สมอ.จับเครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ได้มาตรฐานกว่า 11 ล้านบาท

กรุงเทพฯ 16 มี.ค. – สมอ.ลงพื้นที่ 3 จังหวัด ตรวจเข้มพบเครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ได้มาตรฐาน ยึดอายัดดำเนินคดีกว่า 6,800 ชิ้น มูลค่ากว่า 11 ล้านบาท 



นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยว่า สมอ.ส่งทีมเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบคลังสินค้าและโรงงานผลิตในเขตกรุงเทพฯ สมุทรปราการ และชลบุรี หลังพบเบาะแสว่ามีการนำเข้าและผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ได้มาตรฐานหลายรายการและไม่แสดงเครื่องหมายมาตรฐานกว่า 6,800 ชิ้น มูลค่ารวมกว่า 11 ล้านบาท โดยแห่งที่ 1 เป็นคลังเก็บสินค้าย่านนิคมอมตะนคร อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี พบอุปกรณ์จ่ายไฟสำหรับหลอดแอลอีดีนำเข้าโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจำนวน 300 ชิ้น มูลค่ากว่า 112,000 บาท ซึ่งมีความผิดตามกฎหมายจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


แห่งที่ 2 คลังสินค้าย่านประเวศ กรุงเทพฯ ตรวจพบโคมไฟ ซึ่งผู้นำเข้าสินค้าเป็นผู้ได้รับอนุญาต แต่ไม่แสดงเครื่องหมายมาตรฐาน ชื่อผู้รับใบอนุญาตและฉลาก และบางส่วนนำเข้าโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำนวน 143 ชิ้น และอุปกรณ์ป้องกันไฟดูด จำนวน 697 ชิ้น นำเข้าโดยไม่ได้รับใบอนุญาต มูลค่า 568,000 บาท โดยโทษสำหรับผู้ได้รับใบอนุญาตแต่ไม่แสดงเครื่องหมายมาตรฐาน มีโทษปรับไม่เกิน 300,000 บาท และโทษสำหรับผู้นำเข้าโดยไม่ได้รับใบอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 


แห่งที่ 3 โรงงานผลิตโทรทัศน์ ย่านบางปู สมุทรปราการ พบมีการผลิตโทรทัศน์จอแก้ว (CRT TV) จำนวน 1,819 เครื่อง และโทรทัศน์แอลอีดี (LED TV) จำนวน 3,848 เครื่อง โดยไม่ได้รับใบอนุญาต มูลค่า 10,599,000 บาท ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ ยังพบว่าโรงงานดังกล่าวมีการนำจอภาพเก่า (CRT) มาใช้ประกอบการผลิต ซึ่งจะมีความผิดตามกฎหมายของกรมโรงงานอุตสาหกรรม เนื่องจากจอภาพเก่าถูกจัดเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ทั้งนี้ สมอ.ส่งเรื่องต่อให้กับกรมโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

เลขาธิการ สมอ. กล่าวเพิ่มเติมว่า เครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ สมอ.ควบคุม เนื่องจากเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน การทำหรือนำเข้า จะต้องได้รับอนุญาตจาก สมอ.ก่อน สำหรับสินค้าที่ สมอ.ตรวจจับครั้งนี้ได้ดำเนินการยึดอายัดไว้ทั้งหมด และ สมอ.มีแผนที่จะลงตรวจเข้มในทุกพื้นที่ หากพบว่ามีการกระทำความผิดจะส่งดำเนินคดีตามกฎหมายทุกกรณี จึงขอเตือนผู้ประกอบการอย่ากระทำผิดโดยเด็ดขาด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย