วิปฝ่ายค้านเสนอเปิดประชุมสมัยวิสามัญฯหาทางออกวิกฤตโควิด-19

พรรคเพื่อไทย 18 มี.ค.- วิปฝ่ายค้านนอกสภา ระบุ รัฐบาลสื่อสารล้มเหลว ประชาชนไม่เชื่อมั่น เสนอเปิดประชุมสมัยวิสามัญสภาผู้แทนราษฎร รับฟังความเห็นและหาทางออกวิกฤตโควิด-19


พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ป แถลงหลังประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านว่า ประชาชนไม่เชื่อมั่นการทำงานของรัฐบาลในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) บางเรื่องรัฐบาลไม่ควรทำในช่วงวิกฤตเสี่ยงต่อชีวิตไปหาผลประโยชน์ แต่พบว่ามีเรื่องมากมายที่รัฐบาลกลับทำ และไม่สามารถหาคำตอบให้ได้ ตนมีความเห็นว่ารัฐบาลควรเปิดพื้นที่ให้ร่วมกันฟันฝ่าวิกฤตประเทศ อย่ามองพรรคฝ่ายค้านและประชาชนที่มีความคิดต้องการให้ประเทศพ้นภัย เป็นฝ่ายตรงข้ามหรือศัตรู อยากให้รัฐบาลกล้ารับฟังฝ่ายค้าน เช่น การเปิดประชุมวิสามัญของสภาผู้แทนราษฎร

พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า  ไม่อยากให้มองเรื่องนี้เป็นเกมส์การเมือง เพราะฝ่ายค้านไม่ได้ต้องการที่จะเปิดประชุมสมัยวิสามัญเพื่อมาหลอกด่ารัฐบาล แต่ต้องการให้รัฐบาลรับความความคิดเห็นจากภาคส่วนต่าง ๆ และร่วมกันหาทางออกวิกฤตนี้ โดยไม่กังวลว่าจะยิ่งเป็นการชุมนุมของคนจำนวนมากแล้วจะทำให้เชื้อไวรัสแพร่ระบาด เพราะเชื่อว่ารัฐสภาจะมีระบบคัดกรองที่ดีและถูกสุขลักษณะ ที่ผ่านมาประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อน้อย ก็เพราะมีคนที่ไปตรวจหาเชื้อน้อย เหมือนเป็นการปิดบังและทำให้คนเกิดความหวาดระแวง แต่การแก้ไขปัญหาช่วงวิกฤตคือผู้นำประเทศ ดังนั้นคนที่สมควรลาออกจากตำแหน่งไม่ใช่อธิบดีกรมการค้าภายใน แต่เป็นนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ปล่อยให้หน้ากากอนามัยขาดตลาดทั้งที่เป็นประเทศผู้ผลิต 


นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย กล่าวว่า อยากให้รัฐบาลแบ่งงบประกันสังคม 2 ล้านล้าน มาสัก 2 แสนล้านเพื่อดูแลประชาชน ให้ทันต่อเหตุการณ์ ตอนนี้ ตนมองว่ารัฐบาลยังขาดประสิทธิภาพ ล่าช้า จนเกิดภาวะที่รุนแรง อีกทั้งบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ มาตรา 47 ก็กล่าวถึงการคุ้มครองโรคร้าย แต่รัฐบาลไม่ชี้แจงรายละเอียดของโรงพยาบาลที่รักษาฟรี ไม่มีมาตรการให้ประชาชนเข้าใจ ทั้งที่ต้องเปิดให้ประชาชนเข้าถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์  หน้ากาก  เจลล้างมือ แต่รัฐบาลกลับกักตุนสินค้า โดยคนใกล้ชิดลักลอบส่งออกหน้ากากหลายล้านชิ้น และพอประกาศให้เจลล้างมือและหน้ากากอนามัยเป็นสินค้าควบคุม ร้านค้าทั่วไปก็ไม่สามารถซื้อไปขายได้ และรัฐบาลเองก็ไม่มีความสามารถกระจายให้ร้านค้าและให้ประชาชนเข้าถึงได้ 

