มอเตอร์ไซค์ไล่ยิงกระบะ โดนกระบะพุ่งชนตายคาที่

สงขลา 10 มี.ค.-หนุ่มคลั่งไล่ยิงรถกระบะสองตาหลานบาดเจ็บ และจอดขวางกลางสามแยกถูกรถกระบะพุ่งชนกระเด็นเสียชีวิตคาที่ ด้านคนขับกระบะยันไม่รู้จักหรือมีเรื่องกันมาก่อน


บ่ายวันนี้เกิดเหตุขับรถไล่ยิงกันบนถนนสายวัดเกาะ-เนินขุมทอง ชุมชนบ้านทุ่งคลองสอ หมู่ 3 ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ตำรวจ สภ.หาดใหญ่ จึงรีบลงพื้นที่ไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ อยู่บริเวณสามแยกทางเข้าป่าช้าบ้านวังหรัง พบรถจักรยายนต์ฮอนด้าเวฟ ล้มอยู่กลางถนนในสภาพที่ถูกชนพังเสียหาย และคนขับกระเด็นไปตกอยู่ในสวนแตงโมริมถนนไกลเกือบ 10 เมตร และเสียชีวิตคาที่ จากการถูกพุ่งชนอย่างแรง และในปากมีกระสุนปืนขนาด 9 มม. อยู่ด้วย 1 นัด ทราบชื่อ นายชัยธวัช ทองขจร อายุ 26 ปี หรือเต้ย ชาว จ.สงขลา ข้างศพผู้ตายยังพบอาวุธปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ รวมทั้งยังมีกระเป๋าสัมภาระที่ภายในมีผ้าอ้อมเด็กอ่อนรวมอยู่ด้วยและโทรศัพท์มือถืออีก 2 เครื่อง นอกจากนี้ยังพบรถกระบะอีซูซุ สีบรอน ตอนครึ่ง ซึ่งเป็นรถคู่กรณีที่ขับชน พุ่งตกลงไปอยู่ในแปลงแตงโมห่างจากศพประมาณ 5 เมตร สภาพกระจกด้านขวาถูกยิง 1 รู ล้อหน้าทั้งซ้ายและขวา 


นอกจากนี้พบผู้ที่นั่งมาในกระบะถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 2 คน คือ นายศักดิ์  ประกอบสุข อายุ 57 ปี ถูกยิงด้วยปืนขนาด 9 มม. เข้าแขนขวา และ ด.ญ.ณปนันท์ ประกอบสุข อายุ 13 ปี หลานสาว ถูกกระสุนปืนเฉี่ยวเข้าที่แก้มซ้าย และกระสุนเจาะไหปลาร้าขวาหัก หน่วยกู้ชีพ รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลหาดใหญ่ เบื้องต้นอาการปลอดภัย 

จากการตรวจสอบเส้นทาง ตลอดเกือบ 1 กิโลเมตร ก่อนถึงจุดเกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่เป็นช่วงๆ จำนวน 5 ปลอก จนมาถึงจุดเกิด ในลักษณะขับไล่ยิงกันมา สอดคล้องกับคำบอกเล่าจากชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ บอกว่าตอนเกิดเหตุ นายเต้ยขี่รถไล่ยิงกระบะ เป็นระยะทางกว่า 500 เมตร และเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ ได้จอดมอเตอร์ไซค์ขวางกลางถนนเพื่อให้รถกระบะจอด แต่กระบะไม่จอดและพุ่งชนอย่างแรง จนกระเด็นไปเสียชีวิตริมถนน ส่วนรถกระบะก็เสียหลักตกลงไปข้างทาง และตากับหลานที่นั่งมาถูกยิงบาดเจ็บ


