วัดอรุณฯ 12 มี.ค.- “เทวัญ” จัดกิจกรรมบิ๊กคลีนนิ่ง 7 วัดท่องเที่ยวในเขต กทม. ป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 นำร่องวัดอรุณฯ วัดแรก เผยอธิบดีกรมค้าภายในเคลียร์โฆษกกรมศุลฯเข้าใจกันแล้ว แค่เข้าใจผิด
นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) จัดกิจกรรมรณรงค์ป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ตามวัดท่องเที่ยวในเขตกรุงเทพมหานคร โดยวันนี้ (12 มี.ค.) นำร่องจัดกิจกรรมที่วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหารเป็นวัดแรก ซึ่งเมื่อนายเทวัญเดินทางมาถึง ได้เข้ากราบนมัสการพระธรรมรัตนดิลก กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร จากนั้น นายณรงค์ ทรงอารมณ์ ผู้อำนวยการพศ. กล่าวรายงานและมอบอุปกรณ์ทำความสะอาดแก่หน่วยงานและประชาชนจิตอาสาที่เข้าร่วมกิจกรรม
นายเทวัญ ร่วมกับจิตอาสาทำความสะอาดบริเวณพระพุทธปราง ค์ บริเวณเมรุเผาศพและฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อรอบบริเวณวัด พร้อมมีข้อสั่งการให้สำนักงานพศ.ประสานวัดให้จัดกิจกรรมรณรงค์ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่าที่จะกระทบต่อคณะสฆ์และประชาชน ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของรัฐบาล โดยสำนักงานพศ.ได้ประสานความร่วมมือกับวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อนำร่องการจัดกิจกรรมรณรงค์จำนวน 7 วัด ประกอบด้วย กิจกรรมวันนี้ซึ่งเป็นวันแรก เริ่มที่วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร พรุ่งนี้ (13 มี.ค.) เวลา 09.00 น. วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร และเวลา 13.00 น. ที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) วันที่ 16 มีนาคม เวลา 08.00 น. วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร และเวลา 13.00 น.ที่วัดปากน้ำภาษีเจริญ วันที่ 18 มีนาคม เวลา 09.00 น. วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร และเวลา 13.00 น. วัดระฆังโฆษิตาราม
นายเทวัญ กล่าวว่า ขอความร่วมมือพุทธศาสนิกชนที่จะมาร่วมทำบุญตักบาตรตามวัดต่างๆ ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ดูแลสุขภาพ หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีคนแออัด กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือก่อนใส่บาตร ก่อนถวายภัตตาหาร หรือเข้าไปกราบพระภิกษุสงฆ์ สวมหน้ากากอนามัยป้องกันโรค ส่วนผู้ที่เพิ่งกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ขอความร่วมมือกักตนเองเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 14 วัน และงดเข้าร่วมกิจกรรมในที่ชุมชนเด็ดขาด เพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคดังกล่าวในหมู่พุทธศาสนิกชน
นายเทวัญ กล่าวถึงการให้ข้อมูลจากรัฐบาลบางหน่วยงานที่ผิดพลาด และขัดแย้งกันเองจนทำให้เกิดความสับสน โดยเฉพาะกรณีที่มีรายงานว่าอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ จะแจ้งความดำเนินคดีกับโฆษกกรมศุลกากร กระทรวงการคลัง จากกรณีแถลงข่าวเรื่องการส่งออกหน้ากากอนามัยผิดพลาด ว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา(12 มี.ค.)เจ้าหน้าที่ทั้ง 2 กระทรวงได้พูดคุยกันแล้วว่าเป็นความเข้าใจผิดเรื่องเอกสารการชี้แจง ซึ่งจำนวนการส่งออกหน้ากากอนามัยเกิดขึ้นก่อนวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ที่จะออกประกาศให้หน้ากากอนามัยเป็นสินค้าควบคุม ยืนยันว่าไม่ใช่ความขัดแย้งกันเองของหน่วยงานรัฐ และน่าจะพูดคุยกันได้ในฐานะที่เป็นข้าราชการเหมือนกัน
นายเทวัญ กล่าวว่าวันนี้ (12 มี.ค.) หรือพรุ่งนี้ (13มี.ค.) นายกรัฐมนตรี จะเรียกประชุมศูนย์ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 เพื่อหารือเรื่องการให้ข้อมูลของหน่วยงานรัฐต่อประชาชน ซึ่งอาจจะยกระดับเป็นศูนย์ระดับชาติ ขณะนี้ อยู่ระหว่างการพูดคุยถึงการบูรณาการ การให้ข่าวต่อประชาชน เพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
ส่วนกรณีกระทรวงการต่างประเทศเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการช่วยเหลือประชาชนในอิตาลี วานนี้ (12 มี.ค) นายเทวัญ กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศ ยังไม่ได้รายงานมายังรัฐบาล แต่นายกรัฐมนตรีสั่งการให้ดูแลประชาชนในอิตาลีแล้ว และวางมาตรการการดูแล หากคนไทยในอิตาลีต้องการเดินทางกลับประเทศไทย ทั้งเรื่องการกักตัวและขั้นตอนการดูแลตนเองภายหลังการกักตัวเสร็จสิ้น รวมถึงให้ดูแลคนไทยในอิตาลีที่ไม่ประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทยด้วย.-สำนักข่าวไทย