นายนิคม กล่าวว่า ขอถามรัฐบาลว่า มีงบสร้างโรงงานผลิตหน้ากากเพิ่มหรือยัง เตรียมโรงพยาบาลรองรับผู้ป่วยเพิ่มเติมแล้วหรือไม่ หรืออาคารว่างไว้สำหรับรองรับหรือไม่ และมีมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบอย่างไร สิ่งเหล่านี้รัฐบาลไม่ได้พูด แต่กลับไปปิดสถานประกอบการที่ขาดทุนอยู่แล้ว กลับยิ่งทำให้ขาดทุนกันไปใหญ่ ซึ่งมาตรการนี้แทนที่จะทำทีหลัง แล้วรัฐบาลจะมีมาตรการเยียวยาอย่างไร ขณะเดียวกันก็เสนอให้คัดกรองโรคชุมชนโดย อสม. และแพทย์ประจำหมู่บ้าน ถ้าชุมชนไหนไม่มีผู้ติดเชื้อก็ให้ประกาศเป็นชุมชนปลอดโรค ก็สามารถทำกิจกรรมได้ตามปกติ ส่วนหมู่บ้านไหน จังหวัดไหน ที่ไม่ปลอดโรค ก็ต้องการตรวจและกักตัวก่อนเคลื่อนย้ายเข้าออก โดยคนที่จะเดินทางไปต่างประเทศก็ต้องมีการตรวจสุขภาพประกอบกับใบรับรองแพทย์

นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดในสถานการณ์แพร่ระบาด คือประชาชนและต่างประเทศไม่เชื่อถือข้อมูลของรัฐบาล และมีความพยายามปกปิดข้อมูล ซึ่งการสื่อสารในภาวะวิกฤตรัฐบาลควรสื่อสารอย่างชัดและรวมศูนย์ เพื่อป้องกันความสับสน ให้ข้อมูลกับประชาชนเพื่อให้ไม่ตื่นตระหนก ตอนนี้รัฐบาลไม่ยอมรับว่าเข้าสู่การแพร่ระบาดในระยะ 3 แล้ว ถือว่ารัฐบาลและนายกรัฐมนตรีล้มเหลวในการสื่อสาร ทั้งที่สิ่งจำเป็นคือความร่วมมือจากประชาชนเพื่อหยุดการแพร่ระบาดของโรค ทั้งนี้มาตรการ Social Distancing มันส่งผลกระทบต่อคนหาเช้ากินค่ำ แต่มาตรการเยียวยากลับไม่ชัดเจน มีเพียงการลดค่าไฟฟ้าและค่าน้ำที่ช่วยได้เพียงเล็กน้อย และสิ่งที่ไม่อยากเห็นคือมาตรการที่ช่วยเหลือกลุ่มทุนขนาดใหญ่ก่อน เช่น ร้านค้าในสนามบิน แต่ต้องการให้ช่วยเหลือคนส่วนใหญ่ก่อน 


นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้รับความเชื่อมั่น มีปัญหาเรื่องการสื่อสาร บอกความจริงไม่ครบถ้วน รวมถึงการไม่ประสานงานกันของหน่วยงานราชการ สร้างความสับสนให้กับประชาชนอย่างรุนแรง รัฐบาลต้องมองปัญหาทั้งระบบ ไม่ใช่แค่เฉพาะหน้า ต้องให้มืออาชีพในการบริหารงานสาธารณสุขขึ้นมาเป็นธงนำ ส่วนรัฐบาลและทหารเป็นกำลังเสริม ไม่ต้องรอให้โรคระบาดขยายตัวไปเรื่อย ๆ กระทบกับชีวิตและเศรษฐกิจ ที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฎร จะใช้การเปิดประชุมสมัยวิสามัญในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ซึ่งพรรคร่วมฝ่ายค้านเสนอไปแล้ว แต่ยอมรับว่ามีความยากลำบากที่จะใช้เสียงสองสภารวมกันให้ได้ 1 ใน 3 และรัฐบาลเองก็ไม่ได้ตอบรับเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามพรรคร่วมฝ่ายค้านก็จะหาวิธีสื่อสารกับประชาชนให้ทราบถึงวิธีการดูแลตัวเอง 

ด้านนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า กิจกรรมซักฟอกนอกสภา ครั้งที่ 2 จะจัดขึ้นในหัวข้อ “กระชากหน้ากากแก็งค์อมหน้ากากกระบวนการหากินบนความเป็นความตายของประชาชน” ซึ่งจะเป็นการจัดแบบปิดที่ไม่ให้คนเข้าชม แต่จะปรับรูปแบบเปิดข้อมูลข่าวสารผ่านเพจ ฝ่ายค้านเพื่อประชาชน และเฟซบุ๊กไลฟ์แทน แต่จะกำหนดวันเวลา อีกครั้ง

สำหรับการประชุมวิปฝ่ายค้านนอกสภา ใช้สถานที่พรรคเพื่อไทย และมีมาตรการป้องการการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ด้วยการจัดที่นั่งประชุมเว้นระยะห่าง 1 เมตร และผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนต้องผ่านการตรวจวัดไข้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

กัมพูชายืนยันไม่รับแผนที่ 1 : 50,000

15 มิ.ย. – กัมพูชาแถลงปฏิเสธแผนที่ 1 ต่อ 50,000 อย่างเด็ดขาด อ้างไทยเขียนขึ้นฝ่ายเดียว ยึดมั่นแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตาม MOU43 เท่านั้น พร้อมยินดีร่วมมือกับไทยด้วยกลไกทวิภาคี ยกเว้น 4 จุดที่นำขึ้นศาลโลก เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานภายหลังเสร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ที่กรุงพนมเปญ ว่า ฝ่ายกัมพูชาแสดงจุดยืนปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะรับรองแผนที่ที่ฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำใช้อ้างอิงอันเป็นที่มาหลักของปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่เรื้อรังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้ แผนที่ที่กัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาทเขตแดนไม่สิ้นสุดนั้นคือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่กัมพูชายึดถือ Khmer Times อ้างตามเอกสารข่าวเผยแพร่จากสำนักเลขาธิการกิจการชายแดนเกี่ยวกับการประชุม JBC ที่จัดขึ้นระหว่างฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการชายแดนและประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา และนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของไทย และประธาน JBC ฝ่ายไทย […]

“ลูกหมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ย

สำนักงานกฎหมายทนายคลายทุกข์ 13 มิ.ย. – “ลูกหมี รัศมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้ 2 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ด้าน “ทนายเดชา” เผยหาก 30 วัน ไม่ใช้หนี้ เตรียมยื่นเรื่องยึดทรัพย์-ฟ้องล้มละลาย นางสาวรัศมี ทองสิริไพรศรี หรือลูกหมี นางแบบชื่อดัง พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา และนางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีลูกหนี้ ซึ่งเป็นอดีตดารานักแสดงชื่อดัง ได้ทำการกู้ยืมเงิน พร้อมจ่ายเช็คเด้ง จำนวน 2 ล้านบาท โดยไม่ยอมชำระคืนตามที่ได้ตกลงทำสัญญากันไว้ ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้คุณลูกหมีฟ้องลูกหนี้ในความผิดเกี่ยวกับเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน โดยเงินต้นจำนวน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ศาลพิพากษาว่า สัญญากู้เงินต้น 2 ล้านบาท เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด […]

อิสราเอลและอิหร่านโจมตีตอบโต้กันในระลอกใหม่

เทลอาวีฟ 15 มิ.ย. – อิสราเอลและอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กันอีกครั้งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ซึ่งจุดชนวนความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างขึ้น หลังจากที่อิสราเอลได้ขยายการโจมตีอิหร่าน ด้วยการโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านได้ยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์ที่สหรัฐเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งการทิ้งระเบิดของอิสราเอลได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ยังถือว่าไม่มีอะไรที่จะเทียบเคียงกับสิ่งที่อิหร่านจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การโจมตีของอิหร่านล่าสุดเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังเวลา 23:00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกัล 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อเสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในนครเยรูซาเลมและเมืองไฮฟา ทำให้ผู้คนราวหนึ่งล้านคนต้องรีบเข้าไปในสถานที่หลบภัย หน่วยบริการพยาบาลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีเด็กวัย 10 ขวบและหญิงสาววัยราว ๆ  20 ปีรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 140 คนจากการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สื่ออิสราเอลรายงานว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 35 คน หลังจากที่ขีปนาวุธพุ่งเป้าไปที่เมืองบัตยัม ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินกล่าวว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งชนอาคาร 8 ชั้นในเมืองนั้น และในขณะที่ผู้คนจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็มีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ขณะนี้่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีอาคารกี่หลังที่ถูกโจมตีเมื่อคืนนี้ จนถึงขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย นับตั้งแต่อิหร่านเปิดฉากโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พยาบาลเกษียณร้องไซเบอร์ ถูกโรแมนซ์สแกม สูญ 12 ล้าน

16 มิ.ย. – พยาบาลเกษียณ วัย 65 ปี ร้องตำรวจไซเบอร์ ถูกหลอกสร้างความสัมพันธ์เชิงชู้สาว หรือโรแมนซ์สแกม ชวนลงทุนคริปโต สูญเงิน 12 ล้าน นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาพยาบาลเกษียณอายุราชการวัย 65 ปี ผู้เสียหาย ถูกมิจฉาชีพหลอกหลอกให้รัก (Romance Scam) และชักชวนให้ลงทุนในระบบคริปโตผ่านแพลตฟอร์มเทรดปลอม สูญเงินเกือบ 12 ล้านบาท เข้าร้องทุกข์กับตำรวจไซเบอร์ โดยมี พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 รับเรื่อง นางสาวอ้อ อายุ 65 ปี อดีตพยาบาลผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2567 มิจฉาชีพหรือ นางสาวพร (นามสมมติ) ทักข้อความมาหาตนผ่านแอพ TikTok และชวนพูดคุยในลักษณะเชิงชู้สาว และต้องการหาคู่ชีวิต และชวนคุยเรื่องส่วนตัวจนเตนเชื่อใจ จนผ่านไป 2 […]

“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000

ก.ต่างประเทศ 16 มิ.ย.-“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000 แฉ “กัมพูชา” ถูกสั่งห้ามคุยปม 4 พื้นที่พิพาทในวง JBC แต่เสียดาย ไม่มีในบันทึกการประชุม เพราะหารือในวงเล็ก ยัน JBC รอบนี้ราบรื่นที่สุด บอกแต่ก่อนทะเลาะกันเยอะกว่านี้ นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ JBC แถลงชี้แจงผลการประชุม JBC ว่า ตนเข้าร่วมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 แล้ว จากระดับเจ้าหน้าที่ และครั้งนี้ไปประชุมในฐานะประธาน ถือว่าราบรื่นที่สุดเท่าที่เคยประชุมมา แต่ก่อนทะเลาะกันแรงกว่านี้เยอะ และครั้งนี้ ประสบความสำเร็จทางด้านเทคนิค พร้อมอธิบายภารกิจของ คณะกรรมการ JBC ว่า ประกอบไปด้วย 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นการตรวจหาหลักเขตที่ปักปันตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ปี 2462-2463 ซึ่งมีการปักหลักเขตไปแล้ว 73 หลัก ตอนนี้เห็นชอบไปแล้ว 45 หลัก อีก […]

นายกฯ เผย กต.เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ลั่นไทยเคารพกรอบทวิภาคี

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – นายกฯ เผย กต. เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ทำความเข้าใจกรณีไทย-กัมพูชา ย้ำไทยให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ลั่นการเคลื่อนไหวนอกเหนือจากการเจรจาถือเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ ประกาศกร้าว จะไม่ยอมให้ใครมากลั่นแกล้ง ใส่ร้าย ข่มขู่ เราก็เป็นประเทศที่มีศักดิ์ศรีเช่นกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ ก.ต่างประเทศ เรียกประชุมทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยให้ได้รับทราบ ถ้าไม่เคารพกติกา ทั่วโลกก็จะไม่ยอมรับ ยอมรับไทยมีการสื่อสารที่เป็นสาธารณะน้อยมาก เพราะให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ทั้งไทยและกัมพูชาจะต้องยึดตามกรอบการเจรจาทวิภาคี การเคลื่อนไหวที่นอกเหนือจากการเจรจาถือว่าเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ นอกจากนี้ระหว่างความสัมพันธ์ของรัฐบาลกับกองทัพ มีการพูดคุยอย่างต่อเนื่อง ว่าท่าทีของไทยจะเป็นอย่างไร อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ เพื่อรักษาอธิปไตยของไทย และยืนยันว่าไม่มีปัญหากันแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย