ยะลา 18 มี.ค. – เจ้าหน้าที่เร่งรวบรวมพยานหลักฐานติดตามไล่ล่าคนร้ายลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์หน้า ศอ.บต. ในพื้นที่ อ.เมืองยะลา คาดเป็นกลุ่มเดียวกับที่เคยก่อเหตุยิงป้อม ชรบ.ลำพะยา
ความคืบหน้าเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ บริเวณหน้าศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) อ.เมือง จ.ยะลา ทำให้เจ้าหน้าที่ ผู้สื่อข่าว และช่างภาพ บาดเจ็บ 26 คน หลังเกิดเหตุ พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ระดมเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเร่งฟื้นฟูสถานที่โดนระเบิด ด้วยการทำความสะอาด เก็บกวาดซากของรถยนต์คาร์บอมบ์ พร้อมทั้งสร้างกำแพงป้าย ศอ.บต.ขึ้นมาใหม่
ส่วนความคืบหน้าคดี พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดเผยว่า กลุ่มก่อความไม่สงบพยายามสร้างสถานการณ์ ทำอันตรายให้กับประชาชนตลอดเวลา จึงขอให้พี่น้องประชาชนช่วยกัน และร่วมมือแจ้งข้อมูลข่าวสาร ขณะนี้ตำรวจกำลังเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน และตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายใช้หลบหนี เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี เบื้องต้นคาดว่า คนร้ายเป็นกลุ่มเดียวกันกับที่เคยก่อเหตุยิงป้อม ชรบ.บ้านทางลุ่ม ต.ลำพะยา เสียชีวิต 15 คน และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการเคยบุกทลายฐานเพิงพักชั่วคราว บนเขาตะโละสโตร์ อ.กรงปินัง ซึ่งครั้งนั้นคนร้ายสามารถหลบหนีไปได้ทั้งหมด ส่วนหนึ่งไปหลบซ่อนตัวที่ ต.ตาเซะ อ.เมืองยะลา เขตรอยต่อแม่น้ำปัตตานี ส่วนที่เหลือหลังจากฐานปฏิบัติการบนเขาตะโละสโตร์แตก ได้มารวมตัวกันก่อเหตุคาร์บอมบ์ครั้งนี้ ซึ่งคาดว่าคนร้ายมีไม่ต่ำกว่า 6-7 คน โดยมี 2 คน ปรากฏภาพตามกล้องวงจรปิด ส่วนที่เหลือเป็นมือประกอบระเบิด และคนดูต้นทาง
สำหรับการไล่ล่าติดตามกล้องวงจรปิด เลี้ยวซ้ายข้าง ศอ.บต. ออกเส้นทางสวนขวัญเมือง ไปหน้าวิทยาลัยสารพัดช่าง ตรงเข้า ถ.สิโรรส มาสี่แยกโรงพยาบาลยะลา ตรงไปยังบ้านท่าสาป สามแยกบ้านเนียง ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังติดตามไล่ล่าอย่างใกล้ชิด
ส่วนที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจความมั่นคง ต้องยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยพื้นที่เพิ่มมากขึ้น หลังเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดหน้า ศอ.บต. ที่ จ.ยะลา โดยมีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดทุกจุดให้สามารถใช้งานได้ทั้งหมด ขณะที่เส้นทางเข้าเมือง มีการสุ่มตรวจรถยนต์และรถจักรยานยนต์ รวมถึงตัวบุคคลที่เดินทางเข้าพื้นที่ เพื่อป้องกันคนร้ายลอบก่อเหตุไม่สงบ ส่วนพื้นที่ล่อแหลม ทั้งบริเวณสถานีรถไฟ ร้านทอง ย่านการค้า มีเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงผลัดเปลี่ยนกันเข้าประจำการ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว
ด้านกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา สั่งการให้พื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดเหตุไม่สงบทั้ง 4 อำเภอ ประกอบด้วย อ.จะนะ อ.เทพา อ.นาทวี และ อ.สะบ้าย้อย รอยต่อ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และพื้นที่เศรษฐกิจ อ.เมือง อ.หาดใหญ่ และ อ.สะเดา เพิ่มความเข้มงวดมากยิ่งขึ้น. – สำนักข่าวไทย