯ สู้ๆ” ก่อนที่นายอนุทินจะหันไปยกมือไหว้ขอบคุณ […]

ประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา ปราบสแกมเมอร์

สระแก้ว 16 ก.ย.-วันนี้ที่จังหวัดสระแก้ว มีการประชุมสำคัญระหว่างไทยและกัมพูชา เพื่อหวังแนวทางร่วมมือในการปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสแกมเมอร์.-สำนักข่าวไทย

ผู้ค้าทองคำเสนอตั้งเคลียริ่งเฮาส์ ค้านเก็บภาษีเทรดทอง

กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – ราคาทองคำนิวไฮตามตลาดโลก การค้าทองคึกคัก ผู้ค้าทองคำค้านแนวคิดภาครัฐเก็บภาษีเทรดทองคำออนไลน์ เพื่อป้องกันบาทแข็งค่า ระบุถอยหลังเข้าคลอง ทำลายการค้า เสนอ ธปท. “ตั้งเคลียริ่งเฮาส์-ปรับสูตรดูแลค่าเงิน” นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด (MTS Gold) กล่าวว่า ในการประชุมระหว่างผู้ค้าทองคำและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วานนี้ ทาง ธปท.มีการสอบถามความเห็นเรื่อง การที่กระทรวงการคลังอาจออกมาตรการเก็บภาษีในการซื้อ-ขายทองคำ โดยเฉพาะธุรกรรมออนไลน์และมีการชำระเป็นเงินบาท เพื่อลดผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำต่อเงินบาท ซึ่งทางผู้ค้าทองคำ คัดค้านเพราะจะกระทบต่อการค้าทองคำในองค์รวมของทั้งในและต่างประเทศ ทำลายระบบเศรษฐกิจ โดยในขณะนี้การค้าทองคำทั้งในและต่างประเทศแต่ละปีมีมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านล้านบาท/ปี และความนิยมเทรดระบบออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น ตามทิศทางเศรษฐกิจดิจิทัล ตอบสนองนพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ที่นิยมเทรดออนไลน์ทั้งผ่านแอปฯ ต่างๆ และเทรดผ่าน Gold Futures ตลาด TFEX ซึ่งเป็นการเทรดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำภายในประเทศ โดยยอดเทรดเติบโตอย่างมากราว 9-20 ตัน/วัน หรือ 20,000-35,000 สัญญาต่อวัน […]