สอบถามนางประทีป ขุนราชภักดี อายุ 50 ปี ที่มาดูศพลูกชายในที่เกิดเหตุบอกว่า ไม่รู้ว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไรและทั้งคู่มีปัญหาอะไรกัน โดยลูกชายเพิ่งเดินทางกลับจาก จ.พัทลุง มาพักอยู่ที่บ้านได้ 3 วัน หลังจากที่ไปดูลูกสาวที่เพิ่งคลอดได้ 15 วัน และทั้งลูกชายกับคู่กรณีก็ไม่ได้รู้จักกัน แต่หมู่บ้านอยู่ใกล้ๆกันโดยลูกชายอยู่หมู่ 1 ต.ทุ่งตำเสา ส่วนคู่กรณีอยู่หมู่ 4 ต.ควนลัง แต่ยอมรับว่าลูกชายเสพยาและบางครั้งก็มีอารมณ์แปรปรวนฉุนเฉียว และเคยมีประวัติถูกจับเรื่องปืนด้วย และเท่าที่ฟังจากการบอกเล่าของชาวบ้านทั้งคู่น่าจะมีเรื่องเฉพาะหน้ากันทำให้ลูกชายโกรธและขับรถไล่ยิงคู่กรณีจนเกิดเรื่องขึ้น

ด้าน น.ส.อ้อมใจ สุขพงษ์ อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวของนายศักดิ์ คนขับรถกระบะที่ถูกยิง และเป็นแม่ของน้องแก้มที่ถูกลูกหลง เปิดเผยว่า ปกติพ่อจะเป็นคนใจเย็นมากและไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใคร โดยเฉพาะกับผู้ตายก็ไม่รู้จักกัน เท่าที่ทราบก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ขี่รถจักรยายนต์ไปเบิ้ลเครื่องใส่ที่หน้าบ้าน ซึ่งพ่อก็ไม่ได้ว่าอะไรและปิดประตูบ้านเพราะไม่อยากมีเรื่อง จนแน่ใจว่าคู่กรณีขับรถออกไป และได้ขับรถยนต์กระบะพร้อมหลานสาวออกมา กระทั่งมาพบกับคู่กรณีระหว่างทางและถูกไล่ยิงจนได้รับบาดเจ็บตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ส่วน พ.ต.ท.ฉัตรชัย บำรุงกรณ์ รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.หาดใหญ่ เปิดเผยว่าจากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าเป็นเหตุการณ์เฉพาะหน้าจนเกิดการไล่ยิงกัน แต่จะมีเรื่องกันมาก่อนและเรื่องอะไรนั้นนั้นยังไม่สามารถระบุได้ ต้องสอบสวนคนเจ็บและพยานแวดล้อมอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งในทางคดีตำรวจจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย

ล่าสุดนายศักดิ์ ประกอบสุข อายุ 57 ปี คนขับรถกระบะที่ถูกยิงไล่และได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่แขนขวา เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่เพิ่มเติม และเล่าเหตุกาณ์ให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าตอนเกิดเหตุมาทำสวนกับหลานสาวและกำลังจะขับรถกระบะกลับบ้าน ก็ได้ยินเสียงปืนยิงขู่จากหน้าปากซอยแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะนึกว่าเป็นวัยรุ่นที่ยิงปืนขู่กันและไม่คิดว่าจะมีเรื่องกับตนด้วย และก่อนยิงปืนก็ได้เบิ้ลเครื่องรถจักรยานยนต์บนถนนนานราว 10 นาที ก็ไม่ได้สนใจว่าจะเกี่ยวกับตนด้วยเพราะไม่ได้ไปมีเรื่องอะไรกับใคร และรถจักรยานยนต์คันนี้ก็ขับออกไป

จนถึงตอนที่ขับรถกระบะกลับบ้าน จังหวะขึ้นบนถนนก็ถูกจักรยานยนต์คันนี้ขับไล่ยิงทันที ตนพยายามขับหนีเพราะตกใจ และเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุรถจักรยานยนต์ก็ขับประกบและใช้อาวุธปืนยิงใส่อีก 1 นัด และไปจอดดักอยู่กลางถนน จังหวะนั้นตนไม่รู้จะหลบไปไหนและขับมาด้วยความเร็วจึงพุ่งชนชายคนนี้จนกระเด็นและรถของตนของเสียหลักตกข้างทางเช่นกัน ซึ่งระหว่างที่รถจักรยานยนต์คันนี้ไล่ยิงนั้นตนได้ให้หลานสาวที่นั่งอยู่เบาะข้างไปหลบอยู่ที่แคปแต่กระสุนยังพลาดไปโดนที่แก้มและฟังที่หัวไหล่ยังอยู่ในห้องผ่าตัด

นายศักดิ์ ยังคงยืนยันว่าไม่เคยรู้จักหรือมีเรื่องอะไรกับชายคนนี้มาก่อนเลย มาทำสวนแล้วกลับบ้านแทบไม่เคยคุยกับใครในละแวกนั้น และก็ไม่เคยไปต่อว่าชายคนนี้ที่มาเบิ้ลเครื่องใส่ เพราะไม่เคยสนใจหรือคิดจะมีเรื่อง จึงไม่รู้จริงๆว่าสาเหตุที่ชายคนนี้ไล่ยิงตนนั้นเพราะอะไร แต่นาทีนั้นคิดว่าตัวเองน่าจะไม่รอดแต่ตอนนี้สงสารหลานสาวมากที่ต้องมารับเคราะห์ถูกยิงบาดเจ็บอยากให้เป็นตนมากกว่า.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

ตาขับรถทับศีรษะหลานวัย 1 ขวบ ดับสลด

สุราษฎร์ธานี 5 ก.ค. – สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ ตายายร้องไห้แทบขาดใจ สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ หลังจากที่ตากลับจากซื้อของที่ตลาด เมื่อมาถึงบ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำในอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ขนของลงจากรถเสร็จ ระหว่างจะนำรถไปจอดไม่ทันสังเกตว่าหลานวิ่งอ้อมรถมา รู้อีกทีล้อรถหน้าด้านคนขับเหยียบเข้าที่ศีรษะของหลานแล้ว ทำให้หลานเสียชีวิตทันที เมื่อเห็นร่างหลาน ตาและยายร้องไห้แทบขาดใจ เพราะเลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่เล็กๆ ก่อนนำร่างส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลพระแสงต่อไป.- สำนักข่าวไทย

อ.อ๊อด ชี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ กรณีรถยนต์ไฟฟ้า อดีตสส.สงขลา ไฟไหม้

นครปฐม 5 ก.ค. – อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ แสดงความคิดเห็นว่า กรณีรถยนต์ไฟฟ้าของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา เกิดไฟไหม้ ถือเป็นเหตุการณ์ไม่ปกติ และแบตเตอรี่อาจจะมีปัญหา จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก Sirichok Sopha หรือ นายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แชร์ประสบการณ์ โดยระบุข้อความว่า “เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน รถคันนี้ซื้อจากศูนย์หาดใหญ่เมื่อ 2 ปีก่อน ผมใช้งานตามปกติ และที่สำคัญคือ ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆแต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียวรถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือ ซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัวไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา” รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม […]

สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน

กทม. 5 ก.ค.-สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน กรณีถูกชี้มูลร่วมลงชื่อเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่มีรายงานข่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ กรณีข้าราชการครูผู้รับผิดชอบงานการเงินของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ได้ร้องขอความเป็นธรรมภายหลังถูกชี้มูลความผิดร่วมกับอดีตผู้อำนวยการโรงเรียน จากการลงนามในเอกสารเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน โดยยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้นสังกัด และยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งลงโทษทางวินัยออกโดยเขตพื้นที่ฯ แต่อย่างใด สำหรับการดำเนินการในขั้นต่อไป สพฐ. ได้จัดเตรียมนิติกรจากส่วนกลาง เพื่อสนับสนุนการให้คำปรึกษาทางกฎหมายและการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ครูสามารถใช้สิทธิในการอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 ได้อย่างเต็มที่ เลขาธิการ กพฐ. ระบุว่า กรณีนี้สะท้อนถึงความจำเป็นที่ต้องทบทวนบทบาทภาระงานของครูในภารกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอน โดยเฉพาะงานด้านการเงินและพัสดุ ซึ่งมีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงเชิงกฎหมายสูง สพฐ. จึงอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบสนับสนุนภายในโรงเรียน เพื่อให้โครงสร้างงานสนับสนุนมีความเหมาะสมกับวิชาชีพครูมากยิ่งขึ้น “ข้าราชการครูที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตจะไม่ต้องเผชิญกระบวนการตามลำพัง สพฐ. พร้อมอยู่เคียงข้างและสนับสนุนในทุกขั้นตอน เพื่อให้สามารถใช้สิทธิและเข้าถึงความเป็นธรรมได้อย่างมั่นใจครับ” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว.-416.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ศิริโชค” เชื่อรถถูกเผาโยงการเมือง ตร.เร่งหาเบาะแสคนร้าย

