กรุงเทพฯ 8 มี.ค.- กลุ่ม ปตท. ปรับแผนรับมือราคาน้ำมันดิ่ง ขาดทุนสตอก โดยปรับลดสตอกน้ำมันดิบให้ต่ำที่สุด “ชาญศิลป์”มองแง่ดีราคาน้ำมันร่วง เป็นวิกฤตแค่ชั่วคราว
หลัง ราคาน้ำมันดิบตลาดล่วงหน้าร่วงลงแรง โดยเช้านี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ดิ่งกว่าร้อยละ 32 แตะระดับ 27.96 30.56 เหรียญ/บาร์เรลส่งผลให้ปีนี้ ราคาน้ำมันดิบร่วงลงกว่าร้อยละ50 นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท.( ปตท.) ระบุว่า กลุ่มปตท.ติดตามสถายการณ์และได้ บริหารจัดการแผนรองรับสถานการณ์ เช่น การลดสตอกน้ำมันดิบ ในส่วนที่ธุรกิจโรงกลั่นและการค้าที่เกี่ยวข้อง เพื่อลดผลกระทบจากการขาดทุนสตอก ที่อาจเกิดขึ้นในไตรมาส 1/63 โดยเกิดจากหลายปัจจัย ต่อเนื่องจากสงครามการค้า ,การแพร่ระบาดของ โควิด-19 และล่าสุดความขัดแย้งระหว่างกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร ( โอเปกพลัส) ส่งผล ทำให้กลุ่มกองทุนเก็งกำไรเทขายสัญญาน้ำมันออกมา
“ราคาน้ำมันลงดีต่อประเทศไทย แต่ก็มีผลต่อผู้ค้าและโรงกลั่นฯที่จะประสบผลกระทบด้านการขาดทุนสตอก ( stock loss) ดังนั้นต้องลดสำรองลง โรงกลั่นมีสตอกตามกฎหมาย และสตอกที่เก็บเอง ซึ่งก็จะมีปริมาณผันผวน ตามดีมานด์ ที่ยังโอเวอร์ซัพพลาย ระยะสั้น ต้องปรับตัวเอง ด้วยการลดค่าใช้จ่าย และเริ่มทำธุรกิจที่ไม่ขึ้นลงกับราคาน้ำมัน เช่น ไฟฟ้า คาดจะเป็นการชั่วคราวที่กระทบโรงกลั่นและปิโตรเคมี อย่างไรก็ตาม ภาพรวม กลุ่มปตท.ก็ยังเดินหน้าลงทุนตามแผนงานที่วางไว้ และมองโอกาสการลงทุนมากขึ้นจากตลาดแรงงานที่มีอยู่มาก และค่าเงินบาทที่ยังอยู่ในโทนแข็งค่า”นายชาญศิลป์ กล่าว
นายชาญศิลป์ กล่าวว่า กลุ่มพลังงานผ่านภาวะวิกฤติมาหลายรอบ เช่นปี 51 จากวิกฤตแฮมเบอเกอร์ และช่วงปี 57-58 ที่มีการค้นพบการผลิตจาก shale oil และ shale gas ช่วงนั้นราคาดิ่ง ทางกองทุนเก็งกำไรก็จะถอนเงินจากน้ำมันไปลงทุนที่อื่น อย่างไรก็ตามมองว่าการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันลักษณะนี้จะเป็นชั่วคราว หลังจากนั้นก็จะฟื้นกลับขึ้นมาตามภาวะเศรษฐกิจและกองทุนต่าง ๆ ก็จะกลับเข้ามาซื้อใหม่ โดยคาดว่า ราคา30-40 เหรียญ/บาร์เรล กลุ่มผู้ผลิต โดยเฉพาะในตะวันออกกลางที่มีรายได้หลักจากน้ำมัน จะต้องปรับตัวเอง เช่น ลดการผลิต เพื่อทำให้ราคาฟื้นตัวได้ ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คาดว่า จะดีขึ้น โดยปัจจุบันก็เริ่มคงที่ในจีนและในช่วงจากนี้จนถึงสิ้นปีนี้ก็น่าจะมียารักษาได้ก็จะลดผลกระทบดังกล่าวได้เช่นกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ ด้านตลาดหุ้นถูกกดดันอย่างหนัก โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มพลังงาน หุ้นปตท.ร่วงลง ราคาต่ำสุดอยู่ที่ ที่ 26.75 บาท/หุ้น ส่วน ปตท.สผ.ร่วงสุดอยู่ที่ 76.25 บาท/หุ้น อย่างไรก็ตาม ราคากระเตื้องขึ้นเพราะมีผู้ช้อนเก็บไว้ในพอร์ต ราคาร่วงลงมาจากราคา น้ำมันถูกกดดันอย่างหนักเมื่อคืนนี้ เป็นราคาร่วงดิ่งวันเดียวหนักสุดตั้งแต่ปี 2534 หลังเกิดสงครามราคาน้ำมัน โดย วานนี้ (8 มี.ค.) ซาอุดีอาระเบียประกาศเพิ่มกำลังผลิตและลดราคาน้ำมันลง ร้อยละ 20 ในตลาดหลัก นักวิเคราะห์ระบุว่า เป็นการ ประกาศสงครามราคาน้ำมัน (Oil Price war) กดราคาเพื่อแย่งส่วนแบ่งตลาดคืนจากสหรัฐและรัสเซีย หลังการประชุมกลุ่มโอเปกและพันธมิตร เมื่อวันที่ 6 มี.ค. ซาอุฯและรัสเซียไม่สามารถตกลงเรื่องปริมาณการผลิตร่วมกันได้
บทจ.ไทยออยล์รายงานว่า กลุ่มโอเปกได้เสนอให้ปรับลดการผลิตน้ำมันลงอีก 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน นับตั้งแต่ต้นเดือนเม.ษ. ไปจนถึงสิ้นปีนี้ ซึ่งจะส่งผลให้กลุ่มโอเปกและพันธมิตรจะมีการลดกำลังการผลิตทั้งหมด 3.2 ล้านบาร์เรล/วัน เพื่อชดเชยความต้องการใช้น้ำมันที่หายไปเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างไรก็ตามรัสเซียไม่เห็นด้วยกับปริมาณการลดกำลังการผลิตดังกล่าว โดยยืนยันให้กลุ่มโอเปกและพันธมิตรคงการลดกำลังการผลิตตามข้อตกลงเดิมในปีที่แล้วที่ระดับ 1.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ต่อไปจนถึงสิ้นไตรมาส 1 ทั้งนี้กลุ่มโอเปกและพันธมิตรจะพิจารณาสถานการณ์และอาจจะประชุมอีกครั้งหากมีความจำเป็น
นอกจากนี้ ตลาดยังมีความกังวลต่อเนื่องจากการแพร่ระบาดโควิด-19 เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 1 แสนคนทั่วโลก และมียอดผู้เสียชิวิตมากกว่า 3,400 คน ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันในวงกว้าง . – สำนักข่าวไทย