กทม.13 มี.ค.-สมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทยฯ (แพทย์โรคทรวงอก) ออกแถลงการณ์ ให้กำลังใจทีมแพทย์เตรียมพร้อมรับมือผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 อาการรุนแรง ห่วงกลไกรัฐตอบสนองต่อภาวะวิกฤตของประเทศ ตามหลังสถานการณ์จริง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (13มี.ค.) เฟซบุ๊กของสมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้โพสต์เผยแพร่แถลงการณ์ เรื่อง แด่นักรบในเสื้อกาวน์ ที่จะต้องรับมือผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 อาการรุนแรง โดย รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล นายกสมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ 13มีนาคม 2563 โดยมีข้อความระบุว่า
ตามที่ได้มีคนไทยป่วยจากการติดเชื้อ COVID-19 เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ใน ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และมีผู้ป่วยบางรายที่น่าจะติดเชื้อจากการระบาดภายในประเทศเราเอง ซึ่งหมายถึงการเริ่มข้าสู่สถานการณ์ของโรคระยะที่3 สมาคมอุรเวชช์ฯ ได้เล็งเห็นแนวโน้มนี้ และได้มีการเตรียมความพร้อมในเชิงวิชาการตั้งแต่สัปดาห์ก่อน ซึ่งตลอดสัปดาห์นี้สมาคมฯ ได้พยายามผลักดันการเตรียมความพร้อมในเชิงการบริหารจัดการผ่านทางหน่วยงานต่างๆ ที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง ซึ่งแม้จะได้รับการตอบสนองที่ดีใน ระดับหนึ่ง แต่ยังไม่ดีพอที่จะรับมือกับวิกฤตสุขภาพสำคัญของประเทศอีกครั้ง
ในสถานการณ์ของโรคระยะที่ 3 นั้น โรงพยาบาลของรัฐและเอกชนทุกแห่ง จะต้องค้นหาผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 ที่มีอาการรุนแรงหรือผู้ป่วยที่มีโรคเรื้อรังบางชนิดอยู่เดิม ซึ่งเมื่อเริ่มติดเชื้อCOVID-19 แล้วมีโอกาสโรครุนแรงสูงเพื่อรับตัวไว้ในโรงพยาบาลสำหรับการรักษาให้หายขาด ลดการสูญเสียให้น้อยที่สุด และที่สำคัญคือช่วยตัดวงจรการระบาดต่อไป ซึ่งการที่จะถึงพร้อมในหน้าที่เหล่านี้ จำเป็นที่จะต้องจัดเตรียมองค์ความรู้ จัดหาการตรวจทางห้องปฏิบัติการที่รวดเร็วและแพร่หลาย จัดเตรียมยาและอุปกรณ์การแพทย์ที่มีประสิทธิภาพ และจัดหาอุปกรณ์ป้องกันตนเองสำหรับบุคลากรทางการแพทย์อย่างเพียงพอ
ในฐานะของสมาคมวิชาชีพแพทย์ที่ต้องมีส่วนทำหน้าที่ดูแลรักษาผู้ป่วยกลุ่มนี้โดยตรง เป็นความรับผิดชอบของสมาคมฯ ที่จะต้องจัดเตรียมองค์ความรู้ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ปฏิบัติงาน ซึ่งต้องนำไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับบริบทและความพร้อมของแต่ละโรงพยาบาล พร้อมกันนี้จึงเป็นที่มาของการเผยแพร่ “แนวทางการดูแลรักษาผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 ที่มีอาการรุนแรง” ในส่วนของการส่งผ่านข้อกังวลและข้อเสนอแนะเชิงปฏิบัติการต่อหน่วยงานสูงสุดที่รับผิดชอบ สมาคมฯ ได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว
เป็นอีกครั้งหนึ่งที่แสดงให้ห็นว่ากลไกของรัฐที่จะตอบสนองต่อภาวะวิกฤตของประเทศมักจะตามหลังสถาณการณ์จริงอย่างน้อยหนึ่งก้าวเสมอ แต่นั่นไม่ได้ทำให้จิตวิญญาณของพวกเราเหล่าวิชาชีพแพทย์และวิชาชีพอื่นที่เกี่ยวข้อง จะยอมจำนนให้กับศัตรูตัวจิ๋วที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าโดยง่าย และพวกเราก็จะไม่ยอมก้มหัวให้กับผู้รับผิดชอบระดับสูงที่ขาดความเชี่ยวชาญและเข้าใจบริบทการทำงานของพวกเราอย่างถ่องแท้ ได้เวลาแล้วที่พวกเราต้องเตรียมทำศึกแม้จะไม่มีอาวุธที่มีประสิทธิภาพและแม่ทัพ ที่เด็ดขาดเข้มแข็ง สิ่งหนึ่งที่จะช่วยยึดเหนี่ยวอุดมการณ์ของพวกเราไว้ได้ในสถานการณ์เช่นนี้ คือคำสอนของสมเด็จพระบรมราชชนก ผู้ก่อกำเนิดการแพทย์แผนใหม่ในประเทศสยาม “ขอให้ถือประโยชน์ส่วนตนเป็นที่สอง ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจหนึ่ง” .-สำนักข่าวไทย