6 ก.ค.- “ศิริโชค” ฟันธงเหตุรถยนต์ถูกลอบวางเพลิงมาจากเรื่องการเมือง ด้านตำรวจเร่งหาเบาะแสคนร้าย ส่วนบริษัทเจ้าของรถออกหนังสือชี้แจงสาเหตุไฟไหม้ ความคืบหน้าเหตุการณ์ไฟไหม้ รถ GWM HAVAL H6 PHEV ของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ 4 สมัย ซึ่งจอดอยู่ในบริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา เมื่อช่วงตี 3 วานนี้ (5ก.ค.68) ทำให้รถเสียหายทั้งคันและได้เข้าแจ้งความกับตำรวจสภ.นาทวี เพื่อให้ตรวจสอบว่าเป็นความบกพร่องของรถหรือลอบวางเพลิง ล่าสุดในทางคดีมีการยืนยันชัดเจนแล้วว่า เป็นการจงใจลอบวางเพลิง โดยหลังจากที่วานนี้ พนักงานสอบสวน สภ.นาทวี และตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหาสาเหตุเพลิงไหม้รถยนต์คันนี้ ปรากฏว่าพบมียางรถยนต์จำนวน 6 เส้นถูกเผาเหลือแต่เส้นใยเหล็ก พร้อมด้วยตับสิเหรงที่ใช้มุงหลังคา ซึ่งน่าจะเป็นเชื้อเพลิงในการจุดไฟเพื่อทำการเผารถยนต์คันนี้อยู่บริเวณใต้ท้องรถ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานและประสานชุดสืบสวนลงพื้นที่หาเบาะแสผู้ก่อเหตุ ไม่ใช่เป็นอุบัติเหตุหรือความบกพร่องของรถแต่อย่างใด ด้านนายศิริโชค เปิดเผยว่า ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าเป็นการวางเพลิงโดยใช้ยางรถยนต์ ตับสิเหรง และใช้น้ำมันเบนซินราด จากที่ตนสังเกตแม้ว่าทางศูนย์หลักฐานจะยังไม่ยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่ว่าดูจากรูปการแล้วพุ่งเป้าไปที่คนวางเพลิง ไม่ใช่ความบกพร่องของรถ แต่มีความตั้งใจที่จะให้เป็นความบกพร่องของรถเพราะเป็นรถไฟฟ้า แต่สุดท้ายจากหลักฐานที่พบบ่งชี้ไปที่การวางเพลิง มองว่ามาจากเรื่องการเมืองมากกว่าเรื่องการสร้างสถานการณ์ด้านความมั่นคงหรือเรื่องส่วนตัว เพราะตนไม่มีความแค้นส่วนตัวกับใครไม่ได้ทำธุรกิจในพื้นที่ ไม่มีเรื่องชู้สาว สิ่งที่เดียวที่มีคือการเป็นนักการเมือง […]

