นนทบุรี 13 มี.ค.-พาณิชย์เพิ่มหน้ากากหลังโรงงานผลิตเปลี่ยนสายการผลิตเป็น 1.7 ล้านชิ้นต่อวัน แย้มข่าวดีปลายสัปดาห์อาจเห็นเพิ่มเป็น 2.2 ล้านชิ้นต่อวัน กำลังเจรจาต่อรองกับโรงงาน ย้ำจัดสรรและให้โรงงานผลิตทุกอย่างโปร่งใส ด้านปลัดพาณิชย์ขู่หากยังพบผู้ค้าโก่งราคาเล็งคุมราคาเจลล้างมือ
นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ทุกขั้นตอนจัดสรรหน้ากากอนามัยมีความรัดกุม มีเจ้าหน้าที่ประจำที่โรงงานทั้ง 11 แห่ง คุมเข้มปริมาณการจัดสรรตั้งแต่โรงงานจนถึงปลายทางจะต้องมีตัวเลขหน้ากากอนามัยตรงกัน โดยรายงานผ่านออนไลน์ เพื่ออุดช่องโหว่ไม่ให้หน้ากากอนามัยหลุดไปช่องทางอื่น หรือแม้แต่การให้โรงงานผลิตหน้ากากอนามัยดำเนินการผลิตไม่มีนอกมีในทุกอย่างโปร่งใสผ่านคณะกรรมการที่มาจากหลายหน่วยงานควบคุมและช่วยกันดูแลทั้งสิ้นสามารถตรวจสอบที่มาที่ไปได้
ทั้งนี้ กรมฯ ขอให้โรงงานปรับเครื่องจักรและเพิ่มกำลังการผลิตหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ (สีเขียว) ที่คนส่วนใหญ่ใช้ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีมีจำนวนหน้ากากอนามัยเพิ่มขึ้นทุกวัน วันนี้ (13 มี.ค.) 1.71 ล้านชิ้นต่อวัน และจัดสรรให้กระทรวงสาธารณสุข 900,000 ชิ้นต่อวัน จากที่ขอมา 1 ล้านชิ้นต่อวัน และคาดว่าจะได้ 1 ล้านชิ้นต่อวันในระยะเวลาอันใกล้นี้ ส่วนที่เหลืออีก 8.1 ชิ้นนั้น จะกระจายให้กลุ่มเสี่ยง เช่น ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง หรือ ตม.ที่ขอเข้ามา 60,000 ชิ้น และการบินไทย รวมทั้งกระจายไปสู่ผู้บริโภค ทั้งร้านค้าธงฟ้า และร้านค้าปลีกต่าง ๆ วันนี้มีเพิ่มที่ร้านกาแฟอเมซอนช่วยกระจาย โดยมีเงื่อนไขเดียวกันคือ ขายราคาชิ้นละ 2.50 บาท คนละ 1 แพ็ค 4 ชิ้น ราคา 10 บาท
ขณะที่กรณีข่าวพนักงานร้านสะดวกซื้อเก็บไว้เองก่อนนั้น ได้มีการกำหนดเงื่อนไขกับผู้ประกอบการทุกห้างห้ามพนักงานซื้อหน้ากากอนามัย ห้ามขายเวลากลางคืน เพื่อป้องกันกรณีมีการส่งของช่วงเวลากลางคืนแล้วพนักงานซื้อเก็บไว้เอง รวมถึงผู้ซื้อทุกคนต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชน เพื่อป้องกันการวนซื้อ หากไม่ปฎิบัติตามจะถอนร้านค้า ไม่จัดสรรให้หน้ากากอนามัยให้อีก
