สำนักงาน กกต. 18 มี.ค.- กกต.ยกคำร้องสอบ 3 ผู้สมัคร ส.ส.เสรีรวมไทย กรณีถือหุ้นสื่อ เหตุบริษัทร้างก่อนลงเลือกตั้ง ส่วน “ปิณญาดา-ชูเดช-คมกฤษณ์” 3 ส.ส.ต้องรอลุ้นผลคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่คำวินิจฉัย กกต.ที่ 24/2563 เรื่องการเลือกตั้ง ส.ส.แบ่งเขตเลือกตั้ง โดยก่อนการประกาศผลการเลือกตั้ง กกต.ได้รับคำร้องว่าน.ส.ปิณญาดา ตันติมนตรี ผู้สมัครรับเลือกตั้งเขต 8 กทม.พรรคเสรีรวมไทย (ผู้ถูกร้องที่ 1) นายชูเดช พันทวี ผู้สมัครรับเลือกตั้งเขต 11 กทม.พรรคเสรีรวมไทย (ผู้ถูกร้องที่ 2) นายคมกฤษณ์ จ่าทองคำ ผู้สมัครรับเลือกตั้งเขต 1อุตรดิตถ์ พรรคเสรีรวมไทย (ผู้ถูกร้องที่ 3) น.ส.ฉวี พงษ์พนัศ ผู้สมัครรับเลือกตั้งเขต 2 พระนครศรีอยุธยา พรรคเสรีรวมไทย (ผู้ถูกร้องที่ 4) นายมหวรรณ กะวัง ผู้สมัครรับเลือกตั้งเขต 1 เชียงใหม่ พรรคเสรีรวมไทย (ผู้ถูกร้องที่ 5) และนายภาณุพล จอมศรี ผู้สมัครรับเลือกตั้งเขต 2 พะเยา พรรคเสรีรวมไทย (ผู้ถูกร้องที่ 6 ) ได้มีการกระทำอันฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 98(3) และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 42 (3) โดยผู้ถูกร้องที่ 1- 6 เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. เนื่องจากเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ
กกต.ได้พิจารณารายงานการไต่สวนตลอดจนพยานหลักฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องประกอบกันแล้ว เห็นว่ากรณีผู้ถูกร้องที่ 4,5,6 เป็นผู้ถือหุ้นและเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วน 2 แห่ง แต่จากการตรวจสอบรายการในหนังสือรับรองของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ปรากฏว่าห้างหุ้นส่วนที่เป็นห้างหุ้นส่วนร้าง ซึ่งนายทะเบียนได้ขีดชื่อออกจากทะเบียนแล้ว ตามมาตรา 1273/3 ของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มีผลทำให้บริษัทดังกล่าวสิ้นสภาพนิติบุคคล ก่อนสมัครรับเลือกตั้ง ดังนั้นผู้ถูกร้องที่ 4,5,6 จึงไม่เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง จึงมีคำสั่งยกคำร้องในส่วนของผู้ถูกร้องที่ 4,5,6 ส่วนผู้ถูกร้องที่ 1,2,3 ให้รอผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในส่วนที่เกี่ยวข้องเสียก่อน.-สำนักข่าวไทย