รวบ “สังข์” ผู้ต้องหาแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร

6 ก.ค.- ตำรวจบุกรวบ “สังข์” ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด หลังก่อเหตุแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร จนมุมบนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ ตำรวจสอบสวนกลาง หรือ CIB จับกุมนายเกียรติศักดิ์ หรือ สังข์ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด ได้บนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวมาลงบันทึกการจับกุมที่ สน.เตาปูน และอยู่ระหว่างการควบคุมตัวกลับมาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองสกลนคร นายเกียรติศักดิ์ ก่อเหตุหลบหนีจากห้องควบคุม สภ.เมืองสกลนคร เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 13 มิถุนายน เจ้าหน้าที่พบเบาะแสหลบซ่อนตัวบนเทือกเขาภูพาน ขณะเดียวกันโซเชียลพากันแชร์ภาพนายเกียรติศักดิ์ พบว่า เป็นบุคคลอันตรายที่อาจมีอาวุธ หากใครพบเห็นห้ามเข้าใกล้ ทั้งนี้ สภ.เมืองสกลนคร ได้ปูพรมค้นหาตามล่าตัวและตั้งรางวัลนำจับ เป็นเงิน 3 หมื่นบาทให้กับผู้แจ้งเบาะแส .-สำนักข่าวไทย

เจ้าอาวาสวัดดังพิษณุโลก ย่องลาสิกขา หลังพัวพันข่าวดัง

พิษณุโลก 6 ก.ค.- “พระ ส.” เจ้าอาวาสวัดดัง จ.พิษณุโลก ย่องลาสิกขาเงียบ หลังพัวพันข่าวดัง ขณะทางวัดยังไม่แถลงชี้แจงเกี่ยวกับสาเหตุ เจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลก ได้ลาสิกขาอย่างเงียบ ๆ โดย พระครูวิโรจน์ธรรมากร เจ้าอาวาสวัดกรุงกรัก เจ้าคณะตำบลท่านางงาม เขต 2 เลขานุการเจ้าคณะอำเภอบางระกำ เป็นผู้ทำพิธีลาสิกขาให้พระ ส. ท่ามกลางกระแสข่าวว่าเป็นสามีคนแรกของหญิงสาวที่รู้จักในฉายา “น้องดอกไม้” หรือสีกา ก. และยิ่งได้รับความสนใจเมื่อมีข้อมูลระบุว่า น้องดอกไม้มีบุตรสาววัย 13 ปี ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ในอดีตของพระ ส. ขณะทางวัดยังไม่มีการออกแถลงชี้แจงเกี่ยวกับสาเหตุของการลาสิกขา แต่แหล่งข่าวใกล้ชิดเผยว่าเป็นการตัดสินใจส่วนตัวของเจ้าอาวาส เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของวัดและศาสนา -สำนักข่าวไทย

ไทยเปิดด่านกรณีพิเศษ ช่วยนายพลกัมพูชาป่วยฉุกเฉิน

สระแก้ว 6 ก.ค.- เพื่อมนุษยธรรม! ไทยเปิดด่านเป็นกรณีพิเศษ ช่วยเหลือนายทหารระดับสูงกัมพูชา ป่วยฉุกเฉิน ส่งรักษาโรงพยาบาล อ.อรัญประเทศ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ยังคงตึงเครียดและมีการปิดจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ ได้เกิดภาพความประทับใจ เมื่อหน่วยงานความมั่นคงของไทย ร่วมกันตัดสินใจเปิดด่านเป็นกรณีพิเศษ เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่นายทหารระดับสูงกัมพูชา โดยเจ้าหน้าที่ไทยจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันอำนวยความสะดวกบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา เพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาลเกษมราษฎร์อินเตอร์เนชั่นแนลอรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ เพื่อทำการรักษาให้ทันท่วงที ปัจจุบันด่านคลองลึก ยังคงปิดทำการจากปัญหาชายแดนที่ยังไม่คลี่คลาย แต่การดำเนินการดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า หลักมนุษยธรรมและความสัมพันธ์อันดีที่มีต่อกันนั้นอยู่เหนือปัญหาความขัดแย้งใด ๆ ทั้งปวง และยังแสดงถึงมิตรภาพที่แน่นแฟ้นของเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติงานของทั้งสองประเทศ -สำนักข่าวไทย