รัฐบาลเปิดศูนย์ข้อมูลโควิด-19

ทำเนียบฯ 6 มี.ค.- รัฐบาลเปิดศูนย์ข้อมูลมาตรการแก้ไขปัญหาจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19)  โฆษก กต.ระบุประสานกับทางเกาหลีใต้ให้กักตัวแรงงานไทยก่อน 14 วัน ระหว่างรอเดินทางกลับ และให้เพิ่มมาตรการเข้มงวดที่สนามบินอินชอน หากพบมีไข้ หรืออุณหภูมิสูงกว่า 37.5 องศา จะไม่อนุญาตให้เดินทาง เริ่ม 9  มี.ค. ด้าน อธิบดีกรมการค้าภายใน ยันหน้ากากอนามัยจะจัดสรรให้โรงพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ก่อน วันละ 7 แสนชิ้น กำชับคุมราคาอยู่ที่ 2.50 บาทต่อชิ้น หากพบขายเกินราคามีโทษปรับและจำคุก


นายเทวัญ ลิปตพัลลภ  รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลมาตรการแก้ไขปัญหาจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) แถลงข่าวเปิดศูนย์ว่า วัตถุประสงค์การจัดตั้งศูนย์ คือ 1.เป็นศูนย์รวบรวมข้อมูลข่าวสาร เกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19  2.รับข้อมูลความเดือดร้อนของประชาชนในทุกมิติ จนถึงการให้ความข่วยเหลือเยียวยาอย่างทันท่วงที ศูนย์นี้จะเป็นหน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับประชาชน ผ่าน สายด่วน 1111  3.รับบริจาคเงินและสิ่งของตามระเบียบเพื่อบรรเทาการแพร่ระบาดของโรค โดยจะมีการแถลงข่าวทุกวันเวลา 14.00-15.00 น. ยกเว้นวันหยุด แต่หากมีเรื่องเร่งด่วนจะแถลงในวันหยุดด้วย ปัญหานี้ไม่ใช่ปัญหาของคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นปัญหาของคนทั้งประเทศ หวังว่าทุกคนจะช่วยกันร่วมมือร่วมใจกันให้ผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้

นายเชิดเกียรติ อัตถากร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงมาตรการป้องกันกรณีแรงงานไทยผิดกฎหมายที่เกาหลีใต้จะเดินทางกลับไทยในช่วงที่มีการแพร่ระบาดอย่างหนักว่า ภาพรวมของแรงงานไทยในเกาหลีใต้ มีประมาณ 209,909 คน แบ่งเป็นแรงงานไทยผิดกฎหมาย จำนวน 152,439 คน และมีแรงงานไทยถูกกฎหมาย จำนวน 57,470 คน


โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ทางการเกาหลีใต้มีมาตรการจูงใจให้แรงงานไทยผิดกฎหมายไปรายงานตัวได้และลงทะเบียนกลับประเทศโดยไม่ผิดกฎหมายก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งในช่วงแรกมีคนเดินทางกลับไม่มากนัก แต่เมื่อมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เกาหลีใต้ ทำให้มีแรงงงานลงทะเบียนกลับไทยมากขึ้น โดยข้อมูลจนถึงวันที่ 1 มีนาคม 2563  มีผู้ลงทะเบียนกลับไทย 5,386 คน และกลับมาแล้ว4,727 คน โดยกระบวนการตรวจเอกสารต่างๆ จะใช้เวลา 3-15 วัน ในการดำเนินการก่อนเดินทางกลับ

นายเชิดเกียรติ  กล่าวว่า ล่าสุดหลังจากที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ผลักดันอย่างต่อเนื่องกับรัฐบาลเกาหลีใต้ เพื่อให้เพิ่มการตรวจคัดกรองก่อนจะเดินทางกลับประเทศไทย  เพื่อช่วยป้องการแพร่ระบาดของโรคในประเทศไทย  โดยมีมาตรการคัดกรองผู้โดยสารขาออก ที่สนามบินอินชอน  (exit screening) ดังนี้ โดยผู้โดยสารจะถูกตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายรวม 3 ครั้ง ก่อนเดินทางออกนอกประเทศด้วยอุปกรณ์ตรวจวัดอุณหภูมิที่ติดตั้งไว้ 3 บริเวณ ได้แก่ ประตูทางเข้าอาคารผู้โดยสารขาออก ,จุดตรวจหนังสือเดินทาง ก่อนกระบวนการตรวจร่างกาย และประตูทางออกก่อนขึ้นเครื่อง โดยผู้โดยสารที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 37.5 องศาจะถูกคัดกรองและไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทาง ทั้งนี้จะใช้มาตรการดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป ซึ่งถือเป็นการยกระดับการตรวจคัดกรองเพิ่มขึ้นในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค

“มาตรการเคร่งครัดที่ขอความร่วมมือไป คือขอให้แรงงานไทยที่เกาหลีใต้ กักตัวเองอยู่บ้าน 14 วัน ระหว่างรอการเดินทางกลับไทย  และขอให้เพิ่มมาตรการเข้มงวด คนไทยกลุ่มดังกล่าว ก่อนเดินทางออกนอกประเทศ ที่สนามบินอินชอน ที่จะเดินทางมาประเทศไทย รวมถึงขอข้อมูลจากตม.เกาหลีใต้ สำหรับคนไทยที่จะเดินทางกลับมายังประเทศไทย เพื่อส่งข้อมูลมาที่ไทยให้เจ้าหน้าที่ไทยได้ติดตามตัวถึงแหล่งพำนักในประเทศไทยได้ต่อไป” นายเชิดเกียรติ  กล่าว


จากนั้นนพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ที่ปรึกษาโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงมาตรการคัดกรองของกระทรวงสาธารณสุข ว่า หากพบผู้ที่มีอาการไม่สบายตั้งแต่ที่สนามบินจะส่งไปโรงพยาบาลในสังกัดทันที นอกจากนี้จะนำบุคคลที่กลับมาจากพื้นที่เสี่ยงไปยังจุดรับรองที่ได้จัดเตรียมไว้ ส่วนที่มาจากพื้นที่เสี่ยงน้อยจะให้อยู่พื้นที่ที่เหมาะสม และนอกจากนี้จะมีการจัดหลุมจอดเครื่องบินพิเศษเพื่อคัดกรองตั้งแต่บนเครื่องบิน กระทรวงสาธารณสุขทราบข้อมูลทุกคนที่เดินทางเข้าประเทศไทย เพราะได้ประสานกับตม. และมีการตรวจคัดกรอง พร้อมทั้งจะให้ความรู้และข้อปฎิบัติ แก่ผู้ที่เดินทางกลับ รวมทั้งการติดตามไม่ใช่แค่ที่สนามบิน แต่ตามไปถึงที่บ้าน สามารถไปรับตรวจผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็ว แต่หากผู้ที่เดินทางกลับมาจากกลุ่มประเทศเสี่ยงไม่ให้ความร่วมมือ จะบังคับใช้มาตรการทางกฎหมาย

ที่ปรึกษาโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เชื้อโควิด-19 ไม่สามารถติดต่อจากคนสู่คนได้ในระยะเกิน 1 เอื้อมแขน เพราะไวรัสจะตกลงพื้นก่อน ส่วนมากจะติดจากการจับและสัมผัส  สำหรับตัวเลขล่าสุด 47 ราย มีผู้เสียชีวิต 1 คน ตัวเลขยังคงเดิม และหากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามมายัง สายด่วน 1422   

ด้านนายจักษ์ พันธ์ชูเพชร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ทุกวันจะมีการประชุมวีดีโอคอนเฟอเร้นท์เพื่อประสานกับทุกหน่วยงานทั้งส่วนกลางและระดับจังหวัด นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ประจำที่สนามบินที่จะมีการส่งข้อมูลระหว่างกันกับกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นการบูรณาการทำงานระหว่างกัน คนที่เดินทางมาจากเกาหลีใต้ทุกคนไม่ใช่ผีน้อย เพราะแรงงานที่ถูกกฎหมายเดินทางกลับมาในช่วงเทศกาลสงกรานต์ก็มี ยืนยันว่ากระทรวงแรงงานจะเก็บข้อมูลแรงงานไทยทั้งหมด

นายสมคิด จันทมฤก รองปลัดกระทรวงมหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย  กล่าวว่า จะมีการส่งข้อมูลไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอและท้องถิ่นเพื่อให้ติดตามเฝ้าระวังบุคคลที่กลับมาจากประเทศเสี่ยง 

นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวถึงสถานการณ์การขาดแคลนหน้ากากอนามัยว่า เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ต้องจัดลำดับความสำคัญเพราะกำลังการผลิตต่อวันอยู่ที่ 1ล้าน 2 แสนชิ้น ซึ่งผลิตได้ลดลงจากเดิมอยู่ที่ 1ล้าน 3 แสนชิ้น เนื่องจากวัตถุดิบไม่เพียงพอ และเมื่อมีความต้องการจำนวนมากผลิตอย่างไรก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ดังนั้นจึงต้องจัดลำดับความสำคัญ โดยจะจัดสรรให้โรงพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ ก่อนเป็นอันดับแรก เริ่มต้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แจกจ่ายให้กับโรงพยาบาล วันละ 7 แสนชิ้น แต่หากไม่เพียงพออาจมีการเติมกำลังการผลิต 5 แสนชิ้นเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการ 

อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า หน้ากากอนามัยดังกล่าวจะรวมถึงหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ สีเขียว และหน้ากาก เอ็น 95 สำหรับการจัดอันดับความสำคัญต่อมา คือบุคคลที่มีความเสี่ยงสัมผัสกับกลุ่มเสี่ยง เช่นเจ้าหน้าที่สนามบิน เป็นต้น ส่วนที่เหลือจากนั้นจึงจะกระจายไปยังร้านค้าขายส่ง ขายปลีก เพื่อกระจายไปให้ถึงมือประชาชน นอกจากนี้ยังมีรถโมบายกระจายไปขายหน้าอนามัยให้กับประชาชนด้วย ขอยืนยันว่าไม่มีการกักตุนเพราะกระทรวงพาณิชย์เข้าไปควบคุมถึงโรงงานการผลิต และราคาต้องไม่เกิน 2.50 บาทต่อชิ้น หากพบขายเกินราคา จะมีโทษ จำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท โดยจะเริ่มวัน จันทร์ ที่9 มี.ค.นี้

นอกจากนี้ทางศูนย์ ยังเปิดเลขบัญชีให้บริจาคเงิน ผ่านกองทุนสนับสนุนการดำเนินการแก้ไขปัญหาจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาทำเนียบรัฐบาล เลขที่บัญชี 067-0-13829-0 

จากนั้นเป็นช่วงถามตอบ โดยสื่อถามว่าจะดูแลแรงงานไทยจากเกาหลีใต้ที่เดินทางกลับมาแล้วอย่างไร ซึ่งทางกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า มีการทยอยเดินทางกลับมาตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว จึงเลยระยะเวลาการควบคุมตัว 14 วันแล้ว นอกจากนี้ยังมีการติดตามตัวตั้งแต่ที่สนามบินจนมาถึงไทย ยอมรับว่ามีความเสี่ยงแต่น้อยมาก ๆ

เมื่อถามว่าในช่วงกักตัว 14 วัน จะต้องปฎิบัติตัวอย่างไรบ้าง นายแพทย์รุ่งเรือง กล่าวว่า มีมาตรการ 10 ข้อ แนะนำให้ทำใน 14 วัน  อาทิ การอยู่กับบ้าน กักบริเวนตัวเอง สวมหน้ากากอนามัย แยกทานข้าว ทำความสะอาดบ้าน เมื่อถามว่าคนที่กลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงแล้วออกไปใช้ชีวิตประจำวันตามที่มีการรายงานออกมานั้น  นพ.รุ่งเรือง กล่าวว่า ส่วนใหญ่ที่เห็น เกิน 14 วันแล้ว  ซึ่งยังควบคุมได้ และเท่าที่เห็นผ่านโซเชียลคือเป็นส่วนน้อย ส่วนการใช้แอฟพลิเคชั่นติดตามตัว ก็เริ่มมีการดำเนินการหาแนวทางบ้างแล้ว โดยจะมีการเพิ่มเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอเข้ามาใช้ในอนาคต.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

“ทวี” แจง “ดีเจแมน-ใบเตย” ได้เยียวยา แต่ต้องรอคดีถึงที่สุด

“ทวี” แจง “ดีเจแมน-ใบเตย” ได้รับค่าเยียวยา หลังศาลชั้นต้นยกฟ้อง แต่ต้องรอให้คดีถึงที่สุด บอกหากไม่ได้รับความยุติธรรม ฟ้องรัฐได้

ถนนมิตรภาพเข้าสู่ประตูอีสานรถเพิ่มขึ้น

เริ่มแล้วเทศกาลปีใหม่ ประชาชนออกเดินทางกลับภูมิลำเนาการจราจรถนนมิตรภาพ ปริมาณรถมาก ตำรวจทางหลวง เตรียมพร้อมอำนวยความสะดวก

หมอชิต 2 เริ่มคึกคัก คาดวันนี้จะมีผู้โดยสารหนาแน่นที่สุด

สถานีขนส่งหมอชิต 2 มีประชาชนบางส่วนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนาแล้ว แต่ยังไม่หนาแน่นนัก ด้าน บขส. คาดตลอดทั้งวันนี้จะมีผู้โดยสารหนาแน่นที่สุดถึง 120,000 คน

นายกฯ มอบคำขวัญวันเด็กประจำปี 2568

“แพทองธาร” นายกฯ มอบคำขวัญวันเด็ก ประจำปี 2568 “ทุกโอกาส คือ การเรียนรู้ พร้อมปรับตัวสู่อนาคตที่เลือกเอง” ระบุรัฐบาลเห็นคุณค่าในตัวเด็กๆ ทุกคน ขอให้ปรับตัวเรียนรู้ ให้เข้ากับสถานการณ์