รัฐสภา 26 พ.ค. – ฝ่ายค้านจัดสรรเวลา ถกงบปี 69 พรรคประชาชน ขนสส. 50 คน อภิปราย “ปกรณ์วุฒิ” ยันงานละเอียดกว่าปีก่อน มุ่งตัดงบไม่จำเป็น ตั้งข้อสังเกตงบ อปท. เสี่ยงเปิดช่องเงินทอนก้อนใหญ่ ชี้อุบัติเหตุการเมืองเกิดได้ตลอด พร้อมเลือกตั้งเสมอ
นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ ถึงความพร้อมในการเตรียมอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ในวันที่ 28 – 30 พฤษภาคมนี้ ว่า ได้มีการจัดสรรเวลาในพรรคร่วมฝ่ายค้านลงตัวแล้ว พรรคพลังประชารัฐได้เวลา 3 ชั่วโมง พรรคไทยสร้างไทย และพรรคเป็นธรรม ให้เวลาผู้อภิปรายคนละครึ่งชั่วโมง ส่วนเวลาที่เหลือจะเป็นของพรรคประชาชน ที่เตรียมผู้อภิปรายและกำลังซ้อมใหญ่อยู่ที่สำนักงานพรรคหลายวันแล้ว ตอนนี้ผู้อภิปรายจำนวนคร่าวๆของพรรคประชาชน อยู่ที่ 40 -50 คน โดยไม่มีประเด็นซ้ำกัน ปีนี้เราต้องการให้การอภิปราย รวมถึงการพิจารณาในกรรมาธิการวิสามัญงบประมาณมีความละเอียดค่อนข้างมาก เพราะประเทศกำลังประสบกับวิกฤตทางเศรษฐกิจ การใช้งบประมาณของรัฐบาลจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก ที่จะกอบกู้วิกฤตเศรษฐกิจของประเทศได้ เราจึงจัดผู้อภิปรายจำนวนมาก เพื่อลงรายละเอียดให้ครบทุกกระทรวง ทุกประเด็นว่ามีงบประมาณอะไรที่รัฐบาลตั้งมา และไม่จำเป็นกับสถานการณ์ปัจจุบัน
นายปกรณ์วุฒิ ฝากให้ประชาชนจับตาดู นอกจากการอภิปรายวาระ 1 และกรรมาธิการแล้ว ในช่วงท้ายท้ายงบประมาณที่ถูกตัดออกไปจะถูกแปรไปตามรายการที่หน่วยงานเคยขอ ผ่านสำนักงบประมาณ เพราะต่อให้ตัดงบมากแค่ไหน สุดท้ายก็จะแปรเป็นโครงการที่มีประโยชน์
นายปกรณ์วุฒิ ยกตัวอย่าง งบประมาณสำหรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ที่ถูกทบทวนและบอกว่าจะนำไปใช้กระตุ้นเศรษฐกิจแทน แต่กลับพบคำสั่ง ให้ อปท. หรือองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น เสนอโครงการมาในเวลาเพียง 3 วัน สุดท้ายงบก้อนมโหฬารนี้ มองไม่ออกว่าจะได้โครงการลักษณะหน้าตาแบบไหน แล้วจะกอบกู้วิกฤตเศรษฐกิจได้หรือไม่
ส่วนที่มีข้อสังเกตว่าการตั้งงบประมาณเช่นนี้อาจจะเปิดช่องให้มีเงินทอนหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า อาจจะมีการตั้งข้อสังเกตได้ บางครั้งคนที่ได้ประโยชน์อาจจะเป็นคนที่รู้ก่อน ว่าจะเสนอโครงการอะไรมา หรือมีเจ้าภาพอยู่แล้ว จึงมีความเป็นไปได้ว่าอาจเป็นช่องทางในการกอบโกยผลประโยชน์ หรือเงินทอนที่มหาศาลจากงบประมาณก้อนนี้
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า สำหรับรายชื่อผู้อภิปรายที่เตรียมไว้นั้น ในภาพรวม ก็จะมีนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน และนางสาวศิริกัญญา ตันสกุล แล้วจะมีไฮไลท์ให้กับผู้ที่สนใจติดตามในแต่ละประเด็น เช่น ด้านการเกษตร ด้านการศึกษา การบริหารจัดการน้ำ เป็นต้น โดยไม่ได้มีไฮไลท์เป็นพิเศษ แต่จะเน้นไปที่การตัดงบที่ไม่จำเป็นเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ
เมื่อถามว่ามีผู้อภิปรายคนไหนที่ว้าวบ้าง นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า “ว้าวทุกคน” พร้อมปฏิเสธว่า ตอนนี้ไม่ได้แบ่งเป็น สส. หน้าใหม่หรือหน้าเก่า เพราะทุกคนเป็น สส. มาแล้วสองปี ทำงานละเอียดมีประสบการณ์เยอะ บางคนแม้ไม่ได้อภิปรายแต่ก็เคยทำงานในกรรมาธิการ และอนุกรรมาธิการพิจารณางบประมาณมาแล้ว ทั้งนี้เชื่อว่าในการอภิปรายคงไม่มีการประท้วงกันเยอะ และหวังว่ารัฐบาลคงไม่จ้องจะประท้วงกันให้เสียเวลา
สำหรับรอยร้าวในพรรคร่วมรัฐบาลได้มีการมากระซิบบอกฝ่ายค้าน ให้เตรียมอภิปรายในประเด็นใดหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ส่วนตัวยังไม่มี แต่สำหรับ สส. คนอื่น ก็ยังไม่ทราบ
ส่วนความขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทยมองว่าเป็นผลดีหรือผลเสียต่อการผ่านงบประมาณ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ไม่ได้มองว่าเป็นผลดี หรือผลเสีย แต่มองที่ผลดี หรือผลเสียต่อประเทศมากกว่า ว่าสุดท้ายแล้วนายกรัฐมนตรี และ ครม. กำลังตัดสินใจอยู่บนผลประโยชน์สูงสุดของประชาชน หรืออยู่บนอำนาจต่อรอง ระหว่าง 2 พรรคใหญ่มากกว่า
นายปกรณ์วุฒิ ยังประเมินสถานการณ์การเมืองหลังการอภิปรายงบ 69 ว่า คงไม่มีรัฐบาลไหนอยากยุบสภาก่อนหมดวาระ ถ้าไม่จำเป็น แต่พรรคประชาชนพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง และประเมินว่าอาจเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองได้ตลอดเวลาเราจึงเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งใหม่เสมอ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด และยืนยันว่ามีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีไว้อยู่แล้ว ส่วนจะมีมากกว่าหัวหน้าพรรคหรือไม่ เป็นรายละเอียดที่ยังไม่ได้พูดคุยกัน.-319 -สำนักข่าวไทย