อย่างไรก็ตาม จากการหารือร่วมกับโรงงานหน้ากากอนามัย 11 แห่ง กำหนดเป้าหมายการผลิตหน้ากากอนามัยร่วมกันให้ถึง 2.2 ล้านต่อวัน ซึ่งแต่ละโรงงานจะมีเป้าหมายการผลิตชัดเจนที่กำลังทยอยปรับไลน์การเพิ่มและกำลังผลิตให้ได้ตามที่กำหนด คาดว่าปลายสัปดาห์หน้าน่าจะทราบผลที่ชัดเจนขึ้น และในส่วนของวัตถุดิบเริ่มมีข่าวดี เพราะจีนเริ่มเปิดโรงงานและส่งออกวัตถุดิบผลิตหน้ากากอนามัยแล้ว รวมทั้งยุโรปยังเปิดช่องให้ส่งออกวัตถุดิบ จึงมั่นใจจะมีวัตถุดิบมาผลิตหน้ากากอนามัยได้ต่อเนื่อง
“ขอย้ำให้สังคมเข้าใจท่ามกลางภาวะการขาดแคลนหน้ากากอนามัยและราคาที่พุ่งสูงขึ้น จนมีกระแสข่าวทางโซเชียลมากมาย เพราะทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามทำงานให้เกิดความโปร่งใส และรัดกุมที่สุด ซึ่งเป็นการรักษาความน่าเชื่อถือให้กับสังคมลดความเดือดร้อนของประชาชนให้ผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปได้” นายวิชัย กล่าว
นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า สถิติการจับกุมดำเนินคดีผู้กระทำความผิดถึงวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมามีการจับกุมดำเนินคดีไปแล้ว 135 ราย เป็นการจับกุมในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล 88 ราย และต่างจังหวัด 47 ราย และที่สำคัญสามารถจับกุมผู้ค้าในแหล่งค้าส่งสำคัญ ที่สำเพ็ง 4 ราย รวมหน้ากากอนามัย 12,700 ชิ้น ในส่วนของกลางทั้งหมดทุกคดี ตำรวจจะเป็นผู้เก็บรอจนคดีสิ้นสุด ซึ่งนอกจากการจับกุมคนขายหน้ากากอนามัยแพงแล้ว ยังจับกุมผู้กระทำผิดขายเจลล้างมือที่มีแอลกอฮอล์ในข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคาและข้อหาขายแพงเกินสมควร
อย่างไรก็ตาม หากยังพบการฉวยโอกาสจากผู้ค้าเป็นวงกว้างอาจจะพิจารณาใช้มาตรการควบคุมราคา เพราะมีอำนาจทำได้ตามสินค้าที่อยู่บัญชีควบคุม พร้อมย้ำกับประชาชนว่าสินค้าเจลล้างมือ รวมถึงแอลกอฮอล์ไม่มีทางขาดแคลนแน่นอน เพราะเอทิลแอลกอฮอล์ที่ใช้ในการผลิตมาจากมันสำปะหลัง และอ้อย ซึ่งไทยเป็นผู้ผลิตอันดับ 1 ของโลก
เช่นเดียวกับสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีข่าวการกักตุนจนหายออกไปจากชั้นวางในห้างต่าง ๆ นั้น ยืนยันว่า ไทยเป็นฐานการผลิตสินค้าอุปและบริโภคสำคัญของโลก โดยเฉพาะเป็นผู้ผลิตอาหาร ทั้งอาหารสำเร็จรูป และผู้ปลูกข้าวรายรายใหญ่ จึงไม่ต้องกลัวอาหารขาดแคลน รวมถึงสินค้าอุปโภค อาทิ กระดาษชำระ ก็ได้รับแจ้งจากผู้ผลิต ว่า สินค้าเป็นแพ็คใหญ่ หากหยิบไปยังชั้นวางไม่กี่ชิ้น และเติมสินค้าไม่ทัน ก็ทำให้ชั้นวางว่างได้ และวัตถุดิบการผลิตยังมีเพียงพอ ดังนั้น จึงไม่มีความจำเป็นต้องกักตุนสินค้าเป็นต้น.-สำนักข่